ทีวีสีรุ้ง: ตกลงตัวเองรักใคร
ตกลงตัวเองรักใคร : คอลัมน์ ทีวีสีรุ้ง สุนิสา สุขบุญสังข์ จากนสพ คมชัดลึก
สวัสดีคุณผู้อ่านนะคะ ต่อไปนี้เราจะเจอกันจันทร์เว้นจันทร์ค่ะ อ้อมเชื่อว่าช่วงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมาหลายคนคงได้รับความเพลิดเพลินจาก “คุณชายธราธร” กันไปแล้ว แต่อ้อมยังไม่ได้ดูค่ะ เพราะหมกตัวอยู่ในที่ไม่มีทีวี ถ้าได้ดูเมื่อไรเราคงได้คุยกัน
แต่อย่างน้อยอ้อมก็มีโอกาสดูเรื่องราวเกี่ยวกับ ความรัก อาฆาต พยาบาทของ “มณีสวาท” โดยส่วนตัวชอบเรื่องประเภทตำนานความเป็นอริที่มีต่อกันของครุฑกับนาคอยู่แล้วด้วยค่ะเลยยิ่งเพลิน โดยเฉพาะในเรื่องนี้ ไม่ใช่อริกันแบบตามๆ กันมา (เหมือนบางสถาบันที่มีปัญหากันจากรุ่นสู่รุ่นเพราะเชื่อว่าเราต้องทำร้ายกัน เราดีกันไม่ได้ แล้วก็ทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ จนรุ่นเราอาจงงว่า แล้วจริงๆ เราเกลียดกันเรื่องอะไร) แต่เรื่องนี้มันมีเหตุจากความรักที่ไม่สมหวังของพญาครุฑ ซึ่งจะเอานาคหญิงให้ได้ ฝ่ายนาคหญิงก็รักมั่นในนาคชาย (ที่สุดท้ายก็ต้องตายเพราะเจอลูกถีบของครุฑจนกระอักเลือด)
ถ้าทุกฝ่ายยอมรับกัน แค่นี้ก็จบ แต่ไม่ไง ใครจะรับได้ ต่อให้เกิดใหม่เปลี่ยนถ่ายสปีชี่มาเป็นคนก็ยังไม่รอด มาถึงชาตินี้ ทั้งสามจึงยังคงวนเวียนเกิดเป็นสองคน-หนึ่งนาคอยู่ แค่ฝ่ายชายสองคนก็มีปัญหากันเองพออยู่แล้ว นี่แม่ผู้หญิงยังจ้องจะรื้อฟื้นอดีตไม่จบไม่สิ้นโดยเอาแต่อ้างความรัก โอย...ดูแล้วเหนื่อยแม่คุณเอ๊ย ...พอมั้ย นี่เธอไม่ได้รักเขาแล้ว เธอรักแต่ตัวเองจ้า แต่ก็ดีที่สุดท้ายก็จบลงได้ รับเวรรับกรรมกันไป ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น
คนแบบนี้มีเยอะนะคะ เพราะวันต่อมาเวลาเดิม เราจะเจอ “น้องรำพึง” ค่ะ น้องนี่ก็รักตัวเองจนเพี้ยนอย่างถึงที่สุด หลายคนอาจถึงขั้นเดินท่องคาถา “ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู” ตามนาง เพราะแอบคิดว่ามันใช้ได้จริง อย่าหาว่าเพ้อนะคะ สมัยรากราคะเมื่อหลายปีก่อน อ้อมยังอยากรู้เลยว่าปลูกที่ไหน ใช้ได้จริงตามสรรพคุณหรือเปล่า
ฉันใดฉันนั้น นาคหญิงกับน้องรำพึงก็ไม่ต่างกันค่ะ ความรักไม่ได้ทำให้คนตาบอด แต่คนเราเลือกจะตาบอดเพราะอ้างความรัก ก็มันรักแต่ตัวเองอ่ะ เรื่องนี้เขียน3วันก็ไม่จบ เอาแค่เบาะๆ ก่อนแล้วกันนะคะ สำหรับ “บ่วงบาป” เรื่องมันก็แค่ว่า
1.ถ้ารำพึงไม่ทะเยอทะยานว่าต้องได้ลูกพระยามาทำสามี
2.ทำตัวดีให้เจ้าคุณพ่อยอมรับ แล้วยอมรับว่าตัวเองเป็นลูกเมียทาส
3.ไม่เลี้ยงบ่าวกากกาอย่างนังจวง
4.รักคนที่เขารักเราซะบ้าง
5.เห็นท่าว่าเขาไม่รัก ก็ยอมรับที่จะถอยออกมา
การไม่มองตามความเป็นจริงเหล่านี้ส่งผลให้นางหันไปคบพ่อมดหมอผี เพื่อเอาผู้ชายคือไอ้ขุนพิทักษ์ผู้นี้เป็นของข้าให้ได้ ถามหน่อย ได้มันแต่ตัวหล่อนจะเอามาทำไม อืม แต่ก็นะ ฉันให้เครดิตหมอผีของหล่อนทำการบ้านมาดีเลยตัดข้อสงสัยข้อนั้นไปได้ เพราะคาถาของหล่อนมันครอบคลุมนะ ที่ว่า “ตัวเป็นของกรู...” ยังอุตส่าห์บอกด้วย “ใจเป็นของกรู...” แต่ก็อีกแหละ เท่าที่สังเกต หล่อนต้องเพิ่มความหนักข้อในการใช้ไสย ทั้งแปะทอง (ซึ่งอะลุ้มอะล่วยเพราะคล้ายนวัตกรรมความงามสมัยนี้) แต่ไอ้ฆ่าแมว เอาเลือดมาปาดปากนี่ชั้นละกลัวจริงๆ เด็กๆ อย่าเอาเยี่ยงอย่างนะลูก การที่เราอยากได้ความรักแต่ไปกำจัดชีวิตผู้อื่น แค่เริ่มต้นก็ผิดละ มันต้องเริ่มจากมีเมตตา จริงใจต่อกันต่างหาก
แล้วดูซิ ทำมาขนาดนี้แล้ว ทำซ้ำทำซาก เพิ่มขนาดความแรงจนวอดวายกันไปไม่รู้เท่าไร สุดท้ายแพ้อะไร “ความดี” ไง ความดีที่เป็นสิ่งบริสุทธิ์เนี่ยแหละ แล้วถ้ามองกัน ทำไมอีขุนพิทักษ์กับพ่อขุนไว ถึงกลายเป็นผู้ชายลมเพลมพัด ก็เพราะไม่ยึดมั่นในความดีให้ตลอดรอดฝั่งไงค้า
“ขุนพิทักษ์” เนี่ยเข้าข่ายพ่อแม่รังแกฉัน รักลูกตามใจจนพัง การพนัน เหล้า ผู้หญิง ครบ เป็นมูลเหตุให้ตกสู่ที่ชั่วง่าย ส่วน “ขุนไว” ไม่รู้จะสงสารหรือสมเพช ฉลาดสร้างฐานะให้ดีได้ครบ แต่เข้าตำรา ฉลาดแต่ขาดปัญญา ไม่เห็นมารยาของแม่รำพึงเลย โดนหลอกคาตาแทบทุกฉากที่เห็น แต่ไม่เฉลียวใจสักนิด ถ้าคนแบบนี้โดนของแบบขุนพิทักษ์เข้าไปด้วย...ตาย ตาย ตาย ไม่อยากจะคิด ชีวิตพ่อก็คงพัง ตายกี่ชาติก็ล้างบาปไม่พอละมั้ง พ่อคุณเอ๊ย
ส่วนแม่รำพึงไม่ต้องพูดถึง...ชนะเลิศ หมายถึง ทำแต้มตกนรกชนะเลิศนะคะ
*** เอามาให้อ่านจากคอลัมในหนังสือพิมพ์ คมชัดลึกค่ะ
--- บทวิจารณ์(ปนวิเคราะห์) ของ บ่วงบาป นังน้องรำพึง ท่านขุน จาก อ้อม สุนิสา --- แอบฮาเบาๆ 555
ตกลงตัวเองรักใคร : คอลัมน์ ทีวีสีรุ้ง สุนิสา สุขบุญสังข์ จากนสพ คมชัดลึก
สวัสดีคุณผู้อ่านนะคะ ต่อไปนี้เราจะเจอกันจันทร์เว้นจันทร์ค่ะ อ้อมเชื่อว่าช่วงศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ที่ผ่านมาหลายคนคงได้รับความเพลิดเพลินจาก “คุณชายธราธร” กันไปแล้ว แต่อ้อมยังไม่ได้ดูค่ะ เพราะหมกตัวอยู่ในที่ไม่มีทีวี ถ้าได้ดูเมื่อไรเราคงได้คุยกัน
แต่อย่างน้อยอ้อมก็มีโอกาสดูเรื่องราวเกี่ยวกับ ความรัก อาฆาต พยาบาทของ “มณีสวาท” โดยส่วนตัวชอบเรื่องประเภทตำนานความเป็นอริที่มีต่อกันของครุฑกับนาคอยู่แล้วด้วยค่ะเลยยิ่งเพลิน โดยเฉพาะในเรื่องนี้ ไม่ใช่อริกันแบบตามๆ กันมา (เหมือนบางสถาบันที่มีปัญหากันจากรุ่นสู่รุ่นเพราะเชื่อว่าเราต้องทำร้ายกัน เราดีกันไม่ได้ แล้วก็ทำมาตั้งแต่รุ่นพ่อรุ่นแม่ จนรุ่นเราอาจงงว่า แล้วจริงๆ เราเกลียดกันเรื่องอะไร) แต่เรื่องนี้มันมีเหตุจากความรักที่ไม่สมหวังของพญาครุฑ ซึ่งจะเอานาคหญิงให้ได้ ฝ่ายนาคหญิงก็รักมั่นในนาคชาย (ที่สุดท้ายก็ต้องตายเพราะเจอลูกถีบของครุฑจนกระอักเลือด)
ถ้าทุกฝ่ายยอมรับกัน แค่นี้ก็จบ แต่ไม่ไง ใครจะรับได้ ต่อให้เกิดใหม่เปลี่ยนถ่ายสปีชี่มาเป็นคนก็ยังไม่รอด มาถึงชาตินี้ ทั้งสามจึงยังคงวนเวียนเกิดเป็นสองคน-หนึ่งนาคอยู่ แค่ฝ่ายชายสองคนก็มีปัญหากันเองพออยู่แล้ว นี่แม่ผู้หญิงยังจ้องจะรื้อฟื้นอดีตไม่จบไม่สิ้นโดยเอาแต่อ้างความรัก โอย...ดูแล้วเหนื่อยแม่คุณเอ๊ย ...พอมั้ย นี่เธอไม่ได้รักเขาแล้ว เธอรักแต่ตัวเองจ้า แต่ก็ดีที่สุดท้ายก็จบลงได้ รับเวรรับกรรมกันไป ใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น
คนแบบนี้มีเยอะนะคะ เพราะวันต่อมาเวลาเดิม เราจะเจอ “น้องรำพึง” ค่ะ น้องนี่ก็รักตัวเองจนเพี้ยนอย่างถึงที่สุด หลายคนอาจถึงขั้นเดินท่องคาถา “ใจเป็นของกู ตัวเป็นของกู เสพสมกายกู เสน่หาเพียงกู” ตามนาง เพราะแอบคิดว่ามันใช้ได้จริง อย่าหาว่าเพ้อนะคะ สมัยรากราคะเมื่อหลายปีก่อน อ้อมยังอยากรู้เลยว่าปลูกที่ไหน ใช้ได้จริงตามสรรพคุณหรือเปล่า
