ก่อนอื่นต้องขอบอกกล่าวก่อนว่าภาพที่นำมาเสนอในวันนี้เกิดขึ้นสดๆร้อนๆไม่กี่ช.ม.ที่ผ่านมาไม่ใช่ภาพที่คมชัดเข้ามาตรฐาน ISO แต่นำมาเสนอก็เพื่อจะให้ต่อเนื่องจาก 2 ตอนที่ผมนำเสนอเมื่อวานนี้เป็นเรื่องราวการดำเนินชีวิตของนกอินทรีหัวขาวคู่หนึ่งและเป็นความตั้งใจที่ผมใฝ่ฝันว่าจะเก็บภาพอินทรีหัวขาวซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของประเทศอเมริกาโดยเฉพาะอย่างยิ่งภาพตอนอินทรีหัวขาวโฉบจับเหยื่อดังที่ผมเคยบอกเอาไว้ วันนี้อากาศดี (22 องศา C อบอุ่นขึ้นมาฉับพลันจนทำให้ผมแทบเป็นไข้เพราะเมื่อคืนยัง 0 องศาอยู่เลย )ผมก็เลยไปเฝ้ารังของอินทรีหัวขาวคู่นี้อีก ยังไงวันนี้ก็คิดว่าผมเล่าเรื่องราวของอินทรีหัวขาวให้ฟังโดยมีภาพไม่ได้มาตรฐานประกอบพอสนุกๆขำๆก็แล้วกันครับ
เนื่องจากวันนี้มีแสงแดดและอากาศอุ่นมากทำให้ไม่ใช่มีแค่ผมที่ไปทะเลสาบเกือกม้าแต่ยังมีกลุ่มนักตกปลาหลายกลุ่มนั่งปักหลักตกปลาอยู่ริมตลิ่งอีกฝั่งที่อินทรีหัวขาวมักจะไปโฉบเหยื่อทำให้อินทรีหัวขาวปักหลักอยู่ในบริเวณรังของตัวเองซึ่งเป็นบริเวณที่ไกลและทิศทางย้อนแสงอาทิตย์สำหรับส่องนกตลอดชุดนี้
ภาพบนและภาพนี้น่าจะเป็นภาพที่ถ่ายได้ใกล้ที่สุดของชุดนี้แล้ว
วันนี้เช่นเคยผมต้องพึ่งดวงของน้าแอรอน (ที่ผมคิดว่าเอเรียลในกระทู้เก่า)เพราะผมไปเฝ้ารังตั้งแต่ 10.30 น.จนเที่ยงก็ไม่มีวี่แววว่าอินทรีอีกตัวที่ไม่ได้ฝักไข่อยู่ในรังจะโผล่มาให้เห็นจนกระทั่งน้าแอรอนและ ผบ.น้าแอรอนที่ชอบส่องนกเหมือนกัน (ลงทุนสอย Nikon 3100 + Nikon 200mm มาสดๆเพราะอยากถ่ายรัวได้เหมือนกล้องผม)มาเฝ้านกตามกิจวัตประมาณเที่ยงกว่าๆบอกขอขับรถวนดูรอบๆทะเลสาบหน่อย อีกพักใหญ่เห็นน้าแอรอนโผล่อีกด้านตั้งขากล้องส่องอะไรอยู่ผมจึงมองตามบ้างเจออินทรีหัวขาวอีกตัวเกาะอยู่บนต้นสนโบราณไกลจากฝั่งพอสมควรส่องมาได้ภาพนี้แล้วก็ยกกล้องเล็งค้างไว้รอจังหวะถ่ายอินทรีถลาบิน
พักใหญ่ดูท่าพี่อินทรีจะมองเห็นอะไรแล้ว
พอพี่อินทรีกระโจนทะยานบินออกจากต้นไม้กล้องทั้ง 3 ตัวก็แข่งกันรัว
เช่นเดียวกับผมรัวไปแพนกล้องตามไป
ส่วนใหญ่จะไม่ชัดเพราะไกลและต้นไม้บังมากมาย
พอเห็นพี่อินทรีหลุดจากต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งโผล่มาเหนือน้ำผมก็กดชัตเตอร์ได้ภาพที่อยากได้มากภาพนี้มาแต่....ก็ไกลและไม่ชัด
แพนกล้องตามกดชัตเตอร์ได้ภาพนี้เป็นภาพสุดท้ายก่อนที่ชัตเตอร์จะค้างกดต่อไม่ได้เพราะกดต่อเนื่องนานไป
แล้วพี่อินทรีก็หายวับไปในป่าต้นสนโบราณมองแวบๆเห็นว่าคราวนี้ไม่ได้บินขึ้นไปบนกิ่งไม้สูงแล้วก็อาศัยสายตาอันแหลมคมประดุจเหยี่ยวของน้าแอรอนที่วิ่งไปดูอีกมุมหนึ่งบอกว่าอยู่โน้นไงที่โคนต้นไม้ใหญ่ผมก็เลยวิ่งมายกกล้องส่องมองใน VF อยู่ไกลมากมองไม่เห็นเลยว่าอะไรอยู่ที่เท้า
