hybrid มันก็เหมือนเป็น option นึงของรถครับ อยากได้ก็จัดเลย แต่มันก็เหมือน option อื่น ๆ ของรถล่ะครับคือมีแล้วพอมันพังก็ต้องซ่อม

ยกตัวอย่าง camry ตัวธรรมดาของผมเอง
- กระจกมองข้างปรับ-พับไฟฟ้า แถมตอนเข้าเกียร์ถอย มันบิดกระจกลงให้ น่าใช้มั๊ยครับ พอเสียเปลี่ยนข้างละ 6000
- VSC ปลอดภัยหายห่วง จะหลุดโค้งมีปรับให้ทรงตัวกลับมาได้ ส่วนTraction Control ขับไปเจอน้ำแอ่งเบ้อเร่อล้อลุยน้ำข้างเดียวไม่มีหมุนมันตะกุยให้ 4 ล้อวิ่งเท่ากัน ขับลงเขาเร็วไปมันดึงให้ ดูดีเนอะแต่พอพังไฟโชว์ขึ้นซ่อมเป็นแสน รุ่นไม่มีไม่ต้องซ่อม
- ABS นี่ก็หลักหมื่น
- ไฟหน้าสาดไปทางซ้าย-ขวาให้เองตามการเลี้ยว ปรับสูง-ต่ำเองตามถนน ดูดีเนอะพอพังมาข้างละ 27500 รุ่นที่ไม่มี option นี้แต่ไฟเหมือนกันเด๊ะราคา 7000 เอง
- ถุงลมหน้า 2 ใบ + ถุงลมข้างตรงเบาะหน้าอีก 2 ใบ option นี้ปลอดภัยดี แต่ไม่มีป.1 ตูมมาทีเจอเป็นหมื่น
- เบาะปรับไฟฟ้ามีลมเป่าจากเบาะ ดูดีเนอะนี่ก็เปลี่ยนคู่ละหลายหมื่น
-อื่น ๆ อีกมากมาย อย่างแอร์ auto ที่อยากได้กันจังซ่อมแพงกว่าตัวธรรมดามากกกก

เป็นไงครับ batt hybrid กับ inverter ธรรมดาไปเลย มันก็แค่ option นึงครับ อยากได้ก็เอา ไม่อยากได้ก็ไม่ต้องเอา เค้าถึงซอย option ออกมาเยอะรุ่นไว้ไงครับ

ถามว่าก็ของพวกนี้หามือสองดี ๆ ได้นิ ก็ใช่ครับ แต่ batt กับ inverter ต่อไปก็หาได้ ราคามือ 1 ก็ลงเรื่อย ๆ ตามเวลา อยากได้ลุยเลยครับ ไม่อยากได้หรือไม่มีตังซ่อมอย่าเอามาครับ ยิ่งซ่อมยากซ่อมแพงใช้ไปก็เหนื่อย ขายต่อราคาตกฮวบ ๆ นี่คือที่มาของราคารถมือสองบ้านเรา benz bmw นิยมจะตายราคายังลงจาก 4 ล้านเหลือไม่ถึงล้าน ในเวลาไม่ถึง 8 ปี หรือรถตลาดอย่าง camry teana accord ราคายังลงเกือบครึ่งใน 5 ปี เพราะราคาอะไหล่แพงนี่แหละครับ คนซื้อหรือเต๊นท์เลยเผื่อความเสี่ยงไว้ ส่วนรถไม่มี option เยอะอย่าง city vios vigo dmax สบายไปเลยราคาตกนิดเดียว