Before & After ~~~~แมวหน้าแปลก~~~

กระทู้สนทนา
เรื่องของเราจะต่างกับของเพื่อน ๆ นะคะเพราะเพื่อน ๆ มีแต่ช่วยเหลือแมว แต่เราเกือบจะเอาแมวไปปล่อยวัด
Before

After


เก่าตั๋งเป็นลูกของแม่ถุงทองซึ่งแม่ถุงทองก็มีคนเอามาปล่อยไว้หน้าบ้านพร้อมกับพี่น้องอีก 3 ในวันที่พ่อเราเสียพอดีพร้อมอาหารแมววิสกัสแบบเปียก 1 ห่อ ฉีกปากถุงให้ ก็เลี้ยงมาประมาณ 1 ปี ยังไม่ได้พาไปทำหมัน เพราะคลินิคที่หาประจำไม่รับทำหมันฉีดยาคุมอย่างเดียว ก็ไปฉีดอยู่ประมาณ 3 ครั้งและจะทะเลาะกับแม่ตลอดเพราะแม่ไม่อยากให้เราทำหมันแม่บอกว่าบาป แต่ก็ไม่อยากเลี้ยงเพิ่มอีก ก็แอบมองหาที่ทำหมันแต่ตอนนั้นที่หาไว้ มีแต่ราคา 1,000 กว่าปลาย ๆ - 3,000 บาท ซึ่งถ้าทำพร้อมกัน 4 ตัวก็เป็นเงินเยอะอยู่ ประมาณเดือน กันยายน ปี52 ก็คิดว่าแม่ถุงทองเริ่มอ้วนแล้ว แต่ช่วงนั้นงานยุ่งมากไม่มีเวลาจะไปไหนเลยพอเดือนตุลาคม เริ่มรู้ตัวแล้วว่า แม่ถุงทองท้องแล้วไม่ใช่อ้วน ก็ไม่เป็นไรเดี๋ยวออกมาก็เลี้ยงแล้วกัน ประมาณปลายเดือนตุลาคม แม่ถุงทองคลอดออกมา 3 หน่อ 1 ชาย 2 หญิง
แม่ถุงทอง


