อาจจะมีคนว่าผมบ้า มาใช้งบการเงินทำไม ในภาวะตลาดแบบนี้
สำหรับสายพื้นฐานนั้น เขาจะทำงบตลอด
"ขุดหุ้น" ตลอด
ท่านทั้งหลายเคย สังเกตไหมว่า "VI" ระดับพอร์ต 5 เด้ง ออกทีวี ออกสัมมนาหลายท่าน
นิยมชมชอบในการ
"ขุดหุ้น" ไม่ค่อยซื้อหุ้นพิมพ์นิยมที่เหล่านักวิเคราะห์ทำประเมินมูลค่ากัน
อาจเป็นเพราะว่า พอนักวิเคราะห์ทำ เท่ากับว่า นักลงทุนทั้งตลาดฯ รับรู้แน่ๆ
หรืออาจเป็นเพราะ นักวิเคราะห์มักทำงานรับใช้หุ้นที่มี Market Cap. มากๆ
ตอนหุ้นเงียบๆ ไม่ค่อยดังก็ไม่มีใครสนใจ พอหุ้นเริ่มติดตลาดเท่านั้นแหละ ออกบทวิเคราะห์กันกระจาย
เรื่อง Market Cap.นี้ เคยมีผู้ใหญ่ท่านนึงในนี้กล่าวเอาไว้สั้นๆ ว่า่
"เคยเห็น ปตท.ขึ้นชนเพดาน แบบหุ้นใน MAI หรือไม่"
ผมพอสรุปเป็นภาษานิยายกำลังภายในในสไตล์ของตนเองไว้ได้ ประมาณว่า
(มีแต่น้ำครับข้างในนี้ ผมบ้า "เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ" อยู่ ข้ามได้ข้ามเลย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้การจะทำให้หุ้นใน SET50 SET100 ขึ้นแถบสีเขียวสดใสติดราคาเพดานได้ ต้องใช้เงินมหาศาล
เปรียบเหมือนสงครามใหญ่ๆ ที่ฝรั่งกับกองทุน ต้องใช้อาวุธดินปืน ใช้กองทัพม้ามากมาย กว่าจะชนะแรงขายของอีกฝั่งได้
หากเราเงินน้อย แล้วร่วมสงครามนี้ ก็เปรียบเสมือนกับ เบี้ยเล็กๆตัวหนึ่ง(บางท่านอาจจะเป็นเรือเป็นม้า ถ้าเงินเยอะ)
แต่เมื่อเทียบกับ สงครามในหุ้นเล็กๆ นอก SET100 หรือใน MAI อำนาจเงินแค่ไม่กี่หยิบมือก็ ทำราคาให้ชนเพดานได้
เปรียบเหมือน มีปืนใหญ่แค่ไม่กี่กระบอก ก็สามารถล้างผลาญศัตรูฝั่ง OFFER ได้จนหมดสิ้น
ท่านที่เป็น เบี้ยในสงคราม SET50 อาจจะกลายเป็นม้าเป็นเรือ หรือถึงขั้นเป็นขุน ในสงครามย่อยนี้
แต่ข้อเสียของการร่วมสงครามเล็กๆ คือ หากฝ่ายใดฝ่ายนึงเรียกทัพเสริมมา(จ้าวเข้า/ออก)
ทัพเสริมนี้ อาจเป็นเพียงทหารม้าหนึ่งกองร้อย ในสงคราม SET50 ไม่สามารถสร้างผลงานอะไรเป็นชิ้นเป็นอันได้
แต่เมื่อมาอยู่ในสงครามหุ้นเล็ก สามารถเผด็จศึก ฝ่าย offer ตรงข้ามให้จบสิ้นได้ (ราคาชนเพดาน)
เมื่อชนะสงครามชนเผ่าเล็กๆ มาเรื่อยๆ ก็จะมีคนเข้าร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ
กำลังพลที่มีก็มากขึ้น จากสงครามเล็กก็จะกลายเป็นสงครามใหญ่
