ขอเข้ามาเล่าสู่คุณสาวๆในห้องแป้งแล้วกันนะคะที่นี่น่าจะมีสาวๆเยอะที่สุดแล้ว เนื่องด้วยวันนี้เจ้เกิดการสนทนาบนโต๊ะอาหารกะเพื่อนสนิท เจ้ได้เล่าเรื่องราวของตัวเองให้เพื่อนฟังว่าเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้างกะชีวิตของสาวโสดอย่างเจ้ และเจ้าก็เริ่มด้วยเรื่องเดทกะหนุ่มน้อยหน้ามลคนคุ้นเคยรู้จักกันมานานกว่าสามปีแต่เจ้พึ่งได้เปิดใจยอมไปดินเนอร์กะหนุ่มน้อยหน้าใสเพราะทนการตื้อบวกกะการลัุนของเพื่อนๆอีกหลายคนบอกว่าเราดูเหมาะสมกันดีทางหน้าตา(เฮ่อๆว่าไปนั่นเพื่อนนะเพือ่น) เดทและไม่มีอะไรจนมีเดท2-3-4ต่อมาจนความสัมพันกลายมาเป็นครั้นที่ว่าชั้นชอบเธอนะและคุณน้องหน้าละอ่อนก็ชอบพี่ด้วยใช่ม๊าาาา....ฮิฮิ... และแล้วมันก็เกิดขึ้นหลังดินเนอร์ในคืนวันหนึ่งจูบแรกของเจ้กะหนุ่มหน้าละ่อ่อน
แต่เราไม่ได้มีอะไรเกินเลยไปมากกว่าการจู๊บๆกันแค่นั้น และนั่นคือจุดการเริ่มสนทนากะเพื่อนสนิทเมื่อคำ่คืนนี้ เจ้เล่าให้เพื่อนฟังว่าเราจูบกันนะ แต่ไม่มีอะไรเกินเลยไปมากกว่านั้น แค่นั้นแหละเพื่อนเจ้ท้วงทันทีว่า "เธอไม่รู้จักเค้ามากดีพอแล้วเธอก็จูบกะเค้านี่อะนะเธอไม่กลัวติดเชื้อโรคเหรอ เจ้ฟังแล้วก็งงมาก "แล้วจะให้หนูติดเชื้ออะไรกะหนุ่มนักธุระกิจหน้ามลคนสะอาดสะอ้านอย่างเค้าไปเล่าเจ้" เจ้ได้แต่ร้องถามเพื่อนแบบนั้น การจูบคุณไมาสามารถติดเชื้อHIVได้หากคุณไม่มีแผลในปากหรือคุณมีเลือดออกในช่องปากจำนวนมาก ถ้าคุณจะติดน่าจะเป็นพวกไวรัสตับอักเสบ A B หรือC
มากกว่านะคะ ส่วนโรคอื่นๆอันนี้เจ้ไม่ทราบนะที่รู้ๆกันมันก็มีอยู่แค่นี้และทุกว่านี้โรคไวรัสตับอักเสบเตชค้าก็มีวัคซีนป้องกันกันเรียบร้อยแล้วด้วยค่ะ
เจ้ฉีดไปแล้วเรียบร้อย ทีนี้มาเข้าเรื่องต่อนะคะ เพื่อนเจ้เค้าก็คอมเพนเจ้ต่อไปว่าทำไมไม่กลัวเชื่อโลกอย่างโน้นอย่างนี้ เจ้เลยย้อนถามเพื่อนว่าแล้วตัวคุณพี่ล่ะนอนกะคุณแฟนเจ้อยู่ทุกวันนี้น่ะคุณพี่ได้สวมถุงยางอนามัยบ้างรึเปล่า? เธอบอกเปล่า!และเธอก็ยังบอกด้วยว่าเธอหลับนอนกะคุณแฟนฝาหรั่งของเธอคนนี้เธอไม่เคยจูบกันด้วยและเธอมีแฟนมากี่คนเธอก็ไม่เคยจูบใครด้วยอีกต่างหาก โอ้ยเจ้ฟังแล้วล่ะงงตื้ด นอนด้วยกันได้โดยไม่ป้องกันแต่กลัวที่จะจูบ ฮ่าๆ ฟังดูแล้วมันแปลกประหลาดสิ้นดี ถ้าคุณกลัวที่จะจูบแต่ไม่ป้องกันส่วนล่างโอ้ยแล้วมันจะมีประโยชน์อะไรอีกเล่าแม่คุณเอ๊ย.... เธอเล่าอีกว่าเธอมีแฟนกี่คนเธอก็ไม่เคยจูบนะเออ... โธช่างโชดดีของเพื่อนเจ้คนนี้นะคะที่เธอไม่ไปเจอกะคุณแฟนที่มีเชื่อHIVเข้าให้ อยากรู้ว่าเธอจะกลัวที่จะ ป้องกันส่วนบน(ปากของเธอ)หรือส่วงล่างของเธอ  นั่นคือเรื่องความเข้าใจผิดของเพื่อนเจ้ที่เธอไม่ยอมที่จะศึกษาหาความรู้เรื่องการติดต่อเชื้อโรคทางด้านเพศสัมพันธ์ คงต้องปล่อยให้เป็นไปแบบนี้แหละค่ะเพราะเจ้อธิบายแล้วเธอไม่ยอมที่จะฟัง ส่วนตัวเจ้เองไม่เคยเชื่อใจใครแน่นอนเป็นแฟนกันยังไงก็ต้องป้องกันจนกว่าจะถึงวันเวลาที่เราต่างมั่นใจกันและกันและก็ต้องตรวจด้วยกันทั้งคู่ก่อนแต่งงานหรือจนกระทั้งแต่งไปแล้ก็ยังต้องตรวจอีกครั้งเพื่อความแน่ใน นี่ขนาดเจ้อยู่ที่อเมริกานะคะตัวเลขเรื่องHIVมันน้อยกว่าที่ประเทศไทยอยู่แล้ว แล้วเพื่อนๆและน้องๆล่ะค่ะคุณป้องกันตัวเองไว้มากแค่ไหน สุดท้ายนี้เจ้ขอให้เพื่อนๆมีความสุขสุขภาพแข็งแรงและดูแลตัวเองให้ดีที่สุดนะคะ