เรื่องนี้เชื่อว่าเป็นปัญหาสำหรับหลายๆ คน เพราะบางคนติดกาแฟมากถึงขนาดไม่กินข้าวได้ แต่ขาดกาแฟเหมือนขาดใจ ชีวิตจะเหี่ยวเฉาไปทั้งวัน
ทำการทำงานไม่ได้ แล้วถ้าอยู่ๆ เกิดท้องขึ้นมาล่ะ .... จะยังดื่มกาแฟได้อยู่หรือเปล่า ถ้าดื่มจะมีผลยังไงกับลูกน้อยบ้าง ... วันนี้มาดูกัน ^^
ข้อมูลจากงานวิจัยในปัจจุบันไม่พบว่ามีหลักฐานถึงความเกี่ยวโยงระหว่างการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในระหว่างการตั้งครรภ์กับความพิการของทารกในครรภ์
มีการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนระหว่างตั้งครรภ์ไม่ทำให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ แต่การให้คาเฟอีนในขนาดสูงอาจจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการเปลี่ยนแปลงของสารพันธุกรรม (gene mutation) เมื่อได้รับรังสี (radiation) หรือสารเคมีบางอย่างได้ นอกจากนี้พบว่าถ้าฉีดคาเฟอีนเข้าไปในกระแสเลือดของแกะ จะทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงมดลูกลดลงประมาณ 5-10%
สำหรับการศึกษาในคน ก็มีรายงานว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณสูง เทียบเท่ากับการดื่มกาแฟมากกว่า 5 แก้วต่อวัน มีความสัมพันธ์กับการแท้ง
อย่างไรก็ตาม การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณปานกลาง คือ มีระดับคาเฟอีนน้อยกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวัน "ไม่ได้เพิ่ม" อัตราการคลอดทารกน้ำหนักตัวน้อย, ภาวะโตช้าในครรภ์ หรือ การคลอดก่อนกำหนด
แต่พบว่าเมื่อเทียบกันแล้วการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนปริมาณมากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวันตลอดการตั้งครรภ์ จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดทารกโตช้าในครรภ์ประมาณ 1.4 เท่า เมื่อเทียบกับคนที่ได้รับปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่า 100 มิลลิกรัมต่อวัน
จากข้อมูลทั้งหมดทั้งปวง มีคำแนะนำจาก The American Dieteric Association ปี 2002 เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ก
ารดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในระหว่างตั้งครรภ์ ควรจำกัดอยู่ที่น้อยกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวัน
คิดง่ายๆ ก็คือ ปริมาณไม่เกินการดื่มกาแฟชนิด percolated coffee
(เป็นกาแฟที่ชงแบบใส่กาแฟในที่กรองแล้วให้น้ำร้อนผ่านกาแฟลงมา .. อันนี้เปิดหาเพิ่มใน Google นะคะ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า)
แก้วขนาดประมาณ 140 มิลลิลิตร 3 แก้วนั่นเอง
ปัจจุบันกาแฟมีมากมายหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีปริมาณคาเฟอีนที่แตกต่างกัน นอกจากกาแฟแล้ว โอวัลติน โกโก้ น้ำอัดลมบางชนิดก็ยังมีคาเฟอีนผสมในระดับที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นคุณผู้อ่านอาจจะต้องสังเกตฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือว่าหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าเครื่องดื่มที่เราดื่มนั้นมีปริมาณคาเฟอีนผสมอยู่เท่าไหร่
ถ้าแนะนำง่ายๆ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องดื่มซะจบเรื่อง แต่ถ้ามันไม่ได้จริงๆ 1 แก้วขนาด 250 มิลลิลิตรก็พอหยวนๆ ได้
ถ้ากินกาแฟไปแล้ว โกโก้ ชาเย็น ช็อคโกแลต ของวันนั้นก็หมดโควต้า ส่วนน้ำอัดลมมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อยู่แล้วแถมยังน้ำตาลเยอะอีกก็เลี่ยงซะ
ทำได้แบบนี้หมอว่าก็โอเคล่ะนะ ^^
(ปล. คำแนะนำนี้สำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีความเสี่ยงเท่านั้น ส่วนคุณแม่คนไหนเป็นเบาหวานหรือน้ำหนักเกินที่ต้องคุมอาหารหมดสิทธิ์นะจ๊ะนะ)
Reference : Williams obstetrics 23rd edition