ดังนั้นคนที่เลือกที่จะปลอดภัย คือ คนที่เข้าซื้อหุ้นใหญ่ๆ
ถือยาวๆ มีอนาคตแน่นอน นักวิเคราะห์หลายคนเห็นดีตรงกัน
แต่คนที่หวังผลแบบได้น้ำได้เนื้อ คือ คนที่ซื้อหุ้นเล็กดักไว้
ถือยาวๆ อนาคตมีแต่ตัวเองและผู้บริหารที่พอจะคาดเดาออก
คาดเดาผิดก็โทษใครไม่ได้ โทษได้แต่ตัวเอง เพราะไม่มีใครทำอะไรสำเร็จรูปไว้ให้ดู
แต่หากถูกทาง หุ้นเริ่มดัง คนเริ่มวิเคราะห์ เงินก็จะเข้ามาหาหุ้นตัวนั้นเอง Market Cap. มันจะเพิ่มขึ้นเอง
ยกตัวอย่างง่ายๆ PM หุ้นยอดขายโตทุกไตรมาศ ที่ โ่ยโย่(นามของ VI ท่านหนึ่ง)ถือมานมนาน
ทีมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งนึง พึ่งขุดเจอและนำเข้า Today Best trade ช่วยกันผลักดัน Market Cap. ต่อไป
คนที่หวังผลแบบได้น้ำได้เนื้อ คือ คนที่ทำการบ้านอย่างหนักนั่นคือ
"ขุดหุ้น"
ที่ต้องเรียกว่า
"ขุดหุ้น" เพราะหุ้นโนเนมเหล่านั้น ไม่มีใครทำอะไรมาให้คุณดูเลย
คุณต้องพับแขนเสื้อ และลงมือทำเอง ถึงจะได้มันมา
เฮียที่มากด้วยประสบการณ์ในตลาดหุ้นและเป็นยอดคนแห่งความกรุ้มกริ่ม ในนี้ท่านนึง เคยพิมพ์เล่าว่า
มีคนๆนึง ซื้อหุ้นในตอนช่วงวิกฤต และตอนนี้ก็ดังไปแล้ว นั่นเป็นเพราะเขาลงมือ "ขุดหุ้น" และมีความกล้าซื้อนั่นเอง
ยืดเยื้ออยู่ได้ ไม่เข้าเรื่องซักที มามะ มาทำงบรายไตรมาศกันครับ
ส่วน
ท่านที่อ่านงบการเงินไม่เป็นเบยยย บ่องตง ถ้าจะเป็นสายพิ้นฐานไม่รอดครับ
นอกจากจะเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ขั้นเทพ มองเห็นว่าอีก 5 ปีถัดไปอะไรจะฮิตที่สุดและมาแน่ๆ
ซึ่งผมก็ไม่ได้มี "พันธุมาร*" แบบนั้น เลยต้อง "ขุดหุ้น" จากตัวเลขงบการเงินกันต่ิอไป
วิธีอ่านงบการเงินคร่าวๆ กระทู้เดิมครับครับ
http://ppantip.com/topic/30147348
อันดับแรก ในการอ่านงบการเงินรายไตรมาศ คือ
ทำงบการเงินรายไตรมาศ
งบการเงินที่ SET แสดงให้เราดูเปรียบเทียบง่ายๆ จะมีเฉพาะรายปี แบบนี้
บางทีเราไม่รู้ว่า
"ไส้ใน" จริงๆ เกิดอะไรขึ้น มีกำไรพิเศษ รึป่าว
หรือ High Season ของธุรกิจมีหรือป่าว เห็นแต่ตัวเลขสรุปทั้งปี
พอปีหน้ากำไรพิเศษหายไป >>> กำไรสุทธิตกต่ำลง >>> EPS ลง >>> Fair price ลง >>> ราคาตลาดลง
กลายร่างเป็น VI จำเป็นไป.....VI จำเป็นแบบนี้
ซวย ตรงที่
เงินปันผลเป็นตัวเงิน มันลดลงไปด้วย เพราะ EPS มันลด
