คือเป็นคนกลัวตะขาบมากๆค่ะ เจอบ่อยแต่ไม่คิดที่จะฆ่า แค่เอาไม้กวาด กวาดๆๆๆเขาออกไปจากบ้านก็พอ อันนี้คือเมื่อตอนอยู่กะญาติค่ะ ตอนเด็กๆ และพออายุ16(หลายปีมาแล้ว)เคยไปทำงานให้นายจ้าง แบบกินนอนที่นั่นค่ะ แล้วเคยถอดเสื้อผ้าที่จะนำไปซักเป็นเสื้อกับกางเกงยีนส์ ซึ่งชายกางเกงพับอยู่ไม่ได้คลี่ออก ก็เอาไปแช่ผงซักฟอก แล้วก็กำลังนั่งซักค่ะ ปรากฏว่าตะขาบโตเต็มวัย ที่หลบในขากางเกงออกมาจากกะละมัง พอเราเห็นก็ตกใจกลัวสุดขีด รีบเทผ้าทั้งกะละมัง กองอยู่ตรงนั้น หวังให้คุณตะขาบเลื้อยหนีไป พอวันรุ่งขึ้นเราก็มาซักผ้าปกติซักไปซักมา เทน้ำหมดแล้วปรากฏว่า เขายังดิ้นๆอยู่ก้นกะละมัง เราก็ไม่รู้ทำไงกลัวมาก เอาน้ำสา่ดลงท่อน้ำเลยค่ะ รู้สึกบาปมากๆ พออีกวันเขาก็นอนอืดแช่ในท่อน้ำอ่ะค่ะ รู้สึกผิดมากๆเลย จากวันนั้น พอห่างมา2-3ปีก็เจออีกตัวใหญ่มาก เลื้อยมาบนที่นอน เลื้อยผ่านหัวไป แต่ไม่กัด ตอนนั้นเลี้ยงแมวไว้ แมวไล่งับก็เลยได้รู้ว่าเขาเข้าบ้านมา ก็รีบเอาไม้กวาดตีๆ แต่ไม่ตายนะคะ เขี่ยออกจากบ้านไป
.
.
.
.
.เวลาไปปฏิบัติธรรม ก็พยายามกรวดน้ำให้เขาเยอะๆ อุทิศส่วนบุญให้เขาทุกครั้ง จนตอนนี้ไม่เจอแล้วค่ะ แต่รู้สึกว่าได้รับผลกรรมแล้วค่ะ แต่ไม่หนักมาก แต่ก็ยินยอมรับกรรมนั้นไป คือเวลาเดินหัวเข่าจะดังก็อกแกก ตลอด ลุก นั่ง นอนเดิน ดังจนน่ากลัว บางทีก็ปวดเอวมาก เลยคิดเลยว่าการที่เราทำร้ายเขา(โดยไม่ตั้งใจ)ก็ยังส่งผลกรรมขนาดนี้(เพราะตัวของตะขาบเขาเป็นกระดูกตลอดแนว) ก็เลยได้แต่กินแคลเซี่ยมแบบเม็ด บำรุงกระดูกทุกวันค่ะ ก็แค่เล่าเพื่อเป็นกฏแห่งกรรมน่ะค่ะ
ไม่ได้เจตนาจริงๆนะคะ(แต่ก็ยอมรับกรรมที่จะเกิด)
.
.
.
.
.เวลาไปปฏิบัติธรรม ก็พยายามกรวดน้ำให้เขาเยอะๆ อุทิศส่วนบุญให้เขาทุกครั้ง จนตอนนี้ไม่เจอแล้วค่ะ แต่รู้สึกว่าได้รับผลกรรมแล้วค่ะ แต่ไม่หนักมาก แต่ก็ยินยอมรับกรรมนั้นไป คือเวลาเดินหัวเข่าจะดังก็อกแกก ตลอด ลุก นั่ง นอนเดิน ดังจนน่ากลัว บางทีก็ปวดเอวมาก เลยคิดเลยว่าการที่เราทำร้ายเขา(โดยไม่ตั้งใจ)ก็ยังส่งผลกรรมขนาดนี้(เพราะตัวของตะขาบเขาเป็นกระดูกตลอดแนว) ก็เลยได้แต่กินแคลเซี่ยมแบบเม็ด บำรุงกระดูกทุกวันค่ะ ก็แค่เล่าเพื่อเป็นกฏแห่งกรรมน่ะค่ะ