ถูกละเมิดผลงาน (เว็บไซต์) อยากปรึกษาเรื่องการเอาผิดคู่กรณีครับ

คือผมได้แจ้งความว่าทางบริษัทหนึ่งได้ละเมิดผลงาน โค้ด HTML และ JavaScript รวมไปถึงรูปภาพส่วนประกอบเว็บไซต์ของผม

โดยเรื่องมีอยู่ว่า เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ที่ผ่านมา ผมได้รับว่าจ้างจากพนักงาน
(ซึ่งผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าตำแหน่งอะไร แต่เขาบอกว่าเขาเป็นผู้ได้รับมอบหมายให้ติดต่อทำหน้าที่นี้)
ของบริษัท ABC (นามสมมติ) ให้ทำเว็บไซต์บริษัทให้ โดยยังไม่ได้ทำสัญญาจ้าง และยังไม่ได้มีการจ่ายมัดจำล่วงหน้า
ซึ่งจริงๆ เป็นงานที่คนรู้จักผมส่งต่อมาอีกที เพราะเป็นงานเร่ง เขาไม่สามารถทำได้ตามกำหนดเวลาที่ทางเขาร้องขอ (15 มี.ค.)

โดยทางเขาได้ร้องขอให้ผมทำหน้าแรกเป็นตัวอย่างให้ดูก่อน โดยมีแบบคร่าวๆ ให้ดู และทำตาม
คือเว็บปัจจุบันของเขา และหน้าตัวอย่างที่ทางคนเก่าทำไว้ (ที่เขาแคนเซิลไปแล้ว ด้วยเหตุผลคือทำงานช้า ไม่เสร็จสักที)
ซึ่งระหว่างนั้นก็ติดต่อประสานงานกันได้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ มีอะไรบางอย่างที่ไม่ลงรอยกัน ในเรื่องของคำพูด และความคิด
แต่ผมก็ยังทำตัวอย่างส่งไป โดยส่งเป็นลิงก์ให้ (ตัวอย่างนั้นอยู่บนเซิร์ฟเวอร์ของผม)
รวมทั้งหมด 3 รอบ คือวันที่ 15, 16 และ 18 มี.ค. ซึ่งในการส่งตัวอย่างให้ดูครั้งแรก เขาบอกว่าไม่พอใจดีไซน์ของผม
และจะให้ทำใหม่ตามแบบที่เขาดีไซเนอร์ของเขาจะดีไซน์ให้ (ซึ่งเป็นภาพ JPEG)
แต่ก่อนจะทำตัวอย่างส่งให้รอบที่ 2 เนี่ย ผมขอมัดจำครึ่งหนึ่ง แต่ทางเขาไม่ให้ เพราะบอกว่าตัวอย่างต้องออกมาดีจนพอใจก่อน

และเมื่อทำตัวอย่างส่งให้รอบที่ 2 ซึ่งก็ทำได้เหมือนตามแบบ
มีบ้างที่ไม่ตรงเพราะการขาดความรู้ความเข้าใจในเรื่องการดีไซน์เว็บเพจ ของทางดีไซเนอร์เขา
เช่น ขนาดของกรอบ เพราะทางดีไซเนอร์เขาใช้จอกว้างในการออกแบบ เมื่อนำไปทำเป็นเว็บเพจแบบฟิกซ์ความกว้าง (960 พิกเซล มาตรฐาน)
ก็จะได้ขนาดไม่ตรงตามรูปที่ทางเขาทำมา และจำนวนเมนูในแนวนอนก็ไม่สามารถเป็นไปตามภาพได้ เพราะเหตุผลเดียวกัน (ต้องยุบรวมไปอยู่กับหัวข้ออื่น)