ดังนั้น หลังจากเราเลือกหุ้นจากผลประกอบการรายปี ซึ่งเป็นอดีตย้อนหลังแล้ว
เราต้อง "ขุดงบรายไตรมาศ" ออกมาดูก่อน เพื่อพิจารณาอนาคต นะจ๊ะ นะจ๊ะ
เริ่มโดย ไปหา SET.or.th แล้วเลือกหุ้นที่ท่านชอบ กด "ข่าว"
เลือก Download งบการเงินมาทุกไตรมาศ ถ้าขี้เกียจก็ลองทำแค่ 1 ปี ดู
เอาทั้ง 1, 2, 3 และ งบปี ของปี 2555 มาโหลดเก็บไว้ให้หมด
เลือกเปิด Excel ตรงงบการเงิน
เริ่ม copy ได้ เอา หัวแถวมันมาด้วย เพราะเดี๋ยวจะสับสน เริ่มที่ ไตรมาศ 1/2555 ก่อนเลยครับ
จากนั้นก็ เอา Q2 / 3 ใส่ตามมา ระวัง!!!! อย่า Copy-วาง ๆ อย่างเดียว
ให้เลือกมาเป็นหมวดๆ ให้ตรงกับหัวแถวมันมาด้วย
"ต้นทุนขาย ต้องตรงกับ ต้นทุนขาย" "รายได้อื่นๆ ต้องตรงกับ รายได้อื่นๆ"
อย่าก็อปวางๆๆๆ แล้วมางงที่หลัง ทำไมมันบรรทัดสุดท้ายเลยยื่นออกมา
เพราะ เรา
มักง่าย ครับ (ผมมักง่ายมาแล้ว และต้องแก้ใหม่หมด)
ถ้าทำทุกไตรมาศเสร็จแล้วจะได้แบบนี้ (ผมโชคดีที่ บมจ.นี้ไม่มี "กำไรพิเศษ")
เห็นมั้ยว่า พอเราทำแบบนี้ เราจะสังเกตเห็นได้ หลายๆอย่าง เอาง่ายๆ อย่างตัวนี้
1. รายได้จากการขายและบริการโตขึ้นทุกไตรมาศเลย แสดงให้เห็นว่า "มันได้งานเพิ่มจริงๆ นะเนี่ย"
2. อ่าวเฮ้ยยย!!! ทำไมกำไรขั้นต้น มันลดลงล่ะ ทั้งที่ได้งานเพิ่ม
ตรงนี้จะจุดความสงสัยให้เรากระทำการต่อไป นั่นคือ เอามาทำให้เห็นเป็น สัดส่วนต่างๆเลย แบบนี้
จากที่เราอ่านใน กระทู้เดิม "การอ่านงบการเงินคร่าวๆ......" เราจะเห็นว่า
รายได้เพิ่ม ต้นทุนเพิ่มเป็น%ที่มากกว่า อัตรากำไรขั้นต้นลด อาจจะให้เราเดาได้หลายๆ อย่าง เช่น
1. ยิ่งเพิ่มงาน ต้นทุนยิ่งเพิ่ม??? แบบนี้ เป็นไปได้ยาก
เพราะตามหลักแล้ว ยิ่งรับทำมาก ต้นทุนต้องลดตามกฎ
"การประหยัดต่อขนาด"
2. เป็นไปได้่ว่า ปีนี้ บมจ.นี้ ใช้
กลยุทธิ์ด้านราคา ใช้วิธีต่อรองหรือประมูล ว่าจะทำให้ถูกกว่า เพื่อให้ได้งานมากๆ
แต่โดยรวมขอให้ทั้งปี กำไรโตขึ้นก็เพียงพอ อีกทางนึงอาจจะได้เพิ่มคู่ค้าด้วย (อันนี้มโนฯเองล้วนๆ)
ดังนั้น ไปดู Opp day ต่ิอไปเลย เสียดาย บริษัทนี้ไม่มี Opp day Online ดังนั้น
จิ้มไป 100 หุ้นไปประชุมผู้ถือหุ้น หรือ รอมี Opp day ค่อยไปแจมนั่งฟัง
จากนั้นก็ค่อยนำมาพิจารณาต่อไป ว่าจะซื้อหุ้นนี้หรือไม่
VI สายโหดๆ หลายๆท่าน นั่งทำ Excel รายไตรมาศแบบนี้ย้อนหลังไป 5-10 ปี
