เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2556 ฉันและแม่ได้โดยสารรถแท๊กซี่จากฝั่นธนเพื่อที่จะไปมหาวิทยาลัยรามคำแหง (หัวหมาก) เมื่อขึ้นรถดิฉันก็ได้มองหาชื่อของผู้ขับ แต่ไม่มี ดิฉันจึงไม่ได้เอะใจอะไร พอไปถึงเส้นถนนศรีอยุธยา แท๊กซี่กลับไม่ยอมขึ้นสะพานเพื่อจะข้ามไปเส้นที่ไปจะรามคำแหง แม่ดิฉันจึงถามว่าทำไมถึงไม่ขึ้นสะพาน แท๊กซี่กลับบอกว่า "ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน" แม่ดิฉันจึงบอกกลับไปว่า "ลงข้างล่างรถมันติดนะ" แท๊กซี่ก็ตอบมาว่า "พอดีกำลังคิดอะไรเพลินๆ" จากนั้นแท๊กซี่ก็ได้เลี้ยวไปยังเส้นทางที่มุ่งหน้าสู่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่ไม่รู้ว่าเขาไปแซงรถคันหน้าอย่างไร ตำรวจจึงเรียกให้จอด ตำรวจได้ขอดูใบขับขี่ แต่แท๊กซี่ได้บอกว่าไม่มี มีแต่ใบนัดสอบใบขับขี่ ฉันเห็นว่าไม่ดีแล้วแต่ในตอนนั้นรถได้จอดอยู่ริมขวา ด้านซ้ายมีรถวิ่งอยู่ จึงบอกแม่ให้เปิดประตูลงไปจ่ายตังข้างล่าง (ฉันนั่งฝั่งซ้าย แม่นั่งฝั่งขวา) แต่ประตูกลับถูกล๊อคอยู่ ฉันก็ปลดล๊อคให้แม่แต่ก็ยังเปิดไม่ออก ฉันจึงตัดสินใจเปิดฝั่งซ้าย แต่ก็เปิดไม่ได้เช่นกัน ทั้งที่ปลดล๊อคประตูแล้ว แม่จึงเรียกแท๊กซี่ให้เปิดประตูให้ แต่เขากลับก้มหาของไม่สนใจ ฉันก็กลัวว่าถ้าตำรวจเขียนใบสั่งเสร็จแล้วจะลงจากรถไม่ได้ ฉันและแม่จึงพยายามอยู่หลายครั้งแต่ก็เปิดไม่ได้ ตำรวจเขาสังเกตเห็น จึงถามแท๊กซี่ว่าทำไมไม่เปิดประตู้ให้ผู้โดยสาร แท๊กซี่ได้บอกตำรวจไปว่าประตูขวาล๊อก ต้องเปิดจากข้างนอกเท่านั้น ตำรวจจึงเปิดให้แล้วถามแท๊กซี่ไปว่าแล้วล๊อคทำไม แท๊กซี่จึงบอกว่าปกติประตูขวาจะไม่ให้เปิดอยู่แล้วเพราะเดี๋ยวเปิดโดนรถคนอื่น แม่จึงจ่ายค่าแท๊กซี่แล้วไปเรียกคันใหม่เลย ฉันยอมรับว่าในตอนนั้นกลัวมากตัวสั่น และไม่กล้าโวยวายเพราะกลัวเขาจะมีอาวุธหรือทำร้าย และในตอนนั้นฉันเองก็ไม่ได้บันทึหมายเลขทะเบียนไว้ด้วย แต่สิ่งที่ฉันสงสัยคือ "รถแท๊กซี่ทุกคันจำเป็นต้องใช้ระบบเบบี้ล๊อกประตูขวาด้วยหรือไม่" และอยากจะฝากให้ทุกๆคนระวังเวลาขึ้นรถแท๊กซี่ด้วยน่ะค่ะ
รถแท๊กซี่จำเป็นต้องใช้เบบี้ล๊อคประตูผู้โดยสารด้านขวาหรือไม่