ผมเป็นคนชอบอะไรที่มันตลกๆ ออกจะเส้นตื้นเล็กน้อย ขำได้แม้แต่มุขที่ว่าแป๊กๆ
ทุกวันนี้เวลาพักช่วงทำงานก็จะเข้า 9gag (ต้นฉบับ ไม่ใช่ของแปลไทย) ซึ่งบ่อยครั้งที่ทำให้ผมหัวเราะได้เต็มที่ ยิ้มได้เต็มปาก ช่วยลดความเครียดจากงานได้เป็นอย่างดี
ผมมักจะชอบอ่านคอมเม้นในแต่ละโพสต์ ซึ่งมักจะมีการต่อมุก เล่นคำ เยาะเย้ยกัน ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าสนุกกว่าตัวโพสต์เองซะอีก
สิ่งที่ผมสังเกตุได้คือ มีคนจากหลายชาติหลายภาษา ซึ่งบางครั้งก็อาจมีการกระแนะกระแหนกันบ้าง เช่นว่า คนแคนาดานิสัยดีสุดๆ Murica อ้วนสุดๆ รัสเซีย 140% หยอกล้อกันสนุกสนาน จิกกัดกันระหว่างแฟนบอย Apple กับ Samsung
ซึ่งบางคนก็รับมุกที่ว่าด้วยซ้ำ เช่นคนอาหรับรับมุกวางระเบิด หรือบางทีก็เห็นที่คนไทยออกมาตอบว่าผู้หญิงในประเทศก็มีดุ้นกัน แม้แต่เรื่องโป๊ปลาออกก็เอามาล้อกันได้สนุกสนาน
เรื่องต่างๆ เหล่านี้ผมพบเห็นได้น้อยมาก ในเว็บอื่นๆ (อาจเป็นเพราะผมรู้จักแค่นี้) ซึ่งบ่อยครั้งจะเป็นการออกมาโต้เถียงเพื่อความสะใจ แก้ต่างหรือเอาชนะมากกว่า เป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
ทำเอาผมนึกย้อนดูตัวเองว่า การจะมีความสุข การที่ผมยิ้มแบบกลั้นไม่ได้ บางครั้งก็มาจากการเปิดใจยอมรับจริงๆ ลดทิฐิบ้าง บางครั้งเรายอมแพ้ยอมเสียหน้าอาจทำให้คนส่วนมากรวมทั้งตัวเรายิ้มได้ บางเรื่องมันไม่ใช่จะต้องจริงจังกันเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อเราอยากให้มีรอยยิ้ม
แต่ก็ติดอยู่ที่คนเรามีอัตตา ยกตัวอย่างเช่นพอมีคนมาล้อปมหรือนิสัย บางคนก็จะเออออหัวเราะไปด้วยเพราะไม่คิดอะไรมาก แต่บางคนก็โกรธแค้นเคือง อยากให้ลองคิดถึงเมื่อก่อนตอนเรียนม.ปลาย ก็จะมีตั้งฉายาให้เพื่อนกัน ไอ่เถิก ไอ่เหยิน ไอ่โย่ง บ้าง ก็ไม่ว่ากันเพราะล้อสนุกๆ ในหมู่เพื่อน แม้แต่อาจารย์ก็โดนตั้งฉายาเหมือนกัน
อยากให้ลองคิดกลับดูบ้างว่า การที่มีคนเรียกเราล้อเราบางครั้งมันก็แสดงถึงความสนิทสนมความชื่นชอบ อย่างเวลาสมัยเด็กก็ต้องมีบ้างที่ไปแกล้ง ไปหยอก ไปกวนเพื่อนสาวที่เราแอบชอบ
ถ้าเราลองปล่อยวาง ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ลองฟังเสียงคนอื่น หัวเราะเยาะคนอื่น หัวเราะเยาะตัวเองดูบ้าง รอยยิ้มมันจะไม่หนีหายไปจากเราเลย เคยเห็นมีคนบ่นด่ากราดจะเป็นจะตายตอนมีคนกลั้นหัวเราะตอนเห็นตัวเองสะดุดล้มหรือเดินชนนู่นนี่ด้วยความซุ่มซ่าม ลองมาคิดดูว่าเขาตั้งใจหัวเราะเยาะ ตั้งใจดูถูกเราหรือเปล่า เขารู้เหรอว่าเราจะโดนอะไร มันเป็นไปตามสถานการณ์ทั้งนั้น
เพื่อนผมที่มีบางคนชอบโพสต์เฟสระบายนั่นนี่บ่อยๆ ซึ่งผมคิดว่าสัดส่วนเรื่องไร้สาระนั้นมีมาก มักจะเป็นเรื่องบ่นแฟน เพื่อนร่วมงาน บางคนก็เมคอัพเต็มยศแล้วบ่นว่าหนังหน้าสดดูไม่ได้ อารมณ์ Bitching มากๆ ซึ่งผมคิดว่าเป็นการบั่นทอนสุขภาพจิตตัวเองและคนอื่น
