ปิดทองหลังพระ

กระทู้สนทนา
ท่านเคยท้อแท้เบื่อหน่ายในการทำความดีกันบ้างไหมครับ เช่น
ทำดีแล้วไม่ได้ดี
ทำดีแล้วไม่มีใครเห็น
ทำคุณบูชาโทษ เป็นต้น

หากทำดีโดยไม่ "ติด" ดี
ไม่ "หวัง" ดี
เพราะดีคือดี....ต้องได้ดีแน่นอน

ลองอ่านเรื่องราวต่อไปนี้ดูนะครับ
พ่อหลวง...ทรงสอนด้วยวิธีง่ายๆ  ให้เราทำความดีต่อไปโดยไม่ท้อถอยและไม่หวังครับ



"ในคืนวันหนึ่งของปีพ.ศ. ๒๕๑๐
(ยศในขณะนั้นพันตำรวจโท)  หลังจากได้รับพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำแล้ว
ในวังไกลกังวล……..
ผมจำได้ว่า คืนนั้นผู้ที่โชคดีได้เข้าเฝ้าฯ รับพระราชทานพระจิตรลดา
เป็นนายตำรวจ 8 นาย และนายทหารเรือ 1 นาย
พระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงมาพร้อมด้วยกล่องใส่พระเครื่องในพระหัตถ์

ทรงอยู่ในฉลองพระองค์ชุดลำลอง
ขณะที่ทรงวางพระลงบนฝ่ามือที่ผมแบรับอยู่นั้น
ผมมีความรู้สึกว่าองค์พระร้อนเหมือนเพิ่งออกจากเตา

ภายหลัง เมื่อมีโอกาสกราบบังคมทูลถาม จึงได้ทราบว่า
พระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างพระเครื่ององค์นั้น
ด้วยการนำเอาวัตถุมงคลหลายชนิดผสมกัน เช่น ดินจากปูชนียสถานต่างๆทั่วประเทศ
ดอกไม้ที่ประชาชนทูลเกล้าถวายในโอกาสต่างๆ และเส้นพระเจ้า(เส้นผม)ของพระองค์เอง
เมื่อผสมกันโดยใช้กาวลาเท็กซ์เป็นตัวยึดแล้ว จึงทรงกดลงในพิมพ์
(อ.ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ซึ่งต่อมาเป็นศิลปินแห่งชาติ เป็นผู้แกะถวาย)
โดยไม่ได้เอาเข้าเตาเผา

หลังจากที่ได้รับพระราชทานแล้ว
ทรงพระกรุณาพระราชทานพระบรมราโชวาทมีความว่า.....
” พระที่ให้ไปน่ะ  ก่อนจะเอาไปบูชา ให้ปิดทองเสียก่อน
แต่ให้ปิดเฉพาะข้างหลังพระเท่านั้น ”


……..พระราชทานพระบรมราชาธิบายด้วยว่า
ที่ให้ปิดทองหลังพระก็เพื่อเตือนตัวเองว่า

การทำความดีไม่จำเป็นต้องอวดใคร  หรือประกาศให้ใครรู้
ให้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่
และถือว่าความสำเร็จในการทำหน้าที่เป็นบำเหน็จรางวัลที่สมบูรณ์แล้ว…..


ผมเอาพระเครื่องพระราชทานไปปิดทองที่หลังพระแล้ว ก็ซื้อกรอบใส่
หลังจากนั้นมา สมเด็จจิตรลดาหรือพระกำลังแผ่นดินองค์นั้น
ก็เป็นพระเครื่องเพียงองค์เดียวที่ห้อยคอผม
หลังจากที่ไปเร่ร่อนปฏิบัติหน้าที่อยู่ไกลห่างพระยุคลบาท
ผมได้มีโอกาสกลับไปเฝ้าฯ ที่วังไกลกังวลอีก…..ความรู้สึกเมื่อได้เฝ้าฯ
นอกจากจะเป็นความปีติยินดีที่ได้พระยุคลบาทอีกครั้งหนึ่งแล้ว
ก็มีความน้อยใจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ ลำบาก และเผชิญอันตรายนานาชนิด
บางครั้งจนแทบเป็นอันตรายถึงชีวิต
แต่ปรากฎว่ากรมตำรวจมิได้ตอบแทนด้วยบำเหน็จใดๆ ทั้งสิ้น
ก่อนเสด็จขึ้นคืนนั้น ผมจึงก้มลงกราบบนโต๊ะเสวย แล้วกราบบังคมทูลว่า

ใคร่ขอพระราชทานอะไรสักอย่างหนึ่ง……….
……..พระเจ้าอยู่หัวตรัสถามว่า “จะเอาอะไร?”
และผมก็กราบบังคมทูลอย่างกล้าหาญชาญชัยว่า.....
จะขอพระบรมราชานุญาต ปิดทองบนหน้าพระ ที่ได้รับพระราชทานไป

พระเจ้าอยู่หัวตรัสถามเหตุผลที่ผมขอปิดทองหน้าพระ…..
ผมกราบบังคมทูลอย่างตรงไปตรงมาว่า  พระสมเด็จจิตรลดาหรือพระกำลังแผ่นดินนั้น
นับตั้งแต่ได้รับพระราชทานไปห้อยคอแล้ว ต้องทำงานหนักและเหนื่อยเป็นที่สุด
เกือบได้รับอันตรายร้ายแรงก็หลายครั้ง
มิหนำซ้ำกรมตำรวจยังไม่ให้เงินเดือนขึ้นแม้แต่บาทเดียวอีกด้วย……

……พระเจ้าอยู่หัวทรงแย้มพระสรวจ (ยิ้ม)
ก่อนที่จะมีพระราชดำรัสตอบด้วยพระสุรเสียงที่ส่อพระเมตตาและพระกรุณาว่า

"ปิดทองไปข้างหลังพระเรื่อยๆ แล้วทองจะล้นออกมาที่หน้าพระเอง"

ขอให้พระองค์ทรงพระเจริญยิ่งยืนนาน
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อมขอเดชะ
จากบันทึกความทรงจำของ พล.ต.อ. วสิษฐ  เดชกุญชร






การปิดทองหลังพระนั้น เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องปิด
ว่าที่จริงแล้ว คนโดยมากไม่ค่อยชอบปิดทองหลังพระกันนัก
เพราะนึกว่าไม่มีใครเห็น
แต่ถ้าทุกคนพากันปิดทองแต่ข้างหน้า  ไม่มีใครปิดทองหลังพระเลย
พระ   จะเป็นพระที่งามบริบูรณ์ไม่ได้



พระบรมราโชวาทในพิธีพระราชทานปริญญาบัตร
แก่นิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๐๖
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่