จนมา Crop ภาพไป 75 % จึงมองเห็นขนาดปลา น่าจะเป็นปลา Bass นะใครดูออกช่วยบอกด้วยครับตัวใหญ่เท่าลำแขน
พี่อินทรีจัดการกับเหยื่ออันโอชะอยู่พักใหญ่ก็ไม่ยอมอิ่มและขึ้นรังไปสลับเวรกกไข่สักทีระหว่างปลากำลังสาละวนกับเหยื่อน้าแอรอนที่ถ่ายอยู่ใกล้ๆก็พากษ์ให้ ผบ.เค้าฟังไปเรื่อยเพราะน้าแอรอนใช้กล้องตัวคูณ 5.6 + เลนส์ 200 ออกมาได้ระยะ 1120mmลองทายกันว่ายี่ห้ออะไรครับ ... "ตอนนี้กำลังใช้ตีนเหยียบเหยื่อ" "จิกกินเนื้อเหยื่ออยู่" "ก้มลงไปกินน้ำ" เสียงน้าแอรอนพากษ์ไม่หยุด
ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงกู่ร้องจากอินทรีอีกตัวที่ฝักไข่อยู่ในรังข้างบนไม่ไกลจากจุดที่อินทรีอีกตัวกำลังจัดการเหยื่ออยู่และดูเหมือนเหยื่อกำลังหลุดลงน้ำไป
ทำให้พี่อินทรีต้องใช้กรงเล็บจับเหยื่อขึ้นมาพาดไว้บนขอนไม้ตามเดิม
แล้วก็ขยับไปอยู่อีกด้านของขอนไม้หลังจากได้ยินเสียงอินทรีอีกตัวกู่ร้องอีกครั้ง
ผมก็สงสัยว่าเค้าจะทำอะไรอินทรีสื่อสารกันว่ายังไง
แล้วอินทรีอีกตัวก็บินลงมากินเหยื่อตัวใหญ่รสดีที่อีกตัวหาได้จึงทราบว่าอินทรีสามารถสื่อสารกันเข้าใจจริงๆ
พออีกตัวลงมาตัวที่จับเหยื่อและกินเหยื่ออิ่มแล้วก็บินกลับไปทำหน้าที่กกไข่ต่อไป.... จบตอนพิเศษแล้วครับ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะชมครับ
แต่นี่อาจจะยังไม่ใช่ตอนสุดท้ายเพราะโดยธรรมชาติแล้วนกอินทรีจะออกจากไข่เป็นตัวประมาณ 2 เดือนซึ่งถ้าหากผมยังสามารถเฝ้าติดตามนกอินทรีคู่นี้ได้เราอาจจะได้ชมภาคต่อไปของนกอินทรีหัวขาวเจ้าแห่งเวหากันต่อไปอีกครับ
-= [ สวัสดีครับ ] =-
>>>>>>> [ อินทรีหัวขาวเจ้าแห่งเวหา ตอน 2.1 : เกือบ... ] <<<<<<<
เนื่องจากวันนี้มีแสงแดดและอากาศอุ่นมากทำให้ไม่ใช่มีแค่ผมที่ไปทะเลสาบเกือกม้าแต่ยังมีกลุ่มนักตกปลาหลายกลุ่มนั่งปักหลักตกปลาอยู่ริมตลิ่งอีกฝั่งที่อินทรีหัวขาวมักจะไปโฉบเหยื่อทำให้อินทรีหัวขาวปักหลักอยู่ในบริเวณรังของตัวเองซึ่งเป็นบริเวณที่ไกลและทิศทางย้อนแสงอาทิตย์สำหรับส่องนกตลอดชุดนี้
ภาพบนและภาพนี้น่าจะเป็นภาพที่ถ่ายได้ใกล้ที่สุดของชุดนี้แล้ว
วันนี้เช่นเคยผมต้องพึ่งดวงของน้าแอรอน (ที่ผมคิดว่าเอเรียลในกระทู้เก่า)เพราะผมไปเฝ้ารังตั้งแต่ 10.30 น.จนเที่ยงก็ไม่มีวี่แววว่าอินทรีอีกตัวที่ไม่ได้ฝักไข่อยู่ในรังจะโผล่มาให้เห็นจนกระทั่งน้าแอรอนและ ผบ.น้าแอรอนที่ชอบส่องนกเหมือนกัน (ลงทุนสอย Nikon 3100 + Nikon 200mm มาสดๆเพราะอยากถ่ายรัวได้เหมือนกล้องผม)มาเฝ้านกตามกิจวัตประมาณเที่ยงกว่าๆบอกขอขับรถวนดูรอบๆทะเลสาบหน่อย อีกพักใหญ่เห็นน้าแอรอนโผล่อีกด้านตั้งขากล้องส่องอะไรอยู่ผมจึงมองตามบ้างเจออินทรีหัวขาวอีกตัวเกาะอยู่บนต้นสนโบราณไกลจากฝั่งพอสมควรส่องมาได้ภาพนี้แล้วก็ยกกล้องเล็งค้างไว้รอจังหวะถ่ายอินทรีถลาบิน
