"เอสโซ่"ขยายปั้มเพิ่ม รับตลาดขายปลีกน้ำมันแข่งขันรุนแรง หวังชิงส่วนแบ่งตลาด"น้ำมัน E20"
นายยอดพงศ์ สุตธรรม กรรมการและผู้จัดการการตลาดขายปลีก การตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง บริษัท เอสโซ่(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับมติชนทีวี ถึงธุรกิจค้าปลีกน้ำมันของเอสโซ่ในปี 2556 ว่า มีนโยบายขายปลีกให้เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะเปิดปั้มใหม่ 20-30 สถานี ในส่วนของการตลาดจะขยายอย่างต่อเนื่องตลอดปี มีการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาด ตอนนี้มีสถานีที่ขายเบนซิน 95 มากกว่า 300 สถานี แล้วก็จะขยายน้ำมัน E20 เพราะเห็นว่ามาในจุดที่คุ้มทุนแล้วที่จะเอาผลิตภัณฑ์นี้เข้ามาในตลาด
ด้วนการแข่งขันด้านตลาดของน้ำมัน E20 นั้น เอสโซ่เองทำออกมาทีหลังเจ้าอื่นต้องออกแผนสนุบสนุนการตลาดมารองรับ และการแข่งขันรุนแรงเพราะทุกคนต้องการชิงส่วนแบ่งทางการตลาด โดยเอสโซ่เป็นอันดับสองรองจาก ปตท. และพยามที่จะรักษาจุดนี้ไว้ ด้วยแผนการตลาดหลายๆอย่าง ในตลาดมีผู้ขยายตัวมากมาย และมีเครือข่ายเน็ตเวิร์คต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)ที่เข้ามา และบริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน)ที่เข้าไปรับช่วงกิจการต่อจากบริษัท ปิโตรนาส รีเทล (ประเทศไทย) จำกัดแต่แน่นอนว่าการแข่งขันจริงๆคงเป็นแค่ผู้ประกอบการรายใหญ่อยู่ไม่กี่ราย อย่าง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) , บริษัท เอสโซ่(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) , บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) , บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด , และบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด (น้ำมันคาร์ลเท็กซ์)
ด้านวิกฤติพลังงานที่อาจจะเกิดจากการปิดซ่อมแหล่งก๊าซของพม่า ไทยควรหาแหล่งพลังงานอื่นรองรับหรือไม่นั้น นายยอดพงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า คิดว่ารัฐบาลและ กระทรวงพลังงานเข้ามาดูแลอยู่แล้ว แน่นอนว่าความต้องการพลังงานมีเพิ่มขึ้นทุกปี การหาแหล่งพลังงานไว้จะทำให้เกิดความปลอดภัย เป็นสิ่งที่รัฐบาลควรดูอยู่แล้ว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1364190704&grpid=03&catid=&subcatid=
http://www.ryt9.com/s/tpd/1616936
ถ้ามีจริงๆ คงรู้สึกดีขึ้นมากๆ เพราะตอนนี้เหมือนมีแค่ PTT, BangChak ผูกขาด E20 (ไม่รู้ว่าเพราะนโยบายแบ่งพรรคแบ่งพวก+ช่วยเหลือเกิ้อกูลกันแบบนักการเมืองหรือเปล่า)
ทั้งๆ ที่รถรุ่นใหม่ๆ ทุกระดับเติม E20 ได้แล้วทั้งนั้นน
สนับสนุนให้ทุกยี่ห้อเลย Shell, Caltex, Esso, และยี่ห้ออื่นๆ ร่วมกันจำหน่ายน้ำมันประเภท E20 เถอะครับ คนไทยจะได้มีตัวเลือกมากขึ้น (ไม่ใช่บ้าของนอกนะ แต่อยากให้มีการค้าอย่างเสรีครับ)
