HI-DIV เหมาะกับใคร?

กระทู้สนทนา


เนื่องจากช่วงนี้มีคนสนใจลงทุนกับกองทุน HI-DIV เป็นจำนวนมาก และ กองทุนก็เพิ่งประกาศเพิ่มทุนจาก 8000M เป็น 12000M
กระทู้นี้ไม่ได้มาเชียร์ หรือ มาขายของ เพราะเราก็คือนักลงทุนคนหนึ่งเท่านั้น เพียงแต่อยากจะแนะนำเพื่อนนักลงทุนหน้าใหม่ในเบื้องต้น
ว่ากองทุนนี้มีลักษณะอย่างไรในความคิดของเรา ซึ่งอาจจะผิดบ้าง ถูกบ้าง ก็ขอให้เพื่อนนักลงทุนนำสิ่งที่เป็นประโยชน์ไปประยุกต์ใช้ต่อไปแม้เพียงน้อยนิดก็ยังดี

HI-DIV เป็นกองทุนหุ้นประเภทจ่ายเงินปันผล ไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง ต่อปี ตามนโบายกองทุน โดยจ่ายในอัตราไม่น้อยกว่าร้อยละ 50 ของกำไรสุทธิตามรอบของริบบัญชี
เน้นลงทุนในหุ้นพื้นฐานดีที่มีประวัติการจ่ายเงินปันผลย้อนหลังอย่างน้อย 3 ปี ขึ้นไป
มีการปรับเปลี่ยนหุ้นตามสถานะการณ์ตลาดในแต่ละช่วง เป็นอันดับ 1 ประเภทกองทุนหุ้นที่จ่ายเงินปันผล ย้อนหลัง 3 ปี
จากการจัดอันดับของหนังสือ การเงิน-การธนาคาร ของรอบปี 2555

กองทุนหุ้นสามารถสร้างผลตอบแทนได้ 2 วิธี คือ จากเงินปันผล (DIVIDEND) และ จากส่วนต่างราคา (CAPITAL GAIN)

HI-DIV นั้นก็สามารถสร้างผลตอบแทนได้ทั้ง 2 วิธี แล้วแต่ จังหวะ-ต้นทุน-จริต-นิสัย-แนวทางการลงทุน ของแต่ละคน
บางคนก็เลือกลงทุนเพื่อสร้างกระแสเงินสดจากเงินปันผล บางคนก็เลือกลงทุนตามจังหวะและรอบของราคาเพื่อสร้างผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา แม้กระทั้งบางคนก็นำทั้ง 2 แนวทางมาผสมผสานกันเพื่อสร้างผลตอบแทน

เนื่องจาก HI-DIV เป็นกองทุนหุ้นปันผล ดังนั้น เวลากองทุนพิจารณาจ่ายเงินปันผล ราคาหน่วยลงทุนก็จะลดลงตามการตัดจ่ายเงินปันผล บวก-ลบ ตามตลาดหุ้นที่กองทุนถืออยู่อีกส่วนหนึ่ง เงินปันผลที่ได้รับจะต้องเสียภาษี 10% ถ้ารายได้ถึงเกณฑ์ ซึ่งมีผลให้ราคาจะไปไหนไม่มากนัก ราคาช่วงที่ต่ำสุด คือ ช่วงน้ำท่วม อยู่ที่ประมาณ 9.xx บาท  
และ ราคาช่วงที่สูงสุด คือ ช่วงปี 53 อยู่ที่ประมาณ 14.xx บาท ดังนั้นส่วนตัวคิดว่ากองทุนนี้เหมาะสำหรับการสะสมหน่วยลงทุน เพื่อรับเงินปันผลในระยะยาว
มากกว่า การสร้างผลตอบแทนจากส่วนต่างราคา เพราะเรามองว่าการเข้าออกตลาดบ่อยเกินไปเหมือนนำตนเองเข้าหาความเสี่ยงมากเท่านั้น โดยที่เราไม่รู้ว่าอนาคตจากการตัดสินใจของเรานั้นจะเป็นอย่างไร จะเข้าลงทุนอีกทีตอนไหน และ จังหวะใช่หรือไม่

สำหรับเราคิดว่าราคาที่น่าลงทุนควรอยู่ที่ 11.5 บาท ในสถานะการณ์ปัจจุบัน ลงทุนช่วงที่มั่นใจว่าราคาลดลงจริงๆเท่านั้น
คือ วัน XD และ วันที่ราคาลดลงมากๆ ตามตลาด ไม่ใช้วิธี DCA เพราะเรารอได้เพื่อให้ราคาลดลงมา และ มันมีผลกับจิตวิทยาการลงทุน เน้นการสะสมหน่วยลงทุนแบบ
ทบต้นเพื่อเงินปันผลที่มากขึ้นตามระยะเวลา เน้นการทำต้นทุนให้ต่ำกว่าราคาหน่วยลงทุนในปััจจุบัน เพื่อลดความเสี่ยงจากวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้น ที่สำคัญต้องเป็นเงินเย็นเท่านั้น ไม่ผลุบๆ โผล่ๆ ไม่ขายหน่วยลงทุน ถ้าเหตุการณ์ปกติ ไม่ให้ความสำคัญราคาที่ลดลงจากอุปทานหมู่แบบไร้เหตุผลหรือเชื่อกันตามข่าว แต่ถือเป็นโอกาสทองในการลงทุนเพิ่ม ราคาที่ขึ้นลงจึงไม่มีผลกับความรู้สึกของเรามากนักเพราะเราไม่ได้มอง "ราคา" เพื่อเก็งกำไร แต่เรามอง "รูปแบบ" ของรายได้ที่เข้ามาในระยะยาวเป็นสำคัญ

ราคาขึ้นรอรับเงินปันผล
ราคาลงซื้อเพิ่ม
ลงทุนแบบ WIN-WIN
หมีก็ดี กระทิงก็ดี
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่