วันนี้ที่หมู่บ้านเรามีเรื่องไม่ค่อยดีค่ะอยากเอามาเตือนทุกคนค่ะ
คือบ้านหลังนี้มีคนแก่อยู่กับลูกหรือหลานไม่ทราบแต่น่าจะเป็นออทิสติกมีลูกอีกคนที่ปกติดีทำงาน
วันนี้ตอนเย็นคุณป้าในซอยมาเรียกสามีเราให้ไปดูมีคนแก่อีกซอยลูกชิ้นติดคอ
พอไปถึงบอกตามตรงตะลึง มีคนแก่ช่วยตัวเองไม่ได้อยู่กับคนที่เป็นออทิสติก
แจ้งรถฉุกเฉินไปก็แล้วเกินครึ่งชั่วโมงกว่ารถจะมา ตอนนั้นเป็นช่วงเลิกงานบ้านกับรพ.ห่างกันประมาณ10กิโลกว่า
ในที่สุดพอรถมาปั้มหัวใจอยู่สักพักพี่คนที่เป็นออทิสติกก็ถามพยาบาลว่า ทำไมไม่เอาขึ้นรถ
พยาบาลบอกว่า ถ้าปั้มหัวใจไม่ขึ้นเอาขึ้นรถไม่ได้ค่ะ
ท่ามกลางความวุ่นวายในการยื้อชีวิตคุณยาย พี่ออทิสติกเดินไปนั่งทานข้าวต่อ
ถึงตรงนี้เราทนดูไม่ไหวเดินกลับบ้าน เราไม่รู้ว่าสุดท้ายคุณยายรอดหรือไม่
แต่สิ่งที่เรารู้สึกคือ ทำไมถึงให้คนที่ช่วยตัวเองไม่ได้2คนอยู่ด้วยกัน
เราไม่ได้ว่าบุคคลที่เป็นออทิสติกทุกคนช่วยตัวเองไม่ได้
แต่ในยุคก่อนกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้มีตัวช่วยหรือถูกดูแลสอนให้ช่วยตัวเองแบบที่พ่อแม่ยุคใหม่สอนให้ลูกออทิสติกทำ
พี่เค้าไม่ได้รู้เรื่องว่าคุณยายไม่ควรทานลูกชิ้นเพราะคุณยายเคลื่อนไหวไม่ได้อายุเยอะแล้วด้วย
พี่เค้าไม่ได้รู้เรื่องว่าเวลาเกิดปัญหาควรจะขอความช่วยเหลืออย่างไร
พี่เค้าไม่รู้ว่าอาการแบบไหนคือต้องตามคนมาช่วย
อีกอย่างที่อยากบอกคือ เพื่อนบ้านควรจะมี ไม่ต้องสนิทหรอกค่ะ แต่ควรจะพูดกันได้มีน้ำใจให้กัน
เวลามีปัญหาจะได้ช่วยกันได้ เวลาอยู่บ้านลำพังจะได้มีคนคอยสอดส่องบ้าง
อย่าคิดไปเองว่าทุกคนที่มองมาในบ้านท่านนั้นสอดรู้สอดเห็น เราเองก็มองบ้านเพื่อนบ้าน
คอยบอกเวลาแมวแอบมาขี้ หมาแอบเข้าบ้าน หรือมีคนแปลกหน้ามาเมียงมองหน้าบ้าน
เราไม่ได้อยากเจือกแต่เราเป็นห่วง เพราะเราคิดว่าการซื้อบ้านไม่ได้ซื้อบ่อยๆสังคมรอบข้างเราต้องอยู่กับพวกเค้าไปอีกนาน
อย่าให้เป็นแบบวันที่เราได้ยินเลยว่า อย่าเข้าไปยุ่งเลย เดี๋ยวโดนด่าอีก บ้านนี้ไม่เอาใครเลย
นี่เป็นครั้งที่2ในหมู่บ้านเราที่มีคนสูงอายุเสียชีวิตเพราะความไม่คบหาใคร และอยู่ลำพัง
ถ้าคุณไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุหรือผู้พิการในบ้านได้ หรือไม่สามารถจ้างคนมาดูแลได้ การมีเพื่อนบ้านไว้บ้างก็ดีนะคะ
สุดท้ายนี้ เราไม่ทราบว่าคุณยายเป็นอย่างไรบอกตามตรงเราไม่กล้าไปถาม พรุ่งนี้คงจะทราบว่าเป็นอย่างไร
ขออนุญาติแท็ก ชานเรือนเพราะเป็นเรื่องในครอบครัว
