ขอคำปรึกษาครับ .. เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อสักประมาณปีก่อนผมได้บริจาคเลือดแล้วผมได้รับผลเลือดออกมาว่าผมเป็นไวรัสตับบี แล้วให้ไปตรวจซ้ำผมก็ไปตรวจซ้ำ ผลก็ยืนยันว่าผมเป็นไวรัสตับบี แล้วมีเจ้าหน้าแนะนำหลายอย่าง ผมเลยถามเรื่องโรคเอดส์ว่าผมมีโอกาสเป็นไหม เขาบอกว่าให้ตรวจ แต่ผมก็ถามซ้ำอีกว่าแล้วผลตรวจที่ผ่านมาล่ะไม่สามารถยืนยันได้ระดับหนึ่งเหรอว่าไม่เป็น แต่ผมจำคำตอบไม่ค่อยได้ และสรุปวันนั้นไม่ได้ตรวจ หลังจากที่ผมผ่านวันนั้นมาผมก็ปฏิบัติตัวอย่างปกติ ไม่ดื่มเหล้า(จรืงๆ แล้วมีบางครั้งที่ดื่มนิดหน่อยเพราะเจ้านายบอก แต่ไม่มากมายนัก พยายามจะไม่ดื่มและออกกำลังกายมากๆ) และไม่มีเพศสัมพันธ์กับใครอีกเลย

พอไม่นานมานี้ผมคบกับผู้หญิงคนนึง หลังจากที่เรารู้จักกันประมาณ 1 ปี เราก็ทำอย่างว่าป้องกันบ้างไม่ป้องกันบ้าง(ไม่ป้องกันสัก 3 ครั้ง) ซึ่งเรื่องไวรัสตับผมก็ได้คุยกันแล้วว่าเธอฉีดวัดซีน(เธอทำงานอยู่ในวงการแพทย์เลยรู้เรื่องพวกนี้มากกว่าผม) ณ เวลานั้นผมก็ไม่ได้กังวลอะไร พอไม่นานมานี้เธอบอกว่าเธอไปตรวจคนไข้เจอคนที่ติดเชื้อ HIV เยอะมาก เลยมาแซวผมเล่นๆ แต่ผมคิดจริงจังไปไกลเลย เกือบทะเลาะกันด้วย

คำถามที่จะปรึกษาคือ จากผลการตรวจบริจาคเลือดผมมีโอกาสเสี่ยงที่จะเป็น HIV ไหมครับ ซึ่งก่อนบริจาคผมไม่ได้มีอะไรกับใครมาอย่างน้อย 3 เดือน(น่าจะเกือบปีด้วยซ้ำ) ผมเครียดมากเลยกลัวทำเธอเดือดร้อน ผมไม่อยากทำใครเดือดร้อนครับ ตอนนี้คิดว่าคงจะไม่มีอะไรกันอีก(แตก็ไม่เลิกกันนะครับ)

ข้อมูลเพิ่มเติม : ช่วงก่อนหน้าที่ผมจะบริจาคเลือดสัก 1-2 ปี ผมคิดว่าผมมีภาวะเสี่ยงเพราะผมเปลี่ยนแฟน 2 คน ผมก็เลยกลัวหน่อย แต่แฟนคนสุดท้ายที่ผมมีอะไรด้วย เขาบอกเขาไปตรวจมาหลังจากมีอะไรกับผมครั้งสุดท้าย 3 เดือน ผลไม่เป็นอะไร และอย่างที่บอกหลังจากนั้นเกือบปีผมก็ไม่มีอะไรกับใครอีกเลย จนมาตรวจเลือดแล้วผลเป็นไวรัสตับบี ต่อมาอีกเกือบปี ก็มาคบกับแฟนคนปัจจุบัน

ผมไม่แน่ใจว่าผมคิดมากไปเองหรือเปล่า ซึ่งผมกลัวทำเธอเดือดร้อนมากๆ ครับ ขอคำปรึกษาครับว่าผมมีภาวะเสี่ยงขนาดไหน