พักใหญ่ดูท่าพี่อินทรีจะมองเห็นอะไรแล้ว
พอพี่อินทรีกระโจนทะยานบินออกจากต้นไม้กล้องทั้ง 3 ตัวก็แข่งกันรัว
เช่นเดียวกับผมรัวไปแพนกล้องตามไป
ส่วนใหญ่จะไม่ชัดเพราะไกลและต้นไม้บังมากมาย
พอเห็นพี่อินทรีหลุดจากต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งโผล่มาเหนือน้ำผมก็กดชัตเตอร์ได้ภาพที่อยากได้มากภาพนี้มาแต่....ก็ไกลและไม่ชัด
แพนกล้องตามกดชัตเตอร์ได้ภาพนี้เป็นภาพสุดท้ายก่อนที่ชัตเตอร์จะค้างกดต่อไม่ได้เพราะกดต่อเนื่องนานไป
แล้วพี่อินทรีก็หายวับไปในป่าต้นสนโบราณมองแวบๆเห็นว่าคราวนี้ไม่ได้บินขึ้นไปบนกิ่งไม้สูงแล้วก็อาศัยสายตาอันแหลมคมประดุจเหยี่ยวของน้าแอรอนที่วิ่งไปดูอีกมุมหนึ่งบอกว่าอยู่โน้นไงที่โคนต้นไม้ใหญ่ผมก็เลยวิ่งมายกกล้องส่องมองใน VF อยู่ไกลมากมองไม่เห็นเลยว่าอะไรอยู่ที่เท้า
จนมา Crop ภาพไป 75 % จึงมองเห็นขนาดปลา น่าจะเป็นปลา Bass นะใครดูออกช่วยบอกด้วยครับตัวใหญ่เท่าลำแขน
พี่อินทรีจัดการกับเหยื่ออันโอชะอยู่พักใหญ่ก็ไม่ยอมอิ่มและขึ้นรังไปสลับเวรกกไข่สักทีระหว่างปลากำลังสาละวนกับเหยื่อน้าแอรอนที่ถ่ายอยู่ใกล้ๆก็พากษ์ให้ ผบ.เค้าฟังไปเรื่อยเพราะน้าแอรอนใช้กล้องตัวคูณ 5.6 + เลนส์ 200 ออกมาได้ระยะ 1120mmลองทายกันว่ายี่ห้ออะไรครับ ... "ตอนนี้กำลังใช้ตีนเหยียบเหยื่อ" "จิกกินเนื้อเหยื่ออยู่" "ก้มลงไปกินน้ำ" เสียงน้าแอรอนพากษ์ไม่หยุด
ระหว่างนั้นก็ได้ยินเสียงกู่ร้องจากอินทรีอีกตัวที่ฝักไข่อยู่ในรังข้างบนไม่ไกลจากจุดที่อินทรีอีกตัวกำลังจัดการเหยื่ออยู่และดูเหมือนเหยื่อกำลังหลุดลงน้ำไป
ทำให้พี่อินทรีต้องใช้กรงเล็บจับเหยื่อขึ้นมาพาดไว้บนขอนไม้ตามเดิม
แล้วก็ขยับไปอยู่อีกด้านของขอนไม้หลังจากได้ยินเสียงอินทรีอีกตัวกู่ร้องอีกครั้ง
ผมก็สงสัยว่าเค้าจะทำอะไรอินทรีสื่อสารกันว่ายังไง
แล้วอินทรีอีกตัวก็บินลงมากินเหยื่อตัวใหญ่รสดีที่อีกตัวหาได้จึงทราบว่าอินทรีสามารถสื่อสารกันเข้าใจจริงๆ
พออีกตัวลงมาตัวที่จับเหยื่อและกินเหยื่ออิ่มแล้วก็บินกลับไปทำหน้าที่กกไข่ต่อไป.... จบตอนพิเศษแล้วครับ
ขอบคุณทุกท่านที่แวะชมครับ แต่นี่อาจจะยังไม่ใช่ตอนสุดท้ายเพราะโดยธรรมชาติแล้วนกอินทรีจะออกจากไข่เป็นตัวประมาณ 2 เดือนซึ่งถ้าหากผมยังสามารถเฝ้าติดตามนกอินทรีคู่นี้ได้เราอาจจะได้ชมภาคต่อไปของนกอินทรีหัวขาวเจ้าแห่งเวหากันต่อไปอีกครับ
-= [ สวัสดีครับ ] =-