ซึ่งทางเขาก็โอเค ไม่เป็นไร เข้าใจเหตุผล แต่ก็ขอให้ผมแก้ไขเป็นรอบที่ 3 เพราะทางผู้บริหารต้องการให้ปรับเปลี่ยนบางอย่าง
เช่น ปรับภาษาของเมนูจากภาษาอังกฤษ เป็นภาษาไทย (ในแบบทำเป็นภาษาอังกฤษ)
เปลี่ยนเลย์เอาท์ (ที่สาเหตุมาจากการออกแบบของดีไซเนอร์ที่อิงจอกว้าง) เปลี่ยนสีกราฟิก ฯลฯ
ซึ่งผมก็โอเค จัดทำให้ตามที่ต้องการ

และเมื่อส่งตัวอย่างรอบที่ 3 (18 มี.ค.) ทางเขาก็บอกว่าโอเค ใช้ได้ เดี๋ยวจะโอนเงินค่ามัดจำไปให้แล้วจะติดต่อกลับผม
แต่ทางเขากลับหายไป 1 วันเต็มๆ (19 มี.ค.) ไม่มีการติดต่อกลับมา
วันรุ่งขึ้น (20 มี.ค.) ผมจึงให้คนที่แนะนำผมมาช่วยติดต่อไปหาเขา
เพราะผมไม่อยากคุยกับเขาแล้ว และรู้ตัวดีว่าจะเจอคำตอบอะไร กลัวจะต้องมีปากเสียงกับเขาอีก

ซึ่งก็เป็นไปตามคาด บริษัท ABC เปลี่ยนใจไม่ว่าจ้างผม ยกเลิกงานของผม โดยไม่มีการจ่ายค่าตอบแทนใดๆ
อันนี้ผมรับได้ เพราะเหตุผลที่เขาจะใช้อ้างนั้น ก็คงเป็นเพราะผม ที่ไม่รู้จักควบคุมอารมณ์
พูดจากระทบกระทั่งกับเขาจนทางเขาไม่อยากที่จะร่วมงานด้วย

แต่เหตุผลที่ทำให้ผมแสดงออกทางวาจาที่ไม่สุภาพแบบนั้นต่อเขา คือมันมีที่มาครับ
สาเหตุหลักๆ มาจากความไม่เกรงใจ การไม่ให้เกียรติ
และการมองคนทำเว็บฟรีแลนซ์ติดลบตั้งแต่ต้น ซึ่งอันหลังสุดนี่เขาอ้างว่า เขาเจ็บกับคนเก่ามาเยอะ (ก็เลยมาลงกับผม?)
แต่ไม่เป็นไร ก็จบไป

แต่เมื่อวันก่อน (22 มี.ค.) ผมเข้าไปดูเว็บไซต์ของเขา มันกลายเป็นว่าเขาเอาตัวอย่างที่ผมทำให้นั้น ไปใช้งานจริง
โดยมีการแก้ไขโค้ดบางส่วน แต่โค้ดโดยรวมยังเป็นของผม ซึ่งมีหลักฐานคือ URL งานตัวอย่างของผม ยังอยู่ในโค้ดเลย
ซึ่งเป็นไปได้ว่าเขาได้ Save page แบบ Webpage Complete ด้วย Google Chrome (หรืออื่นๆ)
ที่จะแปลงลิงก์ (href หรือ src) ของรูปภาพ, ไฟล์ CSS หรือไฟล์ script ไปเป็น URL เต็ม
เช่น
<img src="images/top.png" />
ก็จะเป็น
<img src="http://ชื่อเว็บไซต์ของผม/images/top.png" />
ซึ่งทางเขาไม่ได้ลบส่วนของ URL ออก "แต่เปลี่ยนชื่อเป็นอย่างอื่น" เพื่อให้มันไม่มีความหมาย และเติมส่วนที่มีความหมายกลับเข้าไป
เช่น
<img src="http://ชื่อเว็บไซต์ของผม/images/top.png" />
เปลี่ยนเป็น
<img tppabs="http://ชื่อเว็บไซต์ของผม/images/top.png" src="ไฟล์ใหม่ในเครืองเขา.png" />
(tppabs นั้นไม่มีความหมาย บราวเซอร์จะไม่สนใจ ปล่อยข้ามไป)
ซึ่งหากถามว่าทำไมเขาไม่ลบมันทิ้ง คำตอบก็คือเขาขี้เกียจลบครับ
เพราะถ้าจะลบ เขาต้องมานั่งลบลิงก์ทั้งหมดในโค้ด ซึ่งมันมีเยอะมาก
เขาจึงเลือกใช้ Search and Replace ซึ่งเป็นคำสั่งเครื่องมือทั่วไป ที่มีอยู่ในโปรแกรมที่ใช้เขียนโค้ดพวกนี้
โดยเขาอาจจะ Search คำว่า src= ทั้งหมดแล้วแทนที่มันด้วย tppabs=
แค่นี้ก็จะทำให้ลิงก์เดิมไม่มีความหมายโดยไม่ต้องเสียเวลาไปแก้ทุกลิงก์
แต่บังเอิญเขาก็คงไม่คิดว่า มันจะมีผลทำให้พิสูจน์ได้ว่า เขาก๊อปปี้โค้ดผมมา
ซึ่งถ้าพูดกันตรงๆ ถ้าไม่มี URL ของผมอยู่ในโค้ดเขา ต่อให้เค้าโครงโค้ดเหมือนกัน
ก็จะมีเรื่องที่จะต้องถกเถียงกันต่อว่า "ใครกันที่เขียนโค้ดดังกล่าวขึ้นมาก่อน" (แต่พอมี URL อย่างนี้ จบเลยครับ ไม่ต้องสืบ)

