“บียอนเซ” ตัดขาดสั่งพ่อห้ามเข้าใกล้หลาน


“บียอนเซ” นักร้องสาวชื่อดังที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในฐานะนักร้องและการเป็นแม่คน โดยให้กำเนิด “บลู ไอวี” ลูกสาววัย 14 เดือน ทำให้ครอบครัวของเธอเองสมบูรณ์ขึ้น แม้จะเป็นแม่คนแล้ว แต่เจ้าตัวยังยืนยันขอตัดขาดกับ “แมทธิว โนล์ส” พ่อแท้ๆ พร้อมสั่งห้ามแตะต้องตัวหลานสาวแม้แต่ปลายเล็บ
       
       โดยงานนี้ทาง แมทธิว โนล์ส ได้ออกมาให้สัมภาษณ์เผยความรู้สึกอย่างปวดร้าวว่า บียอนเซ ลูกสาวของเขาไม่อนุญาตให้เขาพบหน้าหลาน หลังจากตัดขาดกับเขาทั้งเรื่องงานและเรื่องชีวิตส่วนตัว
       
       ก่อนหน้านี้ บียอนเซ ก็เคยเผยถึงความสัมพันธ์ที่มีปัญหาระหว่างเธอกับผู้เป็นพ่อ ซึ่งเธอไล่เขาออกจากการเป็นผู้จัดการส่วนตัวเมื่อปี 2011
       
       ซึ่งแมทธิว ได้เผยหมดเปลือกถึงประเด็นดังกล่าวรวมถึงเรื่องที่ลูกสาวไม่ยอมให้เจอหน้าหลานที่ดูเหมือนว่าบียอนเซไม่ยอมให้อภัยเขาง่ายๆ ด้วย โดยเขากล่าวกับเดอะซันว่า “นี่ไม่ใช่การยุติข้อตกลงทางธุกิจกันแบบธรรมดาๆ นี่เป็นการยุติความสัมพันธ์ระหว่างพ่อกับลูกด้วย ซึ่งมันเจ็บปวดและทรมานมาก”
       
       “มันยากสำหรับผมที่จะปล่อยลูกไป มันยากสำหรับเราทั้งคู่ที่จะปล่อยไป พูดให้เคลียร์ๆคือ เราต่างก็ปล่อยให้สิ่งต่างๆ ผ่านไป แต่เธอไม่ยอมปล่อยผม มันต่างกันมากนะ แต่ผมก็พยายามที่จะคิดและมองในแง่ดีและพยายามทำทุกอย่างในทางที่ถูกต้อง”
       
       ด้านบียอนเซ ก็เคยเผยกับทางโอปราห์ วินฟรีย์ ในรายการ Oprah's Next Chapter ว่าทำไมเธอถึงตัดขาดกับผู้เป็นพ่อ
       
       “สักพักหนึ่งแล้วค่ะที่ฉันกับพ่อทำความเข้าใจกัน เมื่อตอนที่ฉันเพิ่ง 18 ฉันเริ่มจัดการงานของตัวเองมากขึ้น เขาก็เริ่มช็อก เราก็เริ่มมีปัญหากัน ฉันปฏิเสธกับบางงานแต่เขาก็ยังคงรับและลงบันทึกไว้ในตารางงาน”
       
       “จากนั้นฉันก็ต้องทำตามเพราะถ้าไม่ทำฉันก็ดูแย่ เราเริ่มทะเลาะกันบ้าง ก็นานประมาณ 2 ปีค่ะ พอฉันอายุ 20 เขาก็เริ่มรู้ตัวแล้วว่า “โอ้ เธอโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว ถ้าเธอไม่อยากทำอะไรเราก็บังคับเธอไม่ได้อีกต่อไปแล้ว””
       
       ความสัมพันธ์ระหว่างบียอนเซและแมทธิวแย่ขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะเมื่อแมทธิวแยกทางกับ ทีนา โนล์ส แม่ของบียอนเซ เมื่อปี 2009 หลังจับได้ว่าแมทธิว ไปมีลูกกับผู้หญิงคนอื่นทั้งๆ ที่อยู่ในสถานภาพสมรสกับทีนา ส่งให้บียอนเซตัดขาดกับผู้เป็นพ่ออย่างเด็ดขาดนับแต่นั้น

ข่าวจาก   :  ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9560000036884
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่