พอคนอื่นมาล้อนิดหน่อย ใส่มุกหน่อย คุณเธอก็เหวี่ยงทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนกัน เรียนด้วยกัน ช่วยเหลือกันมาตั้งไม่รู้กี่ปี แต่กลับเลือกปกป้องภาพพจน์ในโลกจำลองมากกว่ามิตรภาพในโลกจริง
คนแบบนี้ท่านคิดว่าจะมีความสุขได้สักแค่ไหน มีแฟนมากี่คนก็ทะเลาะกันไม่หยุดหย่อน มาบ่นกับผม ตัวผมเองกลับสงสารอีกฝ่ายมากกว่าซะอีก
ผมเลยคิดได้บ้างว่า ชีวิตเรามันมีความทุกข์ความเครียดเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วล่ะ แล้วเราจะทำตัวเองให้ขุ่นข้องหมองใจเพิ่มไปทำไม คนเรามีสังคมควรมีเพื่อให้แบ่งปันความสุข แบ่งปันรอยยิ้ม ไม่ใช่มีไว้ทะเลาะกัน
ทุกวันนี้เวลาเกิดเรื่องอะไรผมก็จะนึกให้มันตลกไว้ก่อน สะดุดล้มเรอะ ถ้านิดหน่อยก็อุทานให้มันฟังดูตลกๆ ก็เห็นรอยยิ้มของคนอื่นได้แล้วเหมือนสมัยเรียนตึกพื้นไม้ขัดเงา เวลาล้มจะต้องกลิ้งกันสัก 3 ตลบเรียกเสียงฮาแก้เขิน เห็นกรอบประตูต่ำๆ ก็แกล้งเอาหัวชนคานหน่อยเราก็ได้สร้างรอยยิ้มให้ใครบางคนแล้ว เวลาไปทานอาหารกับเพื่อนก็ไม่ต้องเกร็งทำตัวบ้าๆ บอๆ หน่อย เป็นตัวเรียกเสียงฮาได้
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ผมคิดว่ามันไม่ใช่ยากเลยที่จะทำให้ตัวเราเป็นที่รัก เป็นคนสนุกสนานได้ เพียงแค่เราละทิฐิ ยอมเสียฟอร์มนิดๆ โก๊ะหน่อยๆ ก็ได้ทำให้ทั้งตัวเองและคนรอบข้างมีรอยยิ้มได้แล้ว
ลองแสดงความเห็นหรือถ้ามีเรื่องน่าอายแต่รู้สึกดีใจที่ทำให้คนอื่นยิ้มได้ก็ลองแชร์กันดูนะครับ
หัวเราะเยาะตัวเอง - ความสุขเล็กๆ ฉบับคนเพี้ยน
ทุกวันนี้เวลาพักช่วงทำงานก็จะเข้า 9gag (ต้นฉบับ ไม่ใช่ของแปลไทย) ซึ่งบ่อยครั้งที่ทำให้ผมหัวเราะได้เต็มที่ ยิ้มได้เต็มปาก ช่วยลดความเครียดจากงานได้เป็นอย่างดี
ผมมักจะชอบอ่านคอมเม้นในแต่ละโพสต์ ซึ่งมักจะมีการต่อมุก เล่นคำ เยาะเย้ยกัน ซึ่งตรงนี้ผมคิดว่าสนุกกว่าตัวโพสต์เองซะอีก
สิ่งที่ผมสังเกตุได้คือ มีคนจากหลายชาติหลายภาษา ซึ่งบางครั้งก็อาจมีการกระแนะกระแหนกันบ้าง เช่นว่า คนแคนาดานิสัยดีสุดๆ Murica อ้วนสุดๆ รัสเซีย 140% หยอกล้อกันสนุกสนาน จิกกัดกันระหว่างแฟนบอย Apple กับ Samsung
ซึ่งบางคนก็รับมุกที่ว่าด้วยซ้ำ เช่นคนอาหรับรับมุกวางระเบิด หรือบางทีก็เห็นที่คนไทยออกมาตอบว่าผู้หญิงในประเทศก็มีดุ้นกัน แม้แต่เรื่องโป๊ปลาออกก็เอามาล้อกันได้สนุกสนาน
เรื่องต่างๆ เหล่านี้ผมพบเห็นได้น้อยมาก ในเว็บอื่นๆ (อาจเป็นเพราะผมรู้จักแค่นี้) ซึ่งบ่อยครั้งจะเป็นการออกมาโต้เถียงเพื่อความสะใจ แก้ต่างหรือเอาชนะมากกว่า เป็นเรื่องที่ผมไม่ค่อยชอบเท่าไหร่
ทำเอาผมนึกย้อนดูตัวเองว่า การจะมีความสุข การที่ผมยิ้มแบบกลั้นไม่ได้ บางครั้งก็มาจากการเปิดใจยอมรับจริงๆ ลดทิฐิบ้าง บางครั้งเรายอมแพ้ยอมเสียหน้าอาจทำให้คนส่วนมากรวมทั้งตัวเรายิ้มได้ บางเรื่องมันไม่ใช่จะต้องจริงจังกันเสมอไป โดยเฉพาะเมื่อเราอยากให้มีรอยยิ้ม
