สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ออกคำสั่งชัดเจนให้มีการยิงปืนใหญ่โจมตีเกาะแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ ขณะที่สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลเปียงยาง เพื่อหวังกดดันให้ล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ ท่ามกลางบรรยากาศอันตึงเครียดทั่วทั้งคาบสมุทรเกาหลี ที่ต้องจับตามองทุกวินาที
สำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) กระบอกเสียงหลักของเกาหลีเหนือ รายงานว่า คิมเดินทางพร้อมคณะไปตรวจการณ์และเยี่ยมเยียนหน่วยทหารปืนใหญ่ ที่ประจำการอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเลกับเกาหลีใต้ โดยคิมได้เอ่ยชื่อเกาะ “แบงนยอง” ที่ตั้งอยู่ในน่านน้ำของฝั่งใต้ว่า คือเป้าหมายของการโจมตีที่กำลังจะเกิดขึ้น เกาะดังกล่าวมีประชาชนอาศัยอยู่ราว 5,000 คน และมีหน่วยทหารรักษาความปลอดภัยอย่างแข็งขัน
ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือประกาศชัดเจนให้ทหารของตนโจมตีระบบเรดาร์ ฐานปล่อยจรวดต่อต้านขีปนาวุธใต้ทะเล“ฮาร์ปูน” รวมถึงป้อมปืนใหญ่ป้องกันชายฝั่งขนาด 130 มม. และป้อมปืนครกขนาด 150 มม. บนเกาะแห่งดังกล่าว และคิมยังกำชับให้กองกำลังของตนทุ่มเทพลังการโจมตีให้ถึงที่สุด จนกว่าทะเลในบริเวณนั้นจะ “ลุกเป็นเปลวไฟ”
ด้านนายