โดนล้วงกระเป๋า... เราระวังไม่พอหริอเราบื๊อเกินไปที่ไม่ทันเล่ห์โจร?

กระทู้สนทนา
เรื่องมีอยู่ว่าเมื่อวันศุกร์เรามีธุระต้องไปทำที่มหาวิทยาลัย อีกอย่างรู้กระทันหันก็เลยไม่ได้บอกพ่อแม่ที่อยู่คนละบ้าน ซึ่งปกติเราก็ไม่ค่อยได้บอก เพราะแม่จะเฉ่งทุกครั้งที่บอก แกว่าขยันไปไหนนักหนา อยู่บ้านสบายๆ ไม่ชอบเหรออะไรประมาณนี้

เข้าเรื่องต่อ...

ทำธุระเสร็จประมาณบ่ายสาม ฝนก็สาดโครมลงมาอย่างกับฟ้ารั่ว เราก็เลยต้องเก็บโทรศัพท์ใส่กระเป๋าไป ซึ่งมันก็ไม่น่าจะมีอะไรใช่มั้ยคะ แล้วทีนี้เราต้องไปต่อรถไฟอีกกว่าจะถึงบ้าน ระหว่างรอรถไฟมาเราได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็เลยหยิบออกมาดูว่าใครโทรมา ปรากฏว่าหยิบขึ้นมามันดันไม่ใช่มือถือของเราที่ดัง ฟังดีๆ เสียงมันมาจากข้างหลังต่างหาก (ยังคิดอยู่ว่าเสียงเรียกเข้าของตัวเองมันก็ไม่ได้โหลนะ) เอาล่ะก็เก็บมือถือใส่กระเป๋าไป แล้วก็สาบานได้ว่าหยิบมันออกมาแค่ครั้งเดียว แป๊บเดียวจริงๆ เพราะตอนนั้นฝนก็ยังตกอยู่ แถมมีสาดเข้ามาถึงตรงที่เรานั่งด้วย

ถึงเวลารถไฟมา เราก็เดินไปรอขึ้นรถไฟเหมือนคนอื่นเขา แต่เหตุการณ์ต่อจากนี้ล่ะที่เรามารู้สึกที่หลังว่าทำไมมันไม่เหมือนคนอื่นเขา... ระหว่างที่เรากำลังจะก้าวขึ้นไปบนรถไฟ ป้าอ้วนๆ แก่ๆ ที่ขึ้นไปก่อนเราแกทำท่าจะเสียหลักหงายหลังลงมา ไอ้เราก็ตกใจเลยต้องเอามือไปดันหลังแกไว้ ตอนนั้นเองที่เราปล่อยมือจากกระเป๋าที่เราเอามาไว้ข้างหน้าตัว แล้วมันก็มีผู้ชายคนนึงเบียดเรามาจากข้างๆ เหมือนจะแซงขึ้น จริงๆ จะเรียกว่ากระแทกเลยก็คงได้ล่ะมั้ง ข้างหลังเราก็โดนเบียดมาอีกที... พอผ่านเหตุการณ์ตรงนั้นมาเราก็ไปหาที่นั่ง แล้วก็เอากระเป๋าขึ้นมาเปิดจะหยิบตั๋วขึ้นมาเตรียมไว้ให้เขาตรวจ นั่นละเราถึงรู้ว่ามือถือกับกระเป๋าสตางค์หายไปแล้ว!!!! เราเลยตาลีตาเหลือกยืมโทรศัพท์คนข้างๆ โทรเข้าเบอร์ตัวเอง เสียง 'เลขหมายที่ท่านเรียก ไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้' ดังตามมา ถ้ามันปิดเครื่องเพราะแบตหมดจะไม่โมโหเท่านี้เลย!!!

ความรู้สึกตอนนั้นมันแบบ...อึน...เซ็ง.... ไม่มีอารมณ์จะทำอะไรแล้ว กลับไปถึงบ้านรีบไปหาพ่อที่ที่ทำงานยืมมือถือแกมาโทรระงับเบอร์ ถึงจะรู้ว่ามันแทบจะไม่ได้ช่วยอะไรเลยก็ตาม... พอพ่อเขารู้เรื่องเขาก็ว่าเราว่าไม่รู้จักระวัง คราวนี้ก็ไม่ต้องใช้แล้วของมีราคา ใช้ก็เก็บรักษาไม่ได้ คือเราก็ระวังแล้ว! ระวังเท่าที่เราจะทำได้แล้ว ปกติเราเป็นคนติดมือถือ อะไรก็ต้องเอาออกมาถือไว้ตลอด นอกซะจากตอนนั้นมันไม่สะดวกจริงๆ เราถึงจะเอาไว้ในกระเป๋ากางเกงหรือกระเป๋าสะพาย อีกอย่างเราชอบเอากระเป๋ามาไว้ข้างหน้า ถ้าเอาไว้ข้างๆ ก็ต้องจับไว้ตลอด รู้อยู่ว่าเดี๋ยวนี้มิจฉาชีพเยอะ ขนาดเงินเรายังแบ่งใส่ไว้หลายๆ ที่ บัตรอะไรๆ ก็แยกเก็บเหมือนกัน เผื่อไว้ว่าเกิดซวยโดนล้วงกระเป๋ามันก็ยังมีอะไรเหลือบ้าง เราคงดวงไม่ดีจริงๆ ที่วันนั้นต้องใส่ชุดนิสิตที่มันไม่มีกระเป๋า แถมเอาบัตรประชาชน บัตรนิสิต บัตรเอทีเอ็ม และบัตรอื่นๆ อีก 2-3 ใบไว้ในกระเป๋าสตางค์ กับเงินอีก 700 กว่าบาท มันเลยหายไปด้วย

