ประสบการณ์นั่งแท็กซี่ที่ชีวิตนี้จะไม่มีวันลืม มาร่วมแชร์กันนะคะ

กระทู้สนทนา
วันนี้แชร์ประสบการณ์ที่ชีวิตนี้จะไม่มีวันลืม ให้ฟังค่ะ

ประสบการณ์นั่งแท็กซี่ของเรามีหลายรูปแบบมาก
เจอดีๆพูดเพราะ ขับรถดีก็เยอะ มีน้ำใจคอยเตือนเราว่าอย่าลืมของนะ
แต่เรื่องไม่ดีก็มีมาก เล่าทั้งหมดอาจจะยาวเกินไป

แต่เหตุการณ์ที่ชีวิตนี้จะไม่ลืม เลย จำได้แม่นๆ
สมัยมาอยู่ กรุงเทพ ใหม่ ๆเมื่อ 4-5 ปีที่แล้ว
ตอนนั้นต้องมาปฐมนิเทศที่กล้วยน้ำไทย
แต่เราพักอยู่กับเพื่อนที่ ม. ราม ด้วยความที่เป็นเด็กต่างจังหวัด
ไม่รู้เส้นทางก็ต้องพึ่งพาแท็กซี่ (คนเดียวครั้งแรกด้วย)
หน้าตาเราก็ธรรมดา ผมประบ่า  ผิวแทนตามประสาชาวราบสูง อิอิ
ไม่อ้วนไม่ผอม ชุดนักศึกษาก็ไม่สั้น คลุมเข่าด้วยซ้ำ
ขาไปปกติ แต่ขากลับนี่สิ

ตอนเย็น เราเดินมาโบกแท็กซี่ชมพูคันนึง
มีเพื่อนนักศึกษาผู้ชายสองคนยืนถัดไปจากเรา
กำลังรอแท็กซี่เหมือนๆกัน ทันทีที่ขึ้น

ว้าย!!! น้องมาตัดหน้าหนุ่มๆข้างหน้าทำไม เสียดายจัง ไม่น่าเลย
(คนขับ ขาวๆผอมๆ หน้าตาธรรมดาไม่ได้แนวโหดอะไร ออกตุ้งติ่งหน่อยๆ)
เราก็ งง งงค่ะ หรือพี่เขาเป็น....
ในใจคิดก็ดีเหมือนกันเราไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเขา 55
ไม่น่าจะมีไร  แค่ตกใจเล็กน้อยที่เขาทักแบบนั้น

นั่งไปสักพักเขาชวนคุยค่ะ
เนี่ยน้อง เรียนที่นี่เหรอ? อยู่ปีอะไร ?
เราก็ตอบค่ะๆ อยู่ปี1  น้องมีแฟนยัง  เราก็ตอบมีแล้วค่ะ
ดีจัง มีแฟนแล้ว ทำงานหรือว่าเรียน
พี่ถามไรได้ไหม แฟนน้อง เอา เก่งไหม?  เราแบบ หือ!!  ถามอะไรเนี่ย
ได้แต่เอ่อๆ.... เอ่อ  เริ่มกลัวขึ้นมาละ เงียบไปสักพัก  
ไม่ต้องอายหรอกน้อง พี่จะบอกนะ พี่เนี้ยมีแฟนมาหมดแล้ว
ทั้งผช ผญ หะ!!! พูดแบบหน้าระรื่น เราเห็นหน้าเขาจากกระจก สะพรึงมาก
เริ่มนั่งไม่ติดละตรู อีกไกลด้วยกว่าจะถึง

เมื่อเห็นว่าเราไม่ตอบ พี่ท่านหาได้สนใจไม่ก็พล่ามต่อว่า

พี่อะเก่งมากเลยนะเรื่องนั้นนะ พี่ทำให้เสร็จทุกคนนะขอบอก (ไม่อาวไม่ต้องบอก)
นี่ๆจะบอกไร (บอกอีกแล้วเรอะ) ทำเสียงโรคจิตใส่  พี่อะ
เพิ่งไปฝังมุกมา (ณ ตอนนั้นมุกคืออะไรแว้ ยังไม่รู้จริงๆ )
เจ็บมากเลย แต่ดีมากนะ เราเคยเห็นป่าว อี้ๆๆๆๆ  เอาแล้ว เอาแล้ว
เกิดมาไม่เคยเจอ อย่างมากก็คนบ้าโชว์ของข้างถนน เราก็เบือนหน้าหนี เดินผ่านไวๆ  
เราก็แบบมองซ้ายมองขวา เอาไงดีวะ ทำไงดี นั่งกำโทรศัพท์แน่น คิดไรไม่ออก