แต่ก็ติดอยู่ที่คนเรามีอัตตา ยกตัวอย่างเช่นพอมีคนมาล้อปมหรือนิสัย บางคนก็จะเออออหัวเราะไปด้วยเพราะไม่คิดอะไรมาก แต่บางคนก็โกรธแค้นเคือง อยากให้ลองคิดถึงเมื่อก่อนตอนเรียนม.ปลาย ก็จะมีตั้งฉายาให้เพื่อนกัน ไอ่เถิก ไอ่เหยิน ไอ่โย่ง บ้าง ก็ไม่ว่ากันเพราะล้อสนุกๆ ในหมู่เพื่อน แม้แต่อาจารย์ก็โดนตั้งฉายาเหมือนกัน
อยากให้ลองคิดกลับดูบ้างว่า การที่มีคนเรียกเราล้อเราบางครั้งมันก็แสดงถึงความสนิทสนมความชื่นชอบ อย่างเวลาสมัยเด็กก็ต้องมีบ้างที่ไปแกล้ง ไปหยอก ไปกวนเพื่อนสาวที่เราแอบชอบ
ถ้าเราลองปล่อยวาง ไม่เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง ลองฟังเสียงคนอื่น หัวเราะเยาะคนอื่น หัวเราะเยาะตัวเองดูบ้าง รอยยิ้มมันจะไม่หนีหายไปจากเราเลย เคยเห็นมีคนบ่นด่ากราดจะเป็นจะตายตอนมีคนกลั้นหัวเราะตอนเห็นตัวเองสะดุดล้มหรือเดินชนนู่นนี่ด้วยความซุ่มซ่าม ลองมาคิดดูว่าเขาตั้งใจหัวเราะเยาะ ตั้งใจดูถูกเราหรือเปล่า เขารู้เหรอว่าเราจะโดนอะไร มันเป็นไปตามสถานการณ์ทั้งนั้น
เพื่อนผมที่มีบางคนชอบโพสต์เฟสระบายนั่นนี่บ่อยๆ ซึ่งผมคิดว่าสัดส่วนเรื่องไร้สาระนั้นมีมาก มักจะเป็นเรื่องบ่นแฟน เพื่อนร่วมงาน บางคนก็เมคอัพเต็มยศแล้วบ่นว่าหนังหน้าสดดูไม่ได้ อารมณ์ Bitching มากๆ ซึ่งผมคิดว่าเป็นการบั่นทอนสุขภาพจิตตัวเองและคนอื่น
พอคนอื่นมาล้อนิดหน่อย ใส่มุกหน่อย คุณเธอก็เหวี่ยงทั้งๆ ที่เป็นเพื่อนกัน เรียนด้วยกัน ช่วยเหลือกันมาตั้งไม่รู้กี่ปี แต่กลับเลือกปกป้องภาพพจน์ในโลกจำลองมากกว่ามิตรภาพในโลกจริง
คนแบบนี้ท่านคิดว่าจะมีความสุขได้สักแค่ไหน มีแฟนมากี่คนก็ทะเลาะกันไม่หยุดหย่อน มาบ่นกับผม ตัวผมเองกลับสงสารอีกฝ่ายมากกว่าซะอีก
ผมเลยคิดได้บ้างว่า ชีวิตเรามันมีความทุกข์ความเครียดเป็นเรื่องธรรมดาไปแล้วล่ะ แล้วเราจะทำตัวเองให้ขุ่นข้องหมองใจเพิ่มไปทำไม คนเรามีสังคมควรมีเพื่อให้แบ่งปันความสุข แบ่งปันรอยยิ้ม ไม่ใช่มีไว้ทะเลาะกัน
ทุกวันนี้เวลาเกิดเรื่องอะไรผมก็จะนึกให้มันตลกไว้ก่อน สะดุดล้มเรอะ ถ้านิดหน่อยก็อุทานให้มันฟังดูตลกๆ ก็เห็นรอยยิ้มของคนอื่นได้แล้วเหมือนสมัยเรียนตึกพื้นไม้ขัดเงา เวลาล้มจะต้องกลิ้งกันสัก 3 ตลบเรียกเสียงฮาแก้เขิน เห็นกรอบประตูต่ำๆ ก็แกล้งเอาหัวชนคานหน่อยเราก็ได้สร้างรอยยิ้มให้ใครบางคนแล้ว เวลาไปทานอาหารกับเพื่อนก็ไม่ต้องเกร็งทำตัวบ้าๆ บอๆ หน่อย เป็นตัวเรียกเสียงฮาได้
ทั้งหลายทั้งปวงนี้ ผมคิดว่ามันไม่ใช่ยากเลยที่จะทำให้ตัวเราเป็นที่รัก เป็นคนสนุกสนานได้ เพียงแค่เราละทิฐิ ยอมเสียฟอร์มนิดๆ โก๊ะหน่อยๆ ก็ได้ทำให้ทั้งตัวเองและคนรอบข้างมีรอยยิ้มได้แล้ว
ลองแสดงความเห็นหรือถ้ามีเรื่องน่าอายแต่รู้สึกดีใจที่ทำให้คนอื่นยิ้มได้ก็ลองแชร์กันดูนะครับ