Picture from : koraorganics.com
หมอเมษ์ - ใกล้มิตรชิดหมอ
Facebook
https://www.facebook.com/pages/ใกล้มิตรชิดหมอ/138161163029343
ตอนเก่าๆค่ะ
http://ppantip.com/topic/30266302
http://ppantip.com/topic/30270742
กินอย่างไร ไม่ทำร้ายลูกในท้อง ตอนที่ 3 : เมื่อว่าที่คุณแม่ติดกาแฟ
เรื่องนี้เชื่อว่าเป็นปัญหาสำหรับหลายๆ คน เพราะบางคนติดกาแฟมากถึงขนาดไม่กินข้าวได้ แต่ขาดกาแฟเหมือนขาดใจ ชีวิตจะเหี่ยวเฉาไปทั้งวัน
ทำการทำงานไม่ได้ แล้วถ้าอยู่ๆ เกิดท้องขึ้นมาล่ะ .... จะยังดื่มกาแฟได้อยู่หรือเปล่า ถ้าดื่มจะมีผลยังไงกับลูกน้อยบ้าง ... วันนี้มาดูกัน ^^
ข้อมูลจากงานวิจัยในปัจจุบันไม่พบว่ามีหลักฐานถึงความเกี่ยวโยงระหว่างการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในระหว่างการตั้งครรภ์กับความพิการของทารกในครรภ์
มีการศึกษาในสัตว์ทดลองพบว่าการดื่มเครื่องดื่มคาเฟอีนระหว่างตั้งครรภ์ไม่ทำให้เกิดความผิดปกติของทารกในครรภ์ แต่การให้คาเฟอีนในขนาดสูงอาจจะทำให้เพิ่มความเสี่ยงในการเกิดการเปลี่ยนแปลงของสารพันธุกรรม (gene mutation) เมื่อได้รับรังสี (radiation) หรือสารเคมีบางอย่างได้ นอกจากนี้พบว่าถ้าฉีดคาเฟอีนเข้าไปในกระแสเลือดของแกะ จะทำให้เลือดที่ไปเลี้ยงมดลูกลดลงประมาณ 5-10%
สำหรับการศึกษาในคน ก็มีรายงานว่าการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณสูง เทียบเท่ากับการดื่มกาแฟมากกว่า 5 แก้วต่อวัน มีความสัมพันธ์กับการแท้ง
อย่างไรก็ตาม การดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในปริมาณปานกลาง คือ มีระดับคาเฟอีนน้อยกว่า 500 มิลลิกรัมต่อวัน "ไม่ได้เพิ่ม" อัตราการคลอดทารกน้ำหนักตัวน้อย, ภาวะโตช้าในครรภ์ หรือ การคลอดก่อนกำหนด
แต่พบว่าเมื่อเทียบกันแล้วการดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนปริมาณมากกว่า 200 มิลลิกรัมต่อวันตลอดการตั้งครรภ์ จะเพิ่มความเสี่ยงในการเกิดทารกโตช้าในครรภ์ประมาณ 1.4 เท่า เมื่อเทียบกับคนที่ได้รับปริมาณคาเฟอีนน้อยกว่า 100 มิลลิกรัมต่อวัน
จากข้อมูลทั้งหมดทั้งปวง มีคำแนะนำจาก The American Dieteric Association ปี 2002 เกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า ก
ารดื่มเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนในระหว่างตั้งครรภ์ ควรจำกัดอยู่ที่น้อยกว่า 300 มิลลิกรัมต่อวัน
คิดง่ายๆ ก็คือ ปริมาณไม่เกินการดื่มกาแฟชนิด percolated coffee
(เป็นกาแฟที่ชงแบบใส่กาแฟในที่กรองแล้วให้น้ำร้อนผ่านกาแฟลงมา .. อันนี้เปิดหาเพิ่มใน Google นะคะ ไม่แน่ใจว่าเข้าใจถูกหรือเปล่า)
แก้วขนาดประมาณ 140 มิลลิลิตร 3 แก้วนั่นเอง
ปัจจุบันกาแฟมีมากมายหลายชนิด ซึ่งแต่ละชนิดก็มีปริมาณคาเฟอีนที่แตกต่างกัน นอกจากกาแฟแล้ว โอวัลติน โกโก้ น้ำอัดลมบางชนิดก็ยังมีคาเฟอีนผสมในระดับที่แตกต่างกันด้วย ดังนั้นคุณผู้อ่านอาจจะต้องสังเกตฉลากข้างบรรจุภัณฑ์หรือว่าหาข้อมูลเพิ่มเติมว่าเครื่องดื่มที่เราดื่มนั้นมีปริมาณคาเฟอีนผสมอยู่เท่าไหร่
ถ้าแนะนำง่ายๆ ถ้าไม่จำเป็นก็ไม่ต้องดื่มซะจบเรื่อง แต่ถ้ามันไม่ได้จริงๆ 1 แก้วขนาด 250 มิลลิลิตรก็พอหยวนๆ ได้
ถ้ากินกาแฟไปแล้ว โกโก้ ชาเย็น ช็อคโกแลต ของวันนั้นก็หมดโควต้า ส่วนน้ำอัดลมมันก็ไม่ได้มีประโยชน์อยู่แล้วแถมยังน้ำตาลเยอะอีกก็เลี่ยงซะ
ทำได้แบบนี้หมอว่าก็โอเคล่ะนะ ^^
(ปล. คำแนะนำนี้สำหรับคนทั่วไปที่ไม่มีความเสี่ยงเท่านั้น ส่วนคุณแม่คนไหนเป็นเบาหวานหรือน้ำหนักเกินที่ต้องคุมอาหารหมดสิทธิ์นะจ๊ะนะ)
Reference : Williams obstetrics 23rd edition
Picture from : koraorganics.com
หมอเมษ์ - ใกล้มิตรชิดหมอ
Facebook https://www.facebook.com/pages/ใกล้มิตรชิดหมอ/138161163029343
ตอนเก่าๆค่ะ
http://ppantip.com/topic/30266302
http://ppantip.com/topic/30270742