ซึ่งทางผมได้ถ่ายวีดีโอเก็บไว้เป็นหลักฐาน (ถ่ายหน้าจอคอมพิวเตอร์ โดยมีการบรรยาย และทำการ View Source เพื่อเปรียบเทียบให้ดู)
โดยมีคนช่วยบันทึกหลักฐานมากกว่า 1 คน และบันทึกจากหลายๆ สถานที่ (เพื่อป้องกันการกล่าวหาว่าผมสร้างหลักฐานเท็จ)

และได้อัพโหลดไว้บน youtube  แต่ก็ไม่ได้เผยแพร่ให้สามารถค้นหาได้โดยสาธารณะ
จะมีเพียงคนที่มีลิงก์วีดีโอดังกล่าวเท่านั้น ที่จะสามารถเข้าไปดูได้

และผมก็ได้ไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้แล้วที่สถานีตำรวจ
โดยมีการอธิบายและเปิดหลักฐานให้เจ้าหน้าที่ตำรวจที่รับเรื่องดู

เมื่อได้ใบแจ้งความมา ผมก็ถ่ายรูปและส่งลิงก์วีดีโอที่เป็นหลักฐานไปให้ทางผู้บริหารบริษัท และพนักงานบริษัทที่มีปัญหากับผม (ทางอีเมล์)
โดยได้อธิบายโดยละเอียดในอีเมล์ว่าทางเขาละเมิดสิทธิของผมอย่างไร และร้องขอให้ติดต่อกลับมาพูดคุยเพื่อตกลงค่าเสียหายกัน
และในวันรุ่งขึ้น (เช้า 24 มี.ค.) ทางผู้ประสานงานก็ได้โทรมาหาผม ถามผมว่า ผมส่งอีเมล์มาแบบนี้ ผมต้องการอะไร
ผมก็บอกไปว่า คุณต้องชดใช้ค่าเสียหายให้ผม เพราะคุณทำผิดกฏหมาย บลาๆๆๆๆ อะไรผมก็อธิบายไป
ซึ่งก็เถียงกันอยู่นาน จนกระทั่งเขายอมตกลงว่า เขาจะจ่ายค่าเสียหายให้ตามที่ผมเรียกไป
คือเท่าจำนวนค่าจ้างที่ผมจะได้หากมีการตกลงทำสัญญากัน
โดยเขาจะให้ทนายของเขา เดินทางนำเงินสดมาให้ และให้เซ็นสัญญายุติเรื่องราว
และก็จบการสนทนา วางสายไป