ชายคา เพราะเป็นเรื่องในหมู่บ้าน
อุทาหรณ์ ลูกชิ้นติดคอ
คือบ้านหลังนี้มีคนแก่อยู่กับลูกหรือหลานไม่ทราบแต่น่าจะเป็นออทิสติกมีลูกอีกคนที่ปกติดีทำงาน
วันนี้ตอนเย็นคุณป้าในซอยมาเรียกสามีเราให้ไปดูมีคนแก่อีกซอยลูกชิ้นติดคอ
พอไปถึงบอกตามตรงตะลึง มีคนแก่ช่วยตัวเองไม่ได้อยู่กับคนที่เป็นออทิสติก
แจ้งรถฉุกเฉินไปก็แล้วเกินครึ่งชั่วโมงกว่ารถจะมา ตอนนั้นเป็นช่วงเลิกงานบ้านกับรพ.ห่างกันประมาณ10กิโลกว่า
ในที่สุดพอรถมาปั้มหัวใจอยู่สักพักพี่คนที่เป็นออทิสติกก็ถามพยาบาลว่า ทำไมไม่เอาขึ้นรถ
พยาบาลบอกว่า ถ้าปั้มหัวใจไม่ขึ้นเอาขึ้นรถไม่ได้ค่ะ
ท่ามกลางความวุ่นวายในการยื้อชีวิตคุณยาย พี่ออทิสติกเดินไปนั่งทานข้าวต่อ
ถึงตรงนี้เราทนดูไม่ไหวเดินกลับบ้าน เราไม่รู้ว่าสุดท้ายคุณยายรอดหรือไม่
แต่สิ่งที่เรารู้สึกคือ ทำไมถึงให้คนที่ช่วยตัวเองไม่ได้2คนอยู่ด้วยกัน
เราไม่ได้ว่าบุคคลที่เป็นออทิสติกทุกคนช่วยตัวเองไม่ได้
แต่ในยุคก่อนกลุ่มคนเหล่านี้ไม่ได้มีตัวช่วยหรือถูกดูแลสอนให้ช่วยตัวเองแบบที่พ่อแม่ยุคใหม่สอนให้ลูกออทิสติกทำ
พี่เค้าไม่ได้รู้เรื่องว่าคุณยายไม่ควรทานลูกชิ้นเพราะคุณยายเคลื่อนไหวไม่ได้อายุเยอะแล้วด้วย
พี่เค้าไม่ได้รู้เรื่องว่าเวลาเกิดปัญหาควรจะขอความช่วยเหลืออย่างไร
พี่เค้าไม่รู้ว่าอาการแบบไหนคือต้องตามคนมาช่วย
อีกอย่างที่อยากบอกคือ เพื่อนบ้านควรจะมี ไม่ต้องสนิทหรอกค่ะ แต่ควรจะพูดกันได้มีน้ำใจให้กัน
เวลามีปัญหาจะได้ช่วยกันได้ เวลาอยู่บ้านลำพังจะได้มีคนคอยสอดส่องบ้าง
อย่าคิดไปเองว่าทุกคนที่มองมาในบ้านท่านนั้นสอดรู้สอดเห็น เราเองก็มองบ้านเพื่อนบ้าน
คอยบอกเวลาแมวแอบมาขี้ หมาแอบเข้าบ้าน หรือมีคนแปลกหน้ามาเมียงมองหน้าบ้าน
เราไม่ได้อยากเจือกแต่เราเป็นห่วง เพราะเราคิดว่าการซื้อบ้านไม่ได้ซื้อบ่อยๆสังคมรอบข้างเราต้องอยู่กับพวกเค้าไปอีกนาน
อย่าให้เป็นแบบวันที่เราได้ยินเลยว่า อย่าเข้าไปยุ่งเลย เดี๋ยวโดนด่าอีก บ้านนี้ไม่เอาใครเลย
นี่เป็นครั้งที่2ในหมู่บ้านเราที่มีคนสูงอายุเสียชีวิตเพราะความไม่คบหาใคร และอยู่ลำพัง
ถ้าคุณไม่สามารถดูแลผู้สูงอายุหรือผู้พิการในบ้านได้ หรือไม่สามารถจ้างคนมาดูแลได้ การมีเพื่อนบ้านไว้บ้างก็ดีนะคะ
สุดท้ายนี้ เราไม่ทราบว่าคุณยายเป็นอย่างไรบอกตามตรงเราไม่กล้าไปถาม พรุ่งนี้คงจะทราบว่าเป็นอย่างไร
ขออนุญาติแท็ก ชานเรือนเพราะเป็นเรื่องในครอบครัว
ชายคา เพราะเป็นเรื่องในหมู่บ้าน