แถมทำทุกงบ ทั้งงบดุล งบกระแสเงินสด งบกำไรขาดทุน
ดังนั้นไม่แปลกเลยที่เขาจะ "ขุดหุ้น" ไปเจอก่อนใคร และ
เข้าไปซื้อตอนมันราคาถูกๆ ก่อนสงครามจะเริ่มต้นขึ้น
สวัสดีครับ พี่น้องนักลงทุนชาวไทย
ปล.บ่งตองงงง ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ "ขุดหุ้น" รายตัวเลย หาไปตัวเองก็ไม่มีตังค์ซื้อ ลูกค้าก็ไม่ซื้อ จะหาหุ้นซิ่งอย่างเดียว
นั่งอ่าน "เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ" ในเวลางานดีกว่า ไปซื้อเลยสนุกมากๆๆๆ ออกเล่ม 5 มานี่เป็นหมดอ่ะ
ต้องซื้อ หุ้น SMM ดักไว้ซะละ แต่งบไม่ดีเลย เฮ้ย!!!! แต่ "หวงอี้" อาจจะทำให้ เทิร์น อะราวด์ ก็ได้นะ
"ขุดหุ้น" ง่ายๆ ด้วยการอ่านงบการเงิน (Ver. งบรายไตรมาศ)
สำหรับสายพื้นฐานนั้น เขาจะทำงบตลอด "ขุดหุ้น" ตลอด
ท่านทั้งหลายเคย สังเกตไหมว่า "VI" ระดับพอร์ต 5 เด้ง ออกทีวี ออกสัมมนาหลายท่าน
นิยมชมชอบในการ "ขุดหุ้น" ไม่ค่อยซื้อหุ้นพิมพ์นิยมที่เหล่านักวิเคราะห์ทำประเมินมูลค่ากัน
อาจเป็นเพราะว่า พอนักวิเคราะห์ทำ เท่ากับว่า นักลงทุนทั้งตลาดฯ รับรู้แน่ๆ
หรืออาจเป็นเพราะ นักวิเคราะห์มักทำงานรับใช้หุ้นที่มี Market Cap. มากๆ
ตอนหุ้นเงียบๆ ไม่ค่อยดังก็ไม่มีใครสนใจ พอหุ้นเริ่มติดตลาดเท่านั้นแหละ ออกบทวิเคราะห์กันกระจาย
เรื่อง Market Cap.นี้ เคยมีผู้ใหญ่ท่านนึงในนี้กล่าวเอาไว้สั้นๆ ว่า่
"เคยเห็น ปตท.ขึ้นชนเพดาน แบบหุ้นใน MAI หรือไม่"
ผมพอสรุปเป็นภาษานิยายกำลังภายในในสไตล์ของตนเองไว้ได้ ประมาณว่า
(มีแต่น้ำครับข้างในนี้ ผมบ้า "เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ" อยู่ ข้ามได้ข้ามเลย)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ดังนั้นคนที่เลือกที่จะปลอดภัย คือ คนที่เข้าซื้อหุ้นใหญ่ๆ ถือยาวๆ มีอนาคตแน่นอน นักวิเคราะห์หลายคนเห็นดีตรงกัน
แต่คนที่หวังผลแบบได้น้ำได้เนื้อ คือ คนที่ซื้อหุ้นเล็กดักไว้ ถือยาวๆ อนาคตมีแต่ตัวเองและผู้บริหารที่พอจะคาดเดาออก
คาดเดาผิดก็โทษใครไม่ได้ โทษได้แต่ตัวเอง เพราะไม่มีใครทำอะไรสำเร็จรูปไว้ให้ดู
แต่หากถูกทาง หุ้นเริ่มดัง คนเริ่มวิเคราะห์ เงินก็จะเข้ามาหาหุ้นตัวนั้นเอง Market Cap. มันจะเพิ่มขึ้นเอง
ยกตัวอย่างง่ายๆ PM หุ้นยอดขายโตทุกไตรมาศ ที่ โ่ยโย่(นามของ VI ท่านหนึ่ง)ถือมานมนาน
ทีมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งนึง พึ่งขุดเจอและนำเข้า Today Best trade ช่วยกันผลักดัน Market Cap. ต่อไป
คนที่หวังผลแบบได้น้ำได้เนื้อ คือ คนที่ทำการบ้านอย่างหนักนั่นคือ "ขุดหุ้น"
ที่ต้องเรียกว่า "ขุดหุ้น" เพราะหุ้นโนเนมเหล่านั้น ไม่มีใครทำอะไรมาให้คุณดูเลย
คุณต้องพับแขนเสื้อ และลงมือทำเอง ถึงจะได้มันมา
เฮียที่มากด้วยประสบการณ์ในตลาดหุ้นและเป็นยอดคนแห่งความกรุ้มกริ่ม ในนี้ท่านนึง เคยพิมพ์เล่าว่า
มีคนๆนึง ซื้อหุ้นในตอนช่วงวิกฤต และตอนนี้ก็ดังไปแล้ว นั่นเป็นเพราะเขาลงมือ "ขุดหุ้น" และมีความกล้าซื้อนั่นเอง
ยืดเยื้ออยู่ได้ ไม่เข้าเรื่องซักที มามะ มาทำงบรายไตรมาศกันครับ
ส่วนท่านที่อ่านงบการเงินไม่เป็นเบยยย บ่องตง ถ้าจะเป็นสายพิ้นฐานไม่รอดครับ
นอกจากจะเป็นผู้มีวิสัยทัศน์ขั้นเทพ มองเห็นว่าอีก 5 ปีถัดไปอะไรจะฮิตที่สุดและมาแน่ๆ
ซึ่งผมก็ไม่ได้มี "พันธุมาร*" แบบนั้น เลยต้อง "ขุดหุ้น" จากตัวเลขงบการเงินกันต่ิอไป
วิธีอ่านงบการเงินคร่าวๆ กระทู้เดิมครับครับ
http://ppantip.com/topic/30147348
อันดับแรก ในการอ่านงบการเงินรายไตรมาศ คือ ทำงบการเงินรายไตรมาศ
งบการเงินที่ SET แสดงให้เราดูเปรียบเทียบง่ายๆ จะมีเฉพาะรายปี แบบนี้
บางทีเราไม่รู้ว่า "ไส้ใน" จริงๆ เกิดอะไรขึ้น มีกำไรพิเศษ รึป่าว
หรือ High Season ของธุรกิจมีหรือป่าว เห็นแต่ตัวเลขสรุปทั้งปี
พอปีหน้ากำไรพิเศษหายไป >>> กำไรสุทธิตกต่ำลง >>> EPS ลง >>> Fair price ลง >>> ราคาตลาดลง
กลายร่างเป็น VI จำเป็นไป.....VI จำเป็นแบบนี้ ซวย ตรงที่ เงินปันผลเป็นตัวเงิน มันลดลงไปด้วย เพราะ EPS มันลด
ดังนั้น หลังจากเราเลือกหุ้นจากผลประกอบการรายปี ซึ่งเป็นอดีตย้อนหลังแล้ว
เราต้อง "ขุดงบรายไตรมาศ" ออกมาดูก่อน เพื่อพิจารณาอนาคต นะจ๊ะ นะจ๊ะ
เริ่มโดย ไปหา SET.or.th แล้วเลือกหุ้นที่ท่านชอบ กด "ข่าว"
เลือก Download งบการเงินมาทุกไตรมาศ ถ้าขี้เกียจก็ลองทำแค่ 1 ปี ดู
เอาทั้ง 1, 2, 3 และ งบปี ของปี 2555 มาโหลดเก็บไว้ให้หมด
เลือกเปิด Excel ตรงงบการเงิน
เริ่ม copy ได้ เอา หัวแถวมันมาด้วย เพราะเดี๋ยวจะสับสน เริ่มที่ ไตรมาศ 1/2555 ก่อนเลยครับ
จากนั้นก็ เอา Q2 / 3 ใส่ตามมา ระวัง!!!! อย่า Copy-วาง ๆ อย่างเดียว