แต่พอตอนเที่ยง ทางเขาโทรมาใหม่ แต่คราวนี้เป็นดีไซเนอร์
โทรมาบอกผมว่า ทางเขาคุยกันใหม่แล้ว บอกให้ผมไปตกลงกับฟรีแลนซ์อีกคนที่เขาหามาแทนผมเอง
ว่าฟรีแลนซ์คนนั้นจะชดใช้ให้ผมเท่าไหร่ อย่างไร เพราะเขาถือว่า ไม่ใช่ทางเขาที่ทำความผิด แต่เป็นฟรีแลนซ์คนนั้น

โดยทางเขาจะจัดการนัดหมายให้ได้พบกัน โดยมีคนของทางเขาเป็นพยานรู้เห็นในการพูดคุยตกลงค่าเสียหาย และเซ็นสัญญายุติเรื่องราวกัน
เพราะทางฟรีแลนซ์คนนั้นยอมรับผิดแล้ว และพร้อมที่จะชดใช้ค่าเสียหายให้ตามที่ผมเรียกร้อง
สรุปคือ ตอนนี้ทางเขากลายเป็น "คนกลาง" ไปแล้ว

แต่พอผมบอกว่า งั้นผมขอเบอร์ติดต่อของฟรีแลนซ์ที่ว่านั้น
เขาไม่ให้ผมครับ เขาบอกว่าเขาไม่ไว้ใจหากผมจะคุยกันเอง บอกว่ากลัวผมไปรวมหัวกันวางแผนใส่ร้ายทางเขา

กลายเป็นว่าตอนนี้ ทางบริษัทจะไม่จ่ายค่าเสียหายให้ผมแล้ว แต่จะให้ผมไปเรียกจากฟรีแลนซ์คนดังกล่าวแทน
แต่ทางบริษัทก็ยังจ่ายค่าจ้างให้ฟรีแลนซ์คนนั้นอยู่เหมือนเดิม
นั่นหมายความว่า ฟรีแลนซ์คนนั้น ยังจะต้องทำงานให้ทางบริษัทนี้จนจบ แต่ต้องเอาเงินค่าจ้างที่จะได้รับทั้งหมด ชดใช้ให้ผม
ซึ่งทางบริษัทเขาก็พูดบอกว่า ให้ผมมีจริยธรรมหน่อย ในเมื่อฟรีแลนซ์คนนั้นจะต้องทำงานให้เสร็จ เขาก็ควรจะได้เงินบ้าง
ให้ผมไปคิดเอาว่าจะตกลงค่าเสียหายเท่าไหร่โดยที่ยังมีน้ำใจแก่ฟรีแลนซ์คนนั้นบ้าง
และจะติดต่อผมกลับไป เพื่อนัดหมายการพูดคุยกันอีกที

เรื่องยาวพอสมควร และอาจจะเข้าใจยากด้วย ต้องขออภัยครับ


มาถึงคำถามที่ผมอยากจะปรึกษาครับ

1. จริงหรือไม่ที่ทางบริษัทเขาบอกว่า "เขาไม่มีความผิด" ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของฟรีแลนซ์คนนั้น

ที่ผมสงสัยในจุดนี้ก็เพราะว่า เรื่องนี้จะไม่เกิด หากทางบริษัท ไม่ส่งลิงก์ตัวอย่างที่ผมทำให้ (แต่ไม่ได้รับค่าตอบแทน) ให้กับฟรีแลนซ์คนนั้น
มันถูกแล้วหรือที่เขาไม่จ่ายค่าตอบแทนให้ผม แต่นำผลงานของผมไปให้อีกคนดูเป็นต้นแบบในการทำงาน

ซึ่งผมก็ถกเถียงประเด็นนี้กับทางดีไซเนอร์ของเขา โดยเขาพูดว่า ดีไซน์มันก็เป็นดีไซน์ของเขา
ผมแค่ทำให้เป็นเว็บ เขาคิดว่าเขามีสิทธิ์ที่จะนำตัวอย่างที่ผมทำไปให้คนอื่นดูเป็นต้นแบบ
แต่ผมก็เถียงกลับไปว่า ถ้ามันเป็นอย่างนั้น ทำไมคุณไม่เอาภาพ JPEG ที่คุณดีไซน์
ไปให้ฟรีแลนซ์คนนั้นดูเป็นต้นแบบ แล้วให้เริ่มทำจากแค่นั้นเหมือนที่ผมทำล่ะ

