http://www.prachachat.net/news_detail.php?newsid=1489378837
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วงในเผยรอคลังเปิดทางรายย่อยเข้าถือหน่วยกองทุนรวมวายุภักษ์ภายใน พ.ย. 2561 พร้อมเตรียมการโยกเงิน 9 พันล้าน เข้าลงทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ฟาก "ขุนคลัง" ชี้เปิดขายหน่วยลงทุน TFF ต่อประชาชนทั่วไป มูลค่ารวม 4 หมื่นล้าน ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า
แหล่งข่าวในวงการตลาดทุน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากมีการปิดกองทุนรวมวายุภักษ์และแปลงสภาพเมื่อปี 2556 จนถึงปัจจุบัน ที่กองทุนมีกระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจถือหุ้นสัดส่วนรวมกันเกือบ 100% นั้น ล่าสุดมีความคืบหน้าว่า ภายในเดือน พ.ย. 2561 กองทุนรวมวายุภักษ์อาจจะสามารถเปิดให้นักลงทุนทั่วไป (นักลงทุนสถาบันและรายย่อย) สามารถกลับเข้ามาถือหน่วยลงทุนได้ หลังจากเมื่อเดือน พ.ย. 2559 คณะกรรมการกองทุนรวมฯมีมติยืดระยะเวลาเปิดให้นักลงทุนทั่วไปเข้ามาลงทุนไปอีก 2 ปี
"กองทุนดังกล่าวได้แปรสภาพเป็นกองทุนเปิดไปเรียบร้อยแล้ว (จากเดิมที่เป็นกองทุนปิด) แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดระดมทุนให้กับประชาชนได้ เนื่องจากกระทรวงการคลังยังไม่ต้องการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทั่วไป" แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ รูปแบบการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์แบ่งออกเป็น 2 หน่วย คือ 1) หน่วยลงทุนประเภท ก. ซึ่งเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่มั่นคง อาทิ ตราสารหนี้ โดยมีกำหนดระยะเวลาการลงทุนหรือผลตอบแทนที่แน่นอน และ 2) หน่วยลงทุนประเภท ข. เน้นการลงทุนหุ้นทั้งในและต่างประเทศ คล้ายกับกองทุนรวมทั่วไปและผลตอบแทนจะเป็นไปตามภาวะตลาด โดยเปิดให้นักลงทุนทั่วไปเลือกลงทุนได้ตามความเสี่ยง ส่วนกระทรวงการคลังจะเน้นถือหุ้นเดิมที่คลังถือครองอยู่แล้ว
"จุดเด่นของกองทุน คือ ไถ่ถอนหน่วยลงทุนได้ตลอด แถมในอดีตก็ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 5-6% ต่อปี" แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ กองทุนวายุภักษ์ยังอยู่ระหว่างเตรียมนำเงินปันผลส่วนหนึ่งไปใส่ในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย(ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์)หรือ TFF ราว 9,000 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้กระทบต่อเงินของกองทุนมากนัก เพราะมีเงินที่ได้จากปันผลของบริษัทที่ได้เข้าไปลงทุนราวปีละ 10,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันกองทุนวายุภักษ์มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ทั้งหมดกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี และ บลจ.กรุงไทย เป็นผู้จัดการกองทุนฝ่ายละครึ่ง
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดตั้งTFF น่าจะแล้วเสร็จและเปิดขายหน่วยลงทุนให้กับประชาชนได้ภายใน 2-3 เดือนจากนี้ เพราะล่าสุดได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูล (ไฟลิ่ง) แล้ว ขณะที่ด้านอัตราผลตอบแทนของกองทุนทราบว่า บริษัทที่ปรึกษาประเมินไว้ที่ 7-8% ต่อปี ซึ่งภาครัฐก็พยายามทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด
"อีก 2-3 เดือนข้างหน้า ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์น่าจะออกขายให้กับประชาชนได้ เบื้องต้นได้คัดเลือกโครงการมอเตอร์เวย์ 2 สาย (ทางด่วนบูรพาวิถีและทางพิเศษฉลองรัช) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเข้ากองทุน มูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาทซึ่งเอามาเพียง 40-50% ของรายได้แต่ละสาย ไม่ได้เอามาทั้งหมด ขณะที่การบริหารจัดการยังเป็นของการทางพิเศษฯเหมือนเดิม" นายอภิศักดิ์กล่าว
