ผบ.ตร.เซ็นตั้ง “ชัชวาลย์” เป็นประธานสอบเอาผิดรายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส เชื่อเข้าข่ายผิด กม. สั่งการทุกโรงพักเปิดรับแจ้งความหากมีผู้ร้องทุกข์กล่าวโทษ
วันนี้ (21 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบเทปและบทสนทนารายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสว่า เบื้องต้นฝ่ายกฎหมายได้ตรวจสอบเทปรายการดังกล่าวซึ่งมีนายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยเฉพาะในตอนที่ 4 และ 5 ซึ่งมีนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ เป็นผู้ร่วมรายการ พบว่ามีถ้อยคำบางช่วงบางตอนของผู้ร่วมรายการน่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา ด้วยเหตุผลดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญและเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร รวมถึงอยู่ในความสนใจของประชาชน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงได้มีคำสั่ง ตร. ที่ 192/2556 ลงวันที่ 21 มี.ค. 2556 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร ที่ปรึกษา (สบ 10) ฝ่ายกฎหมาย เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวน โดยมีคณะทำงานชุดสืบสวนจำนวน 50 นาย ประกอบด้วย ชุดสืบสวนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล โดยให้เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนโดยเร็วที่สุดว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอย่างไรหรือไม่ และหากการสืบสวนสอบสวนมีหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยให้รายงานความคืบหน้าทุก 30 วัน
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สืบเนื่องจากรายการดังกล่าวมีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ มีการนำถ้อยคำมาขยายความต่อในสื่อออนไลน์ ผบ.ตร.จึงได้กำชับให้ทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศรับแจ้งความ หากมีผู้ร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ก็ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนสอบปากคำบุคคลนั้นไว้เบื้องต้นก่อนส่งบันทึกคำให้การส่งมายัง พล.ต.อ.ชัชวาลย์ เพื่อดำเนินการ เนื่องจากเป็นคดีประเภทเดียวกัน งานจะได้ไม่ซ้ำซ้อน
ทั้งนี้ ฝากเตือนประชาชนที่นำข้อความหมิ่นเหม่ไปเผยแพร่ต่อผ่านทางสื่อออนไลน์ อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย
ยุคยิ่งลักษณ์ เฉลิมคุมตำรวจ สตช.ฟันธง “ตอบโจทย์” ผิด กม. สั่งทุกโรงพักรับแจ้งความ
วันนี้ (21 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการตรวจสอบเทปและบทสนทนารายการ “ตอบโจทย์ประเทศไทย” ของสถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอสว่า เบื้องต้นฝ่ายกฎหมายได้ตรวจสอบเทปรายการดังกล่าวซึ่งมีนายภิญโญ ไตรสุริยธรรมา เป็นผู้ดำเนินรายการ โดยเฉพาะในตอนที่ 4 และ 5 ซึ่งมีนายสมศักดิ์ เจียมธีรสกุล และนายสุลักษณ์ ศิวรักษ์ เป็นผู้ร่วมรายการ พบว่ามีถ้อยคำบางช่วงบางตอนของผู้ร่วมรายการน่าจะเข้าข่ายผิดกฎหมายอาญา ด้วยเหตุผลดังกล่าว สำนักงานตำรวจแห่งชาติพิจารณาแล้วเห็นว่า เรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องสำคัญและเกี่ยวกับความมั่นคงในราชอาณาจักร รวมถึงอยู่ในความสนใจของประชาชน พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) จึงได้มีคำสั่ง ตร. ที่ 192/2556 ลงวันที่ 21 มี.ค. 2556 แต่งตั้งคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน โดยมี พล.ต.อ.ชัชวาลย์ สุขสมจิตร ที่ปรึกษา (สบ 10) ฝ่ายกฎหมาย เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนสอบสวน พล.ต.ท.สฤษฎ์ชัย เอนกเวียง ผู้บัญชาการตำรวจสันติบาล (ผบช.ส.) เป็นรองหัวหน้าพนักงานสืบสวน โดยมีคณะทำงานชุดสืบสวนจำนวน 50 นาย ประกอบด้วย ชุดสืบสวนจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) ซึ่งเป็นพื้นที่เกิดเหตุ และกองบัญชาการตำรวจสันติบาล โดยให้เร่งดำเนินการสืบสวนสอบสวนโดยเร็วที่สุดว่าการกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายอย่างไรหรือไม่ และหากการสืบสวนสอบสวนมีหลักฐานเชื่อมโยงถึงบุคคลใดก็จะดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยให้รายงานความคืบหน้าทุก 30 วัน
พล.ต.ต.ปิยะกล่าวว่า สืบเนื่องจากรายการดังกล่าวมีการเผยแพร่ต่อสาธารณะ มีการนำถ้อยคำมาขยายความต่อในสื่อออนไลน์ ผบ.ตร.จึงได้กำชับให้ทุกสถานีตำรวจทั่วประเทศรับแจ้งความ หากมีผู้ร้องทุกข์หรือกล่าวโทษ ก็ให้พนักงานสอบสวนดำเนินการสอบสวนสอบปากคำบุคคลนั้นไว้เบื้องต้นก่อนส่งบันทึกคำให้การส่งมายัง พล.ต.อ.ชัชวาลย์ เพื่อดำเนินการ เนื่องจากเป็นคดีประเภทเดียวกัน งานจะได้ไม่ซ้ำซ้อน
ทั้งนี้ ฝากเตือนประชาชนที่นำข้อความหมิ่นเหม่ไปเผยแพร่ต่อผ่านทางสื่อออนไลน์ อาจมีความผิดตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ด้วย