ไม่ใช่ทางเขาด้วยหรือที่ผิด เพราะนำผลงานของผมไปให้อีกคนดูเป็นต้นแบบ ซึ่งแม้จะอ้างว่าเป็นดีไซน์ของเขา แต่มันก็เป็นโค้ดของผม
ที่ทำให้มันมีชีวิตชีวา มีภาพสไลด์ มีดรอปดาวน์เมนู มีป๊อปอัพแสดงข่าวสาร มีรูปภาพที่เป็นตัววิ่ง
มีโค้ดที่ใช้จัดรูปแบบและโค้ดโปรแกรมมากมายที่จะต้องมีความรู้ถึงจะทำได้ (ไม่งั้นจะจ้างผมทำไม ทำเองสิ)

ถ้าทางบริษัทไม่นำผลงาน ย้ำ ผลงานที่ไม่จ่ายค่าตอบแทนให้ผม ไปให้คนอื่นใช้เป็นต้นแบบ เรื่องนี้จะเกิดขึ้นไหม

2. ทางเขาบอกว่า จะนัดหมายให้ผม และคู่กรณี (ฟรีแลนซ์คนนั้น) มาคุยกัน โดยมีคนของเขา (ดูเหมือนจะเป็นทนายความ) เป็นคนกลาง

คือผมไม่ทราบว่าแบบนี้มันถูกต้องตามขั้นตอนหรือเปล่า เพราะมีแต่คนบอกผมว่า
ถ้าแจ้งความแล้ว การพูดคุยไกล่เกลี่ยควรจะคุยต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจ หากตกลงกันได้จะได้ถอนแจ้งความตรงนั้นเลย
แต่ทางเขาอยากให้มันเป็นแบบนัดคุยกันเอง และเขายังบอกอีกว่า เมื่อตกลงกันได้แล้ว จะให้เซ็นสัญญายอมความ

ผมอยากทราบว่า ผมกำลังถูกหลอกล่อให้กระทำอะไรที่เสียเปรียบอยู่หรือเปล่าครับ

3. มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมอะไรไหมครับ ผมมีทางใดที่จะเล่นงานบริษัทนี้ได้บ้าง

เพราะผมพูดตรงๆ เลย เรื่องเงินค่าเสียหายมันไม่ใช่ปัญหาเท่าไหร่ เพราะตอนโดนแคนเซิลผมก็ไม่ได้เรียกร้องอะไร
ไม่ได้ไปดิ้นรนให้ได้ค่าตอบแทนอะไร ทั้งๆ ที่มีคนบอกผมว่า หากเป็นการจ้างทำของ แม้จะสัญญาปากเปล่าก็มีสิทธิ์ที่จะได้ค่าตอบแทน
แต่ที่ผมอยากจะเอาผิดทางบริษัทด้วยนั้น มันเป็นเพราะผมยอมรับไม่ได้กับการเอารัดเอาเปรียบของทางเขา
ที่ตอนนี้โยนความผิดให้กับอีกคน (แม้ฟรีแลนซ์คนนั้นเขาจะทำผิดจริงก็เถอะ แต่ผมไม่เคืองเขาเท่าทางบริษัทเลย)



ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เสียสละเวลาอ่านมากครับ

ป.ล. สรุปหลักๆ คนที่ผมมีปัญหาด้วยคือ
พนักงานผู้ประสานงานที่ติดต่อดีลงานกับผมตั้งแต่ตอนแรก กับดีไซเนอร์ครับ
ฟรีแลนซ์ที่เขากล่าวอ้าง ผมยังไม่ได้คุยกับเขาเลย ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเป็นใคร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่