ข่าว Esso เตรียมขาย E20 กลางปีนี้/// ดีใจจัง
นายยอดพงศ์ สุตธรรม กรรมการและผู้จัดการการตลาดขายปลีก การตลาดน้ำมันเชื้อเพลิง บริษัท เอสโซ่(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) ให้สัมภาษณ์กับมติชนทีวี ถึงธุรกิจค้าปลีกน้ำมันของเอสโซ่ในปี 2556 ว่า มีนโยบายขายปลีกให้เพิ่มมากขึ้น โดยตั้งเป้าไว้ว่าจะเปิดปั้มใหม่ 20-30 สถานี ในส่วนของการตลาดจะขยายอย่างต่อเนื่องตลอดปี มีการแนะนำผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาด ตอนนี้มีสถานีที่ขายเบนซิน 95 มากกว่า 300 สถานี แล้วก็จะขยายน้ำมัน E20 เพราะเห็นว่ามาในจุดที่คุ้มทุนแล้วที่จะเอาผลิตภัณฑ์นี้เข้ามาในตลาด
ด้วนการแข่งขันด้านตลาดของน้ำมัน E20 นั้น เอสโซ่เองทำออกมาทีหลังเจ้าอื่นต้องออกแผนสนุบสนุนการตลาดมารองรับ และการแข่งขันรุนแรงเพราะทุกคนต้องการชิงส่วนแบ่งทางการตลาด โดยเอสโซ่เป็นอันดับสองรองจาก ปตท. และพยามที่จะรักษาจุดนี้ไว้ ด้วยแผนการตลาดหลายๆอย่าง ในตลาดมีผู้ขยายตัวมากมาย และมีเครือข่ายเน็ตเวิร์คต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน)ที่เข้ามา และบริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน)ที่เข้าไปรับช่วงกิจการต่อจากบริษัท ปิโตรนาส รีเทล (ประเทศไทย) จำกัดแต่แน่นอนว่าการแข่งขันจริงๆคงเป็นแค่ผู้ประกอบการรายใหญ่อยู่ไม่กี่ราย อย่าง บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) , บริษัท เอสโซ่(ประเทศไทย) จำกัด(มหาชน) , บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) , บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด , และบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด (น้ำมันคาร์ลเท็กซ์)
ด้านวิกฤติพลังงานที่อาจจะเกิดจากการปิดซ่อมแหล่งก๊าซของพม่า ไทยควรหาแหล่งพลังงานอื่นรองรับหรือไม่นั้น นายยอดพงศ์กล่าวเพิ่มเติมว่า คิดว่ารัฐบาลและ กระทรวงพลังงานเข้ามาดูแลอยู่แล้ว แน่นอนว่าความต้องการพลังงานมีเพิ่มขึ้นทุกปี การหาแหล่งพลังงานไว้จะทำให้เกิดความปลอดภัย เป็นสิ่งที่รัฐบาลควรดูอยู่แล้ว
http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1364190704&grpid=03&catid=&subcatid=
http://www.ryt9.com/s/tpd/1616936
ถ้ามีจริงๆ คงรู้สึกดีขึ้นมากๆ เพราะตอนนี้เหมือนมีแค่ PTT, BangChak ผูกขาด E20 (ไม่รู้ว่าเพราะนโยบายแบ่งพรรคแบ่งพวก+ช่วยเหลือเกิ้อกูลกันแบบนักการเมืองหรือเปล่า)
ทั้งๆ ที่รถรุ่นใหม่ๆ ทุกระดับเติม E20 ได้แล้วทั้งนั้นน
สนับสนุนให้ทุกยี่ห้อเลย Shell, Caltex, Esso, และยี่ห้ออื่นๆ ร่วมกันจำหน่ายน้ำมันประเภท E20 เถอะครับ คนไทยจะได้มีตัวเลือกมากขึ้น (ไม่ใช่บ้าของนอกนะ แต่อยากให้มีการค้าอย่างเสรีครับ)