วันนี้ตอนเย็นๆ แม่โทรมา (พ่อเอามือถือของตัวเองให้เราไว้)พอรู้ว่ากระเป๋าสตางค์หายไปด้วยคราวนี้ละแม่ก็ต่อว่าเราชุดใหญ่ อารมณ์เขาคือโมโหมาก แกบอกตอนรู้เรื่องอยากจะขี่รถออกมาจากบ้านมาด่าเราถึงที่ด้วย โทรไปหาญาติบอกว่าเราทำมือถือหาย ญาติก็บอกอยู่ว่าไปทำอีท่าไหนถึงได้หาย เขาใช้กันมาเป็นปีๆ จนออกรุ่นใหม่มามันก็ยังไม่หาย เราเพิ่งได้จับเครื่องไม่ถึงสามสัปดาห์ดีดันทำหาย เราก็อธิบายไปแล้วว่าเหตุการณ์มันเป็นยังไง สาบานได้ว่าระวังอยู่แล้ว รู้อยู่ว่าของมันแพง แต่คราวนี้มันคิดไม่ถึงจริงๆ แม่แกก็เลยบอกยายป้านั่นก็คงพวกเดียวกันนั่นแหละ จังหวะอะไรมันจะพอดีขนาดนั้น มันคงจะเห็นเราหยิบมือถือขึ้นมา แถมมาคนเดียวเลยวางแผนเลย ล้อมๆ ดันๆ ที่นี้เพราะเหยื่อระวังตัวเลยต้องใช้แผนสองดึงดูดความสนใจ แล้วเขาก็ว่ากำลังจะโทรเตือนเพราะดูข่าวเรื่องนิสิตม.ดังโดนกระชากมือถือ พอไม่ให้เลยโดนรุมตื๊บ กำลังจะเตือนว่าอยู่ในที่สาธารณะอย่าเอามือถือขึ้นมา ใครโทรมาก็ไม่ต้องรับ รอให้อยู่ในที่ที่คนเยอะๆ ก่อน แต่ก็ติดต่อไม่ได้แล้วซะงั้น มือถือโดนล้วงไปเรียบร้อย

เล่ามาซะยาวมันก็ไม่มีอะไรมากหรอกค่ะ เราแค่สงสัยว่าที่เราโดนล้วงกระเป๋า ทรัพย์สินหายนี่มันเพราะอะไร เราแค่สงสัยว่าเราผิดใช่มั้ยที่ไม่ถือโทรศัพท์ไว้ เอาใส่กระเป๋าจนโดนล้วงอย่างที่แม่ว่า เราแค่สงสัยว่าเราผิดเหรอถึงต้องโดนตัดเงิน บอกว่าจะไม่ให้อีกแล้วจากคนเป็นแม่ เราผิดใช่มั้ยที่สุดท้ายก็ต้องกลายเป็นคนที่เชื่อใจอะไรไม่ได้อีกของคนในบ้าน....

เพราะเราระวังไม่พอเหรอ... เพราะไม่ทันเล่ห์มิจฉาชีพเหรอ... หรือเพราะเราดันเสล่อหยิบมือถือขึ้นมาล่อตาล่อใจโจรกันแน่ ทำไมตอนนั้นก็มีหลายคนที่มีมือถือราคาแพง มีหลายคนที่มาคนเดียว แล้วทำไมต้องเป็นเรา??


สุดท้ายนี้เราคงได้แต่ฝากเรื่องนี้ไว้เป็นอุทาหรณ์ให้ใครหลายๆ คนนะคะ อยู่ในที่สาธารณะอย่าเอามือถือขึ้นมาถ้าไม่จำเป็น รู้ว่าทำได้ยาก พยายามเท่าที่ทำได้ค่ะ (แต่ถึงขั้นใครโทรมาก็ไม่ต้องรับอย่างที่แม่เราบอกคงทำได้ยาก โดยเฉพาะสายจากคนเตือนนี่ล่ะ แค่รับช้ายังเป็นเรื่องเลย) กระเป๋าเอย อะไรเอยให้ระวังให้ดี เป็นไปได้ให้เอามาไว้ข้างหน้าตลอดเวลา กันเหนียวด้วยการเอามือจับกระเป๋าอีกที และที่สำคัญ...พกดวงไปด้วย!! เพราะเราก็ไม่มีทางรู้ล่วงหน้าหรอกว่าเมื่อไหร่ที่เราจะต้องตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ!!!
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่