เราทำธุรกรรมอยู่กับบริษัทต่างประเทศ ซึ่งใช้วิธีจ่ายเงินผ่าน Western Union โดยจะส่งเมลบอกเลข MTCN อยู่เป็นประจำ ไม่เคยมีปัญหาอะไร แต่มีอยู่ครั้งนึงที่รับเงินไม่ได้เลยให้ทางผู้ส่งตรวจสอบ ตอนแรกก็นึกว่าผู้ส่งบอกเลขผิดก็เลยไม่ได้ร้อนใจ แต่มาภายหลังถึงมารู้ว่ามีคนทำบัตรประชาชนปลอม แล้วเอาเลข MTCN ที่คาดว่าน่าจะได้จากการแฮกเมล ไปรับเงินที่ธนาคาร
ทันทีที่รู้เรื่องก็เดินทางไปคุยกับทางสาขา หลังจากนั้นก็ไปแจ้งความแล้วนำใบบันทึกประจำวันไปยื่นที่สาขาเพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิด จากการไปคุยกับทางสาขาทำให้เข้าใจว่าภาพจากกล้องวงจรปิดยังอยู่ พนักงานสาขายังดูกันได้ หลังจากนั้นทางสาขาโทรมาแจ้งว่าฝ่ายกฎหมายบอกว่าจะให้ภาพจากล้องวงจรปิดกับทางตำรวจ ไม่ให้กับคู่กรณี เราจึงขอให้ทางคุณตำรวจดำเนินเรื่องไป แต่สุดท้ายเมื่อจดหมายของคุณตำรวจไปถึง ทางธนาคารไม่ได้เก็บจากกล้องวงจรปิดเอาไว้ให้ ทั้งๆ ที่ทราบว่ามีเรื่องเกิดขึ้นทั้งที่สำนักงานใหญ่และสาขา บอกง่ายๆ ว่าไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดเพราะเกินจำนวนวันในการเก็บภาพไปแล้ว
เมื่อคำนึงถึงเรื่องธนาคารจ่ายเงินให้ผิดคน จึงได้ทำเรื่องร้องเรียนเข้าไป เรื่องก็เงียบ ไม่มีใครติดต่อมา ได้แต่อีเมลอัตโนมัติหลังจากส่งฟอร์มร้องเรียนผ่านหน้าเว็บ รอแล้วรอเล่ารอไม่ไหวก็เลยโทรไปสอบถาม ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่าทางธนาคารดำเนินการถูกต้องแล้ว
* พนักงานที่รับจ่ายเงินทุกวัน ขอบัตรประชาชนเวลาจะทำธุรกรรมทางการเงิน แต่กลับดูไม่ออกว่านั่นเป็นบัตรปลอม (สำหรับเราแล้ว ไม่เหมือนจริงเอาซะเลย)
* ขั้นตอนการรับเงินของ Western Union ระบุว่าให้กรอกชื่อของผู้รับเงินอย่างถูกต้องเป็นภาษาอังกฤษ แต่ช่องผู้รับเงินในแบบฟอร์มการรับเงินกรอกเป็นภาษาไทยที่ไม่ตรงกับชื่อเรา เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าเขาไม่ซีเรียส
* โทรไปถามที่หน่วยงาน Western Union ในประเทศไทย บอกว่าห้ามเจ้าหน้าที่ธนาคารกรอกข้อมูลให้ แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่านั่นคือเซอร์วิส
แค่อยากระบายนะ ทุกวันนี้เห็นธนาคารนี้แล้วช้ำใจ ความพยายามในการทำอะไรสักอย่างให้มันถูกต้อง ช่างเป็นเรื่องที่ลำบากจริงๆ เพราะคนอื่นๆ ไม่ได้คิดเหมือนเรา เสียเวลา เสียเงิน ไม่พอ ยังเสียใจอีกต่างหาก ไม่ได้ความรับผิดชอบใดๆ ไม่มีความเห็นอกเห็นใจเราในฐานะผู้เสียหาย ได้ยินแต่คำพูดว่าธนาคารทำถูกต้องแล้ว