มาเริ่มเรื่องของเก่าตั๋งเลยนะคะ แม่ถุงทองคลอดในกล่องตอนแรกไปเปิดดูเห็นแค่ 2  ผ่านอีกเดี๋ยวเดินไปดูอีกทีเห็นตัวที่ 3 ออกมาอีก ตัวเล็กมาก และ สีก็แปลก ๆ ไม่เหมือนพี่ทั้ง 2  พี่สาวเค้าจะสีขาวทั้งตัว พี่ชายออกลายสลิดอ่อน แต่เก่าตั๋งจะตัวขาว หูสีดำข้างหนึ่ง สีเหลืองข้างนึ่งคิดว่าสีแปลกดีแมวที่เคยเลี้ยงไว้ไม่มีสีแบบนี้สักตัว รู้แต่ว่าแม่ถุงทองจะค่อยดูแลตัวนี้เป็นพิเศษคือถ้าพี่ ๆ เค้าจะมาแย่งกินนมจากเต้าที่เค้ากินอยู่ แม่ถุงทองจะค่อยดัน ๆ หัวพี่ ๆ ออกไป แต่เจ้าตัวเล็กเองก็จะเปลี่ยนเต้าไปเรื่อย ๆ ตอนนั้นไม่รู้ว่าทำไมเค้าต้องเปลี่ยนเต้าไปเรื่อย ๆผ่านไปประมาณ 2 วันแม่ถุงทองเริ่มออกมาทำธุระส่วนตัวนอกกล่องก็เลยไปจับตัวหนู ๆ ทั้งหลายมายลโฉม ตอนนั้นเองก็เห็นว่าเจ้าตัวเล็กจมูกแปลกๆ ตอนนั้นยังไม่เห็นขาหน้าทั้งสองข้าง พอเหมียวน้อยทั้ง 3 เริ่มลืมตาเราก็เริ่มจับออกมาเล่นให้เค้าเดิน และในตอนนั้นเองก็เห็นความผิดปรกติที่ชัดเจนของเก่าตั๋งคือ จมูกเค้าผ่ากลางแต่ติดกันเรียบร้อยดีไม่มีรูโหว่ง  และขาหน้าทั้ง 2 ข้างก็ไม่มีเล็บ เอาให้น้องชายดู(เรามีน้องชาย 2 คน) ดูแล้วก็ไม่ได้พูดอะไรกันเพราะรู้ว่าถ้าแม่รู้แม่ต้องไม่ยอมให้เลี้ยงแน่ ๆ เลย แต่ก็ปิดบังไม่ได้สักวันแม่ก็ต้องรู้อยู่ดีก็เลยตัดสินใจบอก ก็เป็นเหมือนที่คิดไว้คือแม่บอกให้เอาไปปล่อยวัด เราไปปรึกษาน้องชายคนที่ 2 ว่า
"แม่จะให้เอาไอ้เหมียวตัวเล็กสี ๆ ไปปล่อยวัดนะ"
"จะให้เอาไปปล่อย มันจะหากินเองได้ไง แล้วมันจะสู้ตัวอื่นได้เหรอ"
"ก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่แม่บอกว่าให้เอาไปปล่อยเลยไม่ให้เลี้ยง รอมันโตอีกหน่อยก็ได้"
น้องชายก็เดินไปหาแม่
"แม่จะให้เอาไอ้เหมียวไปปล่อยเหรอ"
"แล้วจะเลี้ยงมันหรือไง มันพิการนะ"
"ก็นั่นแหละมันพิการ แล้วจะให้เอาไปปล่อย มันก็ต้องตายนะสิ"
แม่ ............... พอดีวันรุ่งขึ้นแม่นัดกับเพื่อนไว้จะไปทำบุญกันที่วัดต่างจังหวัด
"ถ้าจะให้เอามันไปปล่อยนะ ต่อไปก็ไม่ต้องไปทำบุญแล้วหล่ะ แล้วก็ไม่ต้องให้พาไปวัดด้วย"
แล้วน้องชายก็เดินหนีไป พอวันรุ่งขึ้นแม่ไปกับเพื่อนแล้ว ก็คุยกับน้องชาย
"แล้วตกลงจะเอายังไงกับไอ้เหมียว"
"รอดูไปก่อนแล้วกัน ถ้าแม่พูดอีกว่าให้เอาไปปล่อยแล้วค่อยคิดอีกที"
"แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันเนอะ ว่ามันจะแข็งแรงไหม จะอยู่ได้นานรึเปล่า"
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาแม่ก็ไม่ได้พูดเรื่องให้เอาไปปล่อย ตลอดเวลาก็พยายามให้ตัวเล็กอยู่แต่ในกรงบางครั้งแม่ไม่อยู่ก็จับเค้ามาเล่นในบ้าน ก็ซนสุดยอดด้วยความที่อายุ 3 เดือนแล้วแต่ยังตัวเล็กมากอยู่เค้ามักจะมุดไปอยู่ในซอกที่เราเข้าไปไม่ได้ บางครั้งแม่กลับมาเห็นเราเล่นกับเจ้าตัวเล็กอยู่ก็มอง ๆ แต่ไม่ได้พูดอะไร แล้วอยู่มาวันหนึ่งแม่ก็บอกว่าตกลงจะตั้งชื่อไอ้เหมียวว่าอะไร เราก็งงเพราะตลอดเวลาเราไม่ได้คิดเลยว่าจะชื่ออะไรดีคิดแต่ว่าวันนี้แม่จะให้เอาไอ้เหมียวไปปล่อยรึเปล่า วันนั้นจำได้ว่าหนังสือพิมพ์ลงหน้า 1 เรื่อง หมาเก่าตั๋งที่ชอบมาฟังพระให้พรตอนที่เจ้าของเค้าใส่บาตรตอนเช้าทุกวัน ก็เลยบอกแม่ว่าให้ชื่อ เก่าตั๋ง ก็แล้วกัน แม่ถามว่าทำไมให้ชื่อนี้ เราก็เลยเอาหนังสือพิมพ์ให้ดูแม่ดู แม่ก็บอกว่างั้นตัวเมียอีกตัวก็ชื่อ แป๊ะจี้ แล้วตัวผู้ชื่อ ปู้กุ้ย ก็แล้วกันจะเข้ากัน
พี่แป๊ะจี้