และแล้วจุดจบก็มาถึง เมื่อรถเริ่มชะลอ เพราะช่วงเย็นรถเยอะ
พี่แกหันหน้ามาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ (จะบ้าเรอะ)

พูดออกมาว่า

        เม่าตกใจน้อง ถ้ารถเริ่มติดแล้ว น้องกระโดดข้ามมานั่งข้างหน้านะ พี่จะเปิดให้ดู  

ว้ากกกกก !!!!!! ไม่ไหวแล้ว อยู่ไม่ได้แล้ว
เวลานั้นก็ไม่มีหมา แมว คน โทรมาซักสาย
เราก็เลยแกล้งทำเป็นมีคนโทรเข้า แต่ไม่มีเสียง Facepalm

ฮัลโลล !!!! เฮ้ยมุงจะให้ไปเป็นเพื่อนซื้อของเหรอ เนี้ยตอนตรูนี้นั่งแท็กซี่อยู่
เออๆ เดี่ยวลงรอแถวๆนี้ละกัน (เป็นตุเป็นตะ อยู่ตรงไหนยังไม่รู้เลย)
เสร็จสรรพ บอกไอ้โรคจิตนั่นว่า พี่ค่ะ ขอลงก่อน ตรงป้ายหน้านี่ละคะ
มันก็บอกเหรอ เปลี่ยนใจไม่ไปต่อแล้วเหรอ ได้ๆ

เราก็แบบลุ้นให้จอดเร็วๆ ตอนจ่ายตังมันบอกว่า ไงรู้ป่ะ
น้องกลัวพี่เหรอ (มันจับได้ว่าเราโกหก ก็ใช่ดิโคตรไม่เนียนแต่ไม่รู้ทำไงอะ)  
แล้วหัวเราะใส่เรา ค่ารถอะพี่ลดให้เอาแค่นี้พอ เราก็ยื่นแล้วรีบลงทันที
ยืนตัวสั่นอยู่ป้ายรถเมล์อยู่นาน เห็นรถตู้หน้ารามผ่านมาพอดี  ซวย ซวยมาก
ซวยที่สุดในชีวิตละ  กรุงเทพชีวิตดีๆที่ลงตัว ร้องไห้

ถามว่าเข็ดแท็กซี่ไปเลยไหม ก็ขอบอกว่าเข็ดไปอีกนานหลายเดือนเลย
ถ้าไม่จำเป็นจริงๆ ก็ไม่ขึ้น
เลือกที่จะไปที่คุ้นเคย  จำเส้นทางได้ดี ไม่ใส่ชุดล่อแหลม
สมัยนี้สบาย ทุกคนมีอินเตอร์เน็ตออนไลน์ตลอด
เมื่อขึ้นแล้ว ถ่ายรูปเลขทะเบียนรถ ชื่อคนขับ
ส่งให้แฟนหรือเพื่อน ส่งขึ้นทวิตเตอร์อีกอัน  
ช่วยให้สบายใจขึ้น ที่สำคัญ

อย่าเอาแต่กดโทรศัพท์อยู่ตลอดเวลา ไม่ดูว่าเขาจะขับไปทางไหน
ระวังรู้ตัวอีกทีก็ จะมาพูดไม่น่าเลย เราน่าจะ….บลาๆๆ

ฉะนั้น ผู้หญิงเรา จะไปสู้อะไรได้มาก ถ้าจะโดนเหตุการณ์ร้ายแรงจริงๆ
ทำได้เพียงป้องกัน เซฟตัวเองให้ปลอดภัยที่สุด และขึ้นยามจำเป็นเท่านั้น

ร่วมแชร์ประสบการณ์หรือกลยุทธ์ในการรับมือแบบต่างๆได้นะคะ อมยิ้ม17
ขอบคุณค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่