ฉันใดฉันนั้น นาคหญิงกับน้องรำพึงก็ไม่ต่างกันค่ะ ความรักไม่ได้ทำให้คนตาบอด แต่คนเราเลือกจะตาบอดเพราะอ้างความรัก ก็มันรักแต่ตัวเองอ่ะ เรื่องนี้เขียน3วันก็ไม่จบ เอาแค่เบาะๆ ก่อนแล้วกันนะคะ สำหรับ “บ่วงบาป” เรื่องมันก็แค่ว่า
1.ถ้ารำพึงไม่ทะเยอทะยานว่าต้องได้ลูกพระยามาทำสามี
2.ทำตัวดีให้เจ้าคุณพ่อยอมรับ แล้วยอมรับว่าตัวเองเป็นลูกเมียทาส
3.ไม่เลี้ยงบ่าวกากกาอย่างนังจวง
4.รักคนที่เขารักเราซะบ้าง
5.เห็นท่าว่าเขาไม่รัก ก็ยอมรับที่จะถอยออกมา
การไม่มองตามความเป็นจริงเหล่านี้ส่งผลให้นางหันไปคบพ่อมดหมอผี เพื่อเอาผู้ชายคือไอ้ขุนพิทักษ์ผู้นี้เป็นของข้าให้ได้ ถามหน่อย ได้มันแต่ตัวหล่อนจะเอามาทำไม อืม แต่ก็นะ ฉันให้เครดิตหมอผีของหล่อนทำการบ้านมาดีเลยตัดข้อสงสัยข้อนั้นไปได้ เพราะคาถาของหล่อนมันครอบคลุมนะ ที่ว่า “ตัวเป็นของกรู...” ยังอุตส่าห์บอกด้วย “ใจเป็นของกรู...” แต่ก็อีกแหละ เท่าที่สังเกต หล่อนต้องเพิ่มความหนักข้อในการใช้ไสย ทั้งแปะทอง (ซึ่งอะลุ้มอะล่วยเพราะคล้ายนวัตกรรมความงามสมัยนี้) แต่ไอ้ฆ่าแมว เอาเลือดมาปาดปากนี่ชั้นละกลัวจริงๆ เด็กๆ อย่าเอาเยี่ยงอย่างนะลูก การที่เราอยากได้ความรักแต่ไปกำจัดชีวิตผู้อื่น แค่เริ่มต้นก็ผิดละ มันต้องเริ่มจากมีเมตตา จริงใจต่อกันต่างหาก
แล้วดูซิ ทำมาขนาดนี้แล้ว ทำซ้ำทำซาก เพิ่มขนาดความแรงจนวอดวายกันไปไม่รู้เท่าไร สุดท้ายแพ้อะไร “ความดี” ไง ความดีที่เป็นสิ่งบริสุทธิ์เนี่ยแหละ แล้วถ้ามองกัน ทำไมอีขุนพิทักษ์กับพ่อขุนไว ถึงกลายเป็นผู้ชายลมเพลมพัด ก็เพราะไม่ยึดมั่นในความดีให้ตลอดรอดฝั่งไงค้า
“ขุนพิทักษ์” เนี่ยเข้าข่ายพ่อแม่รังแกฉัน รักลูกตามใจจนพัง การพนัน เหล้า ผู้หญิง ครบ เป็นมูลเหตุให้ตกสู่ที่ชั่วง่าย ส่วน “ขุนไว” ไม่รู้จะสงสารหรือสมเพช ฉลาดสร้างฐานะให้ดีได้ครบ แต่เข้าตำรา ฉลาดแต่ขาดปัญญา ไม่เห็นมารยาของแม่รำพึงเลย โดนหลอกคาตาแทบทุกฉากที่เห็น แต่ไม่เฉลียวใจสักนิด ถ้าคนแบบนี้โดนของแบบขุนพิทักษ์เข้าไปด้วย...ตาย ตาย ตาย ไม่อยากจะคิด ชีวิตพ่อก็คงพัง ตายกี่ชาติก็ล้างบาปไม่พอละมั้ง พ่อคุณเอ๊ย
ส่วนแม่รำพึงไม่ต้องพูดถึง...ชนะเลิศ หมายถึง ทำแต้มตกนรกชนะเลิศนะคะ
*** เอามาให้อ่านจากคอลัมในหนังสือพิมพ์ คมชัดลึกค่ะ