พี่ปู้กุ้ย


เห็นแม่ใจอ่อนแล้ว เราก็เลยพาเก่าตั๋งขึ้นไปนอนบนห้องด้วยกัน เพราะเวลาเค้าอยู่ในกรงเค้าจะโดนพี่เค้านอนทับตลอดเพราะเค้าตัวเล็กกว่า ตอนกินก็แย่งพี่ไม่ค่อยทัน พี่ปู้กุ้ยค่อยดันหัวออกจากจานข้าวตลอด ตอนแรกก็เริ่มบอกแม่ก่อนว่าให้เก่าตั๋งมานอนในบ้านนะ เพราะเก่าตั๋งแย่งพี่เค้ากินข้าวไม่ทัน(ไม่เกี่ยวกันเลย) แม่ก็ไม่ว่าอะไร พอกลางคืนแม่ขึ้นนอนก่อนเราก็แอบพาไปนอนในห้อง ตอนเช้าแม่เห็นแม่ก็แค่บอกว่า เดี๋ยวเหอะ ระวังจะเป็นหอบ บอกแล้วไม่เชื่อก็ตามใจ เราเลยเหมาว่าแม่อนุญาติแล้ว พอเก่าตั๋งได้มาอยู่ในบ้านได้กินตัวเดียวเค้าก็จะกินเต็มพิกัดไม่มียั้ง วันแรกกินจนก้างปลาทูขึ้นไปติดบนเพดานปากแล้วก็ร้องลั่นบ้านเพราะเอาออกเองไม่ได้ ต่อมาจะให้เค้ากินก็ต้องแกะก้างให้ เอาเนื้อคลุกข้าว เอาก้างให้พี่ ๆ เค้ากิน ต่อมาก็เปลี่ยนมาเป็นอาหารเม็ด ชอบกินทาโร่ แต่มีปัญหาเรื่องขนร่วงมาก ๆ เวลาลูบตัวเค้า ขนจะหลุดติดมือมาเยอะมาก เพื่อนๆ ในห้องแมวก็บอกว่าอาหารที่เค้ากินไม่ดีต่อเค้า ตอนนี้กินแต่อาหารเปียก


ไม่แน่ใจว่าเพื่อน ๆ จะคิดว่ายาวไปไหม แต่ที่เราเท้าความถึงแม่ถุงทองเพราะในใจลึกๆ เราก็คิดว่าเรามีส่วนที่ทำให้เก่าตั๋งพิการเพราะเราพาแม่ถุงทองไปฉีดยาคุมถึง 3 ครั้ง เพราะพี่ปู้กุ้ยก็ตาเหล่ มีพี่แป๊ะจี้ตัวเดียวที่สวยที่สุด


แล้วก็ขอแก้ตัวแทนแม่หน่อยค่ะ แม่ไม่ใช่คนใจร้ายนะคะ แต่เค้าถือเรื่องโชคลาง ที่เค้าให้เอาเก่าตั๋งไปปล่อยเพราะเค้าเห็นเก่าตั๋งพิการคิดว่าเป็นลางไม่ดี แต่พอเค้าได้ฟังที่น้องชายพูดเค้าก็คงคิดว่ามันก็เป็นบาปเค้าก็เลยไม่พูดอะไรค่ะ
จนถึงวันผ่านไปประมาณ 3 ปีนิด ๆ แล้ว เคยคิดย้อนกลับไปนะคะ ว่าถ้าเราเอาเค้าไปปล่อยจริง ๆ เค้าคงตายไปแล้วแน่ ๆ เลยค่ะ เก่าตั๋งนอนคลินิคครั้งเดียวค่ะ ตอนไปทำหมันที่ต้องนอนเพราะเรากลับมารับเค้ากลับบ้านไม่ทันค่ะคลินิคปิดก่อน แต่หมอไม่คิดค่าฝากเพิ่ม เพราะเก่าตั๋งทำตัวน่ารักมาก หมอบอกเก่าตั๋งเหมือน กระต่าย กับ หมาชิวาว่าค่ะ (เรานึกในใจว่าหมอเก่าตั๋งไม่เหมือนแมวเลยเหรอ)
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่