เงินฝากที่เคยฝากไว้กับธนาคารนี้ก็ถอนออกมาหมดแล้วเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย ตัวเราเองก็ใช้ชีวิตอย่างระวังมากขึ้น อะไรที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปได้ อยากให้มิจฉาชีพหมดไป แต่คงทำอะไรไม่ได้ถ้าทุกคนที่เกี่ยวข้องเพิกเฉยต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เห็นชื่อธนาคารกรุงศรีอยุธยา แล้วปวดใจ
ทันทีที่รู้เรื่องก็เดินทางไปคุยกับทางสาขา หลังจากนั้นก็ไปแจ้งความแล้วนำใบบันทึกประจำวันไปยื่นที่สาขาเพื่อขอภาพจากกล้องวงจรปิด จากการไปคุยกับทางสาขาทำให้เข้าใจว่าภาพจากกล้องวงจรปิดยังอยู่ พนักงานสาขายังดูกันได้ หลังจากนั้นทางสาขาโทรมาแจ้งว่าฝ่ายกฎหมายบอกว่าจะให้ภาพจากล้องวงจรปิดกับทางตำรวจ ไม่ให้กับคู่กรณี เราจึงขอให้ทางคุณตำรวจดำเนินเรื่องไป แต่สุดท้ายเมื่อจดหมายของคุณตำรวจไปถึง ทางธนาคารไม่ได้เก็บจากกล้องวงจรปิดเอาไว้ให้ ทั้งๆ ที่ทราบว่ามีเรื่องเกิดขึ้นทั้งที่สำนักงานใหญ่และสาขา บอกง่ายๆ ว่าไม่มีภาพจากกล้องวงจรปิดเพราะเกินจำนวนวันในการเก็บภาพไปแล้ว
เมื่อคำนึงถึงเรื่องธนาคารจ่ายเงินให้ผิดคน จึงได้ทำเรื่องร้องเรียนเข้าไป เรื่องก็เงียบ ไม่มีใครติดต่อมา ได้แต่อีเมลอัตโนมัติหลังจากส่งฟอร์มร้องเรียนผ่านหน้าเว็บ รอแล้วรอเล่ารอไม่ไหวก็เลยโทรไปสอบถาม ได้รับคำตอบจากเจ้าหน้าที่ว่าทางธนาคารดำเนินการถูกต้องแล้ว
* พนักงานที่รับจ่ายเงินทุกวัน ขอบัตรประชาชนเวลาจะทำธุรกรรมทางการเงิน แต่กลับดูไม่ออกว่านั่นเป็นบัตรปลอม (สำหรับเราแล้ว ไม่เหมือนจริงเอาซะเลย)
* ขั้นตอนการรับเงินของ Western Union ระบุว่าให้กรอกชื่อของผู้รับเงินอย่างถูกต้องเป็นภาษาอังกฤษ แต่ช่องผู้รับเงินในแบบฟอร์มการรับเงินกรอกเป็นภาษาไทยที่ไม่ตรงกับชื่อเรา เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่าเขาไม่ซีเรียส
* โทรไปถามที่หน่วยงาน Western Union ในประเทศไทย บอกว่าห้ามเจ้าหน้าที่ธนาคารกรอกข้อมูลให้ แต่เจ้าหน้าที่ธนาคารบอกว่านั่นคือเซอร์วิส
แค่อยากระบายนะ ทุกวันนี้เห็นธนาคารนี้แล้วช้ำใจ ความพยายามในการทำอะไรสักอย่างให้มันถูกต้อง ช่างเป็นเรื่องที่ลำบากจริงๆ เพราะคนอื่นๆ ไม่ได้คิดเหมือนเรา เสียเวลา เสียเงิน ไม่พอ ยังเสียใจอีกต่างหาก ไม่ได้ความรับผิดชอบใดๆ ไม่มีความเห็นอกเห็นใจเราในฐานะผู้เสียหาย ได้ยินแต่คำพูดว่าธนาคารทำถูกต้องแล้ว
เงินฝากที่เคยฝากไว้กับธนาคารนี้ก็ถอนออกมาหมดแล้วเพราะไม่มั่นใจในความปลอดภัย ตัวเราเองก็ใช้ชีวิตอย่างระวังมากขึ้น อะไรที่คิดว่าเป็นไปไม่ได้ก็เป็นไปได้ อยากให้มิจฉาชีพหมดไป แต่คงทำอะไรไม่ได้ถ้าทุกคนที่เกี่ยวข้องเพิกเฉยต่อเรื่องราวที่เกิดขึ้น