พรบ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง 2550 มาตรา 57 วรรค 2
"การบริจาคแก่พรรคการเมืองตั้งแต่สองหมื่นบาทขึ้นไป จะต้องบริจาคโดยวิธีการสั่งจ่ายเป็นตั๋วแลกเงิน หรือเช็คขีดคร่อม"
............
สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เช่นนายชวน นายร้อยเก๊ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ฯลฯ
ได้หักเงินเดือน เดือนละ 20,000 บาท บริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์
ซึ่งเรื่องนี้นายร้อยเก๊ได้อธิบายว่า เป็นการหักเิงินเดือนผ่านสภาฯ แล้วสภาฯก็จ่ายเป็นเชครวมยอดเงินทั้งหมดให้แก่พรรคประชาธิปัตย์
ไม่มีอะไรผิดกฎหมาย
ประเด็นก็คือ กฎหมายบอกว่า การบริจาคตั้งแต่สองหมื่นบาทขึ้นไป ต้องสั่งจ่ายเป็นตั๋วแลกเงินหรือเชคขีดคร่อม
แต่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้บริจาคด้วยการหักเงินเดือน ณ ที่จ่าย
จึงถือว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้บริจาคเป็น "เงินสด"
จะไม่ผิด พรบ.พรรคการเมือง 2550 มาตรา 57 วรรค 2 ได้อย่างไร ?
เจตนารมย์ของมาตรา 57 วรรค 2 คืออะไร ?
คงไม่ต้องอธิบาย (ให้สลิ่มคิดบ้าง จะได้คิดเป็น ถ้าอ่านเกินสามบรรทัดถึงตรงนี้นะ)
เมื่อกฎหมายบัญญัติว่า ต้องจ่ายเป็นตั๋วแลกเงิน หรือเชคขีดคร่อม เมื่อไม่ทำตามกฎหมายบัญญัติ ย่อมถือว่าผิดกฎหมาย
กรณีที่ดินรัชดา
ตอนประมูล ทักษิณไม่รู้ ไม่เกี่ยว
จนกระทั่งการประมูลเสร็จสิ้นเรียบร้อย และทักษิณลงนามในฐานะ "สามี" ยินยอมให้พจมานไปทำนิติกรรมซื้อ-ขาย และโอนที่ดิน
ถึงตรงนี้ ศาลถือว่าทักษิณ "รู้" คือรู้ว่าพจมานทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ
จึงถือว่าทักษิณทำผิดกฎหมายมาตรา 100 ปปช. ด้วยการทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจกำกับดูแลฯ
(มาตรา 100 ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีอำนาจกำกับดูแลฯ) (รวมคู่สมรสด้วย)
มาตรา 100 ปปช. มีเจตนารมย์เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
กรณีบริจาคเงินของพรรคประชาธิปัตย์ มีใครเสียหายไหม คำตอบคือ ไม่มี
ที่ดินรัชดา มีใครเสียหายไหม คำตอบคือ ไม่มี
ที่ดินรัชดา ถือว่าทักษิณไม่ได้สร้างความเสียหายแก่รัฐ ไม่ได้ใช้อำนาจโดยมิชอบใด ๆ
แต่เพราะลงนามยินยอมให้ภรรยาทำนิติกรรม จึงถือว่าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ
เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 100 กฎหมาย ปปช.
ผิด
การบริจาคเงินของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ทุจริต ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง
แต่เพราะบริจาคเป็นเงินสด จึงถือว่าเป็นการกระทำอันฝ่าฝืน พรบ.พรรคการเมือง มาตรา 57 วรรค 2
ผิด
งานนี้
หาก กกต. และศาลบอกว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ผิด
ด้วยการอ้างว่าไม่มีเจตนา ไม่มีอะไรซ่อนเร้น ไม่มีอะไร.... ฯลฯ
ก็สนุกอีกล่ะครับประเทศไทย
เงินบริจาคสองหมื่นบาทของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ กับคดีที่ดินรัชดาพิพากษาจำคุกทักษิณ 2 ปี
"การบริจาคแก่พรรคการเมืองตั้งแต่สองหมื่นบาทขึ้นไป จะต้องบริจาคโดยวิธีการสั่งจ่ายเป็นตั๋วแลกเงิน หรือเช็คขีดคร่อม"
............
สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ เช่นนายชวน นายร้อยเก๊ ม.ร.ว.สุขุมพันธ์ ฯลฯ
ได้หักเงินเดือน เดือนละ 20,000 บาท บริจาคให้พรรคประชาธิปัตย์
ซึ่งเรื่องนี้นายร้อยเก๊ได้อธิบายว่า เป็นการหักเิงินเดือนผ่านสภาฯ แล้วสภาฯก็จ่ายเป็นเชครวมยอดเงินทั้งหมดให้แก่พรรคประชาธิปัตย์
ไม่มีอะไรผิดกฎหมาย
ประเด็นก็คือ กฎหมายบอกว่า การบริจาคตั้งแต่สองหมื่นบาทขึ้นไป ต้องสั่งจ่ายเป็นตั๋วแลกเงินหรือเชคขีดคร่อม
แต่สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้บริจาคด้วยการหักเงินเดือน ณ ที่จ่าย
จึงถือว่า สมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ได้บริจาคเป็น "เงินสด"
จะไม่ผิด พรบ.พรรคการเมือง 2550 มาตรา 57 วรรค 2 ได้อย่างไร ?
เจตนารมย์ของมาตรา 57 วรรค 2 คืออะไร ?
คงไม่ต้องอธิบาย (ให้สลิ่มคิดบ้าง จะได้คิดเป็น ถ้าอ่านเกินสามบรรทัดถึงตรงนี้นะ)
เมื่อกฎหมายบัญญัติว่า ต้องจ่ายเป็นตั๋วแลกเงิน หรือเชคขีดคร่อม เมื่อไม่ทำตามกฎหมายบัญญัติ ย่อมถือว่าผิดกฎหมาย
กรณีที่ดินรัชดา
ตอนประมูล ทักษิณไม่รู้ ไม่เกี่ยว
จนกระทั่งการประมูลเสร็จสิ้นเรียบร้อย และทักษิณลงนามในฐานะ "สามี" ยินยอมให้พจมานไปทำนิติกรรมซื้อ-ขาย และโอนที่ดิน
ถึงตรงนี้ ศาลถือว่าทักษิณ "รู้" คือรู้ว่าพจมานทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ
จึงถือว่าทักษิณทำผิดกฎหมายมาตรา 100 ปปช. ด้วยการทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจกำกับดูแลฯ
(มาตรา 100 ห้ามเจ้าหน้าที่ของรัฐทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐที่เจ้าหน้าที่ของรัฐมีอำนาจกำกับดูแลฯ) (รวมคู่สมรสด้วย)
มาตรา 100 ปปช. มีเจตนารมย์เพื่อป้องกันเจ้าหน้าที่ของรัฐใช้อำนาจแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ
กรณีบริจาคเงินของพรรคประชาธิปัตย์ มีใครเสียหายไหม คำตอบคือ ไม่มี
ที่ดินรัชดา มีใครเสียหายไหม คำตอบคือ ไม่มี
ที่ดินรัชดา ถือว่าทักษิณไม่ได้สร้างความเสียหายแก่รัฐ ไม่ได้ใช้อำนาจโดยมิชอบใด ๆ
แต่เพราะลงนามยินยอมให้ภรรยาทำนิติกรรม จึงถือว่าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐ
เป็นการฝ่าฝืนบทบัญญัติมาตรา 100 กฎหมาย ปปช.
ผิด
การบริจาคเงินของสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้ทุจริต ไม่ได้มีอะไรแอบแฝง
แต่เพราะบริจาคเป็นเงินสด จึงถือว่าเป็นการกระทำอันฝ่าฝืน พรบ.พรรคการเมือง มาตรา 57 วรรค 2
ผิด
งานนี้
หาก กกต. และศาลบอกว่าสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ผิด
ด้วยการอ้างว่าไม่มีเจตนา ไม่มีอะไรซ่อนเร้น ไม่มีอะไร.... ฯลฯ
ก็สนุกอีกล่ะครับประเทศไทย