- สภาพภาระงานเป็นอย่างไรบ้าง
ถ้าเป็น Underwriter ของบริษัทประกันชีวิต ทำหน้าที่พิจารณารับประกันชีวิต ประกันอุบัติเหตุ ประกันสุขภาพ ฯลฯ ก็จะต้องมีความรู้ความชำนาญเกี่ยวกับ ศัพท์ทางการแพทย์ ข้อมูลการวินิจฉัยจากแพทย์ มีความเข้าใจในเงื่อนไขต่างๆ ที่กำหนดไว้ ในกรมธรรม์ ว่าส่วนไหนคุ้มครอง ส่วนไหนยกเว้น คุ้มครองมากเท่าไร จำกัดความรับผิดชอบไว้เท่าไร การทำงานก็จะต้องพึงพาข้อมูล จาก ลูกค้าผู้เอาประกัน ตัวแทน บริษัทนายหน้า ข้อมูลของการตรวจสุขภาพ และ เงื่อนไขที่บริษัทรับประกันภัยต่อกำหนดเอาไว้ ถ้าไม่พิจารณาเป็นรายบุคคลก็พิจารณาเป็นรายกลุ่ม อาจจะมีการพิจารณานำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ของบริษัทออกสู่ตลาด เวลาทำงานก็ตามเวลาปกติของบริษัททั่วไป เริ่มงานก็ 8.30-9.00 เลิกงานก็ 5.00-5.30 แล้วแต่บริษัท จันทร์ถึงศุกร์ หยุดเสาร์อาทิตย์

- ความก้าวหน้าในหน้าที่การงาน
ก็คงเติบโตตามสายงานจากเจ้าหน้าที่มาเป็นหัวหน้างานและผู้จัดการแผนกรับประกันในที่สุด หรืออาจจะย้ายสายตามแนวข้างไปทำสายงานอื่นๆ ในธุรกิจประกันชีวิตก็ได้ครับ

- ค่าตอบแทนประมาณเท่าไหร่
ในส่วนของเรื่องรายได้ จากที่เคยได้ยินคนรู้จักที่ทำมา ก็มีตั้งแต่ระดับเริ่มต้น 15,000-30,000 ระดับกลาง 50,000-70,000 ไปจนถึงระดับสูง 100,000-200,000 หรือมากกว่านั้น ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ ฝีมือและชื่อเสียงในวงการ ในภาพรวมก็จ่ายเงินเดือนได้พอๆ กับพวกบริษัทประเภืสถาบันการเงิน เช่น ธนาคาร หลักทรัพย์ กองทุน ปกติแล้วธุรกิจประกันมาคนมาทำงานด้วยยาก เพราะคนไทยชอบคิดเหมาเอาว่า บริษัทประกันมีแต่งานตัวแทนขายประกันเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นความจริง งานประจำของบริษัทประกันก็จ่ายเงินเดือนได้ดีไม่แพ้บริษัทในธุรกิจการเงินอื่นๆ ครับ

- สวัสดิการเป็นอย่างไรบ้าง
แล้วแต่บริษัทครับ ส่วนมากก็ประกันสังคม บวกประกันสุขภาพตามนโยบายบริษัท

- สุดท้าย ผมต้องขายประกันรึป่าววว T.T
ถ้าคุณเป็นคนส่งใบสมัครไปเอง แล้วสถานที่ทำงานคือสำนักงานใหญ่ งานของคุณจะเป็นพนักงานประจำบริษัทครับ  ทำงานกินเงินเดือน ตามตึกออฟฟิสแถวๆ ถนนสีลม สาธร สุรวงศ์ ก็มีพนักงานบริษัทประกันทำงานรวมๆ กันเป็นพันคนครับ บริษัทประกันก็มีสถานภาพเหมือนสถาบันการเงินทั่วๆ ไป ที่จะต้องมีทั้ง ฝ่ายบัญชี ฝ่ายกฎหมาย ฝ่ายรับประกัน ฝ่ายลงทุน ฝ่ายบริหารความเสี่ยง ฝ่ายสินไหม ฯลฯ จะมีแต่ตัวแทนขายประกันไม่ได้ มันต้องมีคนทำหน้าที่อื่นๆ ด้วย พอร์ทการลงทุนของบริษัทประกันใหญ่ๆ เช่น AIA ไทยประกัน เมืองไทย ฯลฯ ก็มีเงินลงทุนเป็นหมื่นล้าน ต้องมีคนคอยบริหารจัดการครับ

จริงอยู่ที่ลักษณะของ Underwriter ไม่จำเป็นต้องขายประกันและหาลูกค้าเพื่อทำยอด เพราะตัวแทนและบริษัทนายหน้าจะเป็นคนที่เอาลูกค้านั้นเข้ามาเสนอให้เราเอง ปัญหาก็คือว่า จะพิจารณาให้ความคุ้มครองแก่ลูกค้าแต่ละรายอย่างไร จะรับหรือไม่รับ ถ้ารับจะรับประกันด้วยเงื่อนไขไหน ส่วนไหนที่ต้องยกเว้น ส่วนไหนที่ต้องจำกัดความรับผิด ถ้าเงื่อนไขของเราตึงเกินไป ก็จะเสียลูกค้ารายนั้นให้แก่บริษัทคู่แข่งเพราะพวกตัวแทนและนายหน้าเหล่านี้ก็ไม่ได้ส่งลูกค้าให้เราพิจารณาเจ้าเดียว แต่ถ้าเราหย่อนเกินไปสุดท้ายมีการเคลมใหญ่ๆ ขึ้นมาบริษัทก็จะเป็นฝ่ายขาดทุน KPI หลักของ Underwriter คือ พิจารณารับเบี้ยประกันเข้าบริษัทได้ตามเป้าตามที่พวกตัวแทนและนายหน้าส่งมา แต่ในขณะเดียวกันจะต้องรักษาอัตราการเคลมจะให้น้อยกว่าเบี้ยประกันที่รับเข้ามาด้วย