ให้เลือกมาเป็นหมวดๆ ให้ตรงกับหัวแถวมันมาด้วย
"ต้นทุนขาย ต้องตรงกับ ต้นทุนขาย" "รายได้อื่นๆ ต้องตรงกับ รายได้อื่นๆ"
อย่าก็อปวางๆๆๆ แล้วมางงที่หลัง ทำไมมันบรรทัดสุดท้ายเลยยื่นออกมา
เพราะ เรามักง่าย ครับ (ผมมักง่ายมาแล้ว และต้องแก้ใหม่หมด)
ถ้าทำทุกไตรมาศเสร็จแล้วจะได้แบบนี้ (ผมโชคดีที่ บมจ.นี้ไม่มี "กำไรพิเศษ")
เห็นมั้ยว่า พอเราทำแบบนี้ เราจะสังเกตเห็นได้ หลายๆอย่าง เอาง่ายๆ อย่างตัวนี้
1. รายได้จากการขายและบริการโตขึ้นทุกไตรมาศเลย แสดงให้เห็นว่า "มันได้งานเพิ่มจริงๆ นะเนี่ย"
2. อ่าวเฮ้ยยย!!! ทำไมกำไรขั้นต้น มันลดลงล่ะ ทั้งที่ได้งานเพิ่ม
ตรงนี้จะจุดความสงสัยให้เรากระทำการต่อไป นั่นคือ เอามาทำให้เห็นเป็น สัดส่วนต่างๆเลย แบบนี้
จากที่เราอ่านใน กระทู้เดิม "การอ่านงบการเงินคร่าวๆ......" เราจะเห็นว่า
รายได้เพิ่ม ต้นทุนเพิ่มเป็น%ที่มากกว่า อัตรากำไรขั้นต้นลด อาจจะให้เราเดาได้หลายๆ อย่าง เช่น
1. ยิ่งเพิ่มงาน ต้นทุนยิ่งเพิ่ม??? แบบนี้ เป็นไปได้ยาก
เพราะตามหลักแล้ว ยิ่งรับทำมาก ต้นทุนต้องลดตามกฎ "การประหยัดต่อขนาด"
2. เป็นไปได้่ว่า ปีนี้ บมจ.นี้ ใช้กลยุทธิ์ด้านราคา ใช้วิธีต่อรองหรือประมูล ว่าจะทำให้ถูกกว่า เพื่อให้ได้งานมากๆ
แต่โดยรวมขอให้ทั้งปี กำไรโตขึ้นก็เพียงพอ อีกทางนึงอาจจะได้เพิ่มคู่ค้าด้วย (อันนี้มโนฯเองล้วนๆ)
ดังนั้น ไปดู Opp day ต่ิอไปเลย เสียดาย บริษัทนี้ไม่มี Opp day Online ดังนั้น
จิ้มไป 100 หุ้นไปประชุมผู้ถือหุ้น หรือ รอมี Opp day ค่อยไปแจมนั่งฟัง
จากนั้นก็ค่อยนำมาพิจารณาต่อไป ว่าจะซื้อหุ้นนี้หรือไม่
VI สายโหดๆ หลายๆท่าน นั่งทำ Excel รายไตรมาศแบบนี้ย้อนหลังไป 5-10 ปี
แถมทำทุกงบ ทั้งงบดุล งบกระแสเงินสด งบกำไรขาดทุน
ดังนั้นไม่แปลกเลยที่เขาจะ "ขุดหุ้น" ไปเจอก่อนใคร และเข้าไปซื้อตอนมันราคาถูกๆ ก่อนสงครามจะเริ่มต้นขึ้น
สวัสดีครับ พี่น้องนักลงทุนชาวไทย
ปล.บ่งตองงงง ช่วงนี้ไม่ค่อยได้ "ขุดหุ้น" รายตัวเลย หาไปตัวเองก็ไม่มีตังค์ซื้อ ลูกค้าก็ไม่ซื้อ จะหาหุ้นซิ่งอย่างเดียว
นั่งอ่าน "เหยี่ยวมารสะท้านสิบทิศ" ในเวลางานดีกว่า ไปซื้อเลยสนุกมากๆๆๆ ออกเล่ม 5 มานี่เป็นหมดอ่ะ
ต้องซื้อ หุ้น SMM ดักไว้ซะละ แต่งบไม่ดีเลย เฮ้ย!!!! แต่ "หวงอี้" อาจจะทำให้ เทิร์น อะราวด์ ก็ได้นะ