รายย่อยลุ้นลงทุนกองวายุภักษ์ปี′61 คลังโยกปันผล 9 พันล.เข้าไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ผลตอบแทน 7-8%
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
วงในเผยรอคลังเปิดทางรายย่อยเข้าถือหน่วยกองทุนรวมวายุภักษ์ภายใน พ.ย. 2561 พร้อมเตรียมการโยกเงิน 9 พันล้าน เข้าลงทุนไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์ฟาก "ขุนคลัง" ชี้เปิดขายหน่วยลงทุน TFF ต่อประชาชนทั่วไป มูลค่ารวม 4 หมื่นล้าน ภายใน 2-3 เดือนข้างหน้า
แหล่งข่าวในวงการตลาดทุน เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า หลังจากมีการปิดกองทุนรวมวายุภักษ์และแปลงสภาพเมื่อปี 2556 จนถึงปัจจุบัน ที่กองทุนมีกระทรวงการคลังและรัฐวิสาหกิจถือหุ้นสัดส่วนรวมกันเกือบ 100% นั้น ล่าสุดมีความคืบหน้าว่า ภายในเดือน พ.ย. 2561 กองทุนรวมวายุภักษ์อาจจะสามารถเปิดให้นักลงทุนทั่วไป (นักลงทุนสถาบันและรายย่อย) สามารถกลับเข้ามาถือหน่วยลงทุนได้ หลังจากเมื่อเดือน พ.ย. 2559 คณะกรรมการกองทุนรวมฯมีมติยืดระยะเวลาเปิดให้นักลงทุนทั่วไปเข้ามาลงทุนไปอีก 2 ปี
"กองทุนดังกล่าวได้แปรสภาพเป็นกองทุนเปิดไปเรียบร้อยแล้ว (จากเดิมที่เป็นกองทุนปิด) แต่ก็ยังไม่สามารถเปิดระดมทุนให้กับประชาชนได้ เนื่องจากกระทรวงการคลังยังไม่ต้องการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนทั่วไป" แหล่งข่าวกล่าว
ทั้งนี้ รูปแบบการลงทุนของกองทุนรวมวายุภักษ์แบ่งออกเป็น 2 หน่วย คือ 1) หน่วยลงทุนประเภท ก. ซึ่งเน้นลงทุนในสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนที่มั่นคง อาทิ ตราสารหนี้ โดยมีกำหนดระยะเวลาการลงทุนหรือผลตอบแทนที่แน่นอน และ 2) หน่วยลงทุนประเภท ข. เน้นการลงทุนหุ้นทั้งในและต่างประเทศ คล้ายกับกองทุนรวมทั่วไปและผลตอบแทนจะเป็นไปตามภาวะตลาด โดยเปิดให้นักลงทุนทั่วไปเลือกลงทุนได้ตามความเสี่ยง ส่วนกระทรวงการคลังจะเน้นถือหุ้นเดิมที่คลังถือครองอยู่แล้ว
"จุดเด่นของกองทุน คือ ไถ่ถอนหน่วยลงทุนได้ตลอด แถมในอดีตก็ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 5-6% ต่อปี" แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ กองทุนวายุภักษ์ยังอยู่ระหว่างเตรียมนำเงินปันผลส่วนหนึ่งไปใส่ในกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย(ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์)หรือ TFF ราว 9,000 ล้านบาท ซึ่งไม่ได้กระทบต่อเงินของกองทุนมากนัก เพราะมีเงินที่ได้จากปันผลของบริษัทที่ได้เข้าไปลงทุนราวปีละ 10,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันกองทุนวายุภักษ์มีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการ (AUM) ทั้งหมดกว่า 2 แสนล้านบาท ซึ่งมีบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) เอ็มเอฟซี และ บลจ.กรุงไทย เป็นผู้จัดการกองทุนฝ่ายละครึ่ง
นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวว่า การจัดตั้งTFF น่าจะแล้วเสร็จและเปิดขายหน่วยลงทุนให้กับประชาชนได้ภายใน 2-3 เดือนจากนี้ เพราะล่าสุดได้ยื่นแบบแสดงรายงานข้อมูล (ไฟลิ่ง) แล้ว ขณะที่ด้านอัตราผลตอบแทนของกองทุนทราบว่า บริษัทที่ปรึกษาประเมินไว้ที่ 7-8% ต่อปี ซึ่งภาครัฐก็พยายามทำให้ผู้ลงทุนได้รับผลตอบแทนที่ดีที่สุด
"อีก 2-3 เดือนข้างหน้า ไทยแลนด์ฟิวเจอร์ฟันด์น่าจะออกขายให้กับประชาชนได้ เบื้องต้นได้คัดเลือกโครงการมอเตอร์เวย์ 2 สาย (ทางด่วนบูรพาวิถีและทางพิเศษฉลองรัช) ของการทางพิเศษแห่งประเทศไทยเข้ากองทุน มูลค่าประมาณ 40,000 ล้านบาทซึ่งเอามาเพียง 40-50% ของรายได้แต่ละสาย ไม่ได้เอามาทั้งหมด ขณะที่การบริหารจัดการยังเป็นของการทางพิเศษฯเหมือนเดิม" นายอภิศักดิ์กล่าว