ผมไม่เข้าใจว่าตำรวจจะออกกฎหมายจราจรมาทำไมเยอะแยะ เข้าใจว่าที่ออกมาเป็นเรื่องที่ดี แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมปฏิบัติกับประชาชนไม่เหมือนกัน หรือจะออกมาเพื่อไว้เป็นเครื่องมือหากินของตนเองเท่านั้น คือให้มีอำนาจจับและปรับได้ ซึ่งสามารถเลือกจับหรือไม่จับใครก็ได้ โดยที่หากไม่จับคนที่ฝ่าฝืนกฎจราจร ตำรวจก็ไม่ผิด ตำรวจไทยจะรู้ไหมนะว่าต่างชาติเขางง และดูถูกประเทศไทยเพราะพวกคุณ เพราะหลายๆอย่างเป็นเรื่องผิดกฎหมายจราจร แต่ก็ยังทำกันได้โดยที่ตำรวจเพิกเฉย จนกลายเป็นเรื่องปกติ ตัวอย่างเช่น

1) วิน มอเตอร์ไซต์รับผู้โดยสาร แล้วไม่มีหมวกกันน๊อคให้ผู้โดยสารใส่ แล้วก็ขับไปส่งผู้โดยสารทั้งๆที่ผู้โดยสารไม่ได้สวมหมวกกันน๊อค กลับไม่โดนจับ (ลองดูเลยครับ ทุกเช้ามีเยอะเลย) จะอ้างว่าเป็นชั่วโมงเร่งด่วนหรือกำลังตำรวจไม่เพียงพอไม่ได้นะครับ เพราะเป็นหน้าที่ ที่คุณต้องไปหาวิธีที่จะจับและปรับเขายังไงเพื่อไม่ให้เขาทำผิดซ้ำซากอีก
2) แท๊กซี่จอดรถรอรับผู้โดยสารข้างถนนในที่ห้ามจอดรถตลอดเวลา แต่กลับไม่จับ หรือแม้กระทั่งพวกพ่อค้าแม่ค้าที่จอดรถข้างทางในชั่วโมงเร่งด่วนเพื่อขนของขึ้นรถและลงรถ ก็ยังไม่จับ แต่ดันเลือกจับเฉพาะรถที่เป็นรถยนต์ส่วนบุคคลที่อาจจอดเพียงครู่เดียวเพื่อไปซื้อของหรือเข้าห้องน้ำ แล้วกลับมาไม่ทัน (เข้าใจว่าทำผิดกฎหมายต้องโดนจับปรับเหมือนกัน แต่ที่ไม่เข้าใจคือทำไมไม่จับพวกแท๊กซี่กับพวกพ่อค้าแม่ค้าที่ทำผิดกฎหมายเหมือนกันด้วย หรือเขาจ่ายส่วยให้รายเดือนแล้วเลยไม่จับ)
3) หลายครั้งที่เห็นล๊อคล้อรถที่จอดกีดขวางทางจราจรแล้วตนเองก็หายไปไหนไม่รู้ ปล่อยให้การจราจรติดขัดอยู่อย่างนั้น ไม่เข้าใจว่าทำไปแล้วมันจะแก้ปัญหายังไง แทนที่จะเขียนใบสั่งแล้วปรับเยอะๆเท่ากับความผิดที่ต้องล๊อคล้อ หรือยึดใบขับขี่ หรือยึดรถเลยก็ได้ แต่ต้องเคลียร์รถออกไปก่อน ไม่ใช่ล๊อคล้อแล้วก็ไปไหนก็ไม่รู้ ไม่สนใจเลยว่ารถที่สัญจรไปมาจะติดขัดอย่างไร

สรุป ถ้าคุณตำรวจส่วนใหญ่อยากทำให้ต่างชาติเข้าใจและประชาชนรัก ก็ควรประพฤติตัวให้มีจริยธรรม เหมือนตำรวจส่วนน้อยบางท่านที่พยายามทำอยู่ด้วยนะครับ  หวังว่าจะได้เห็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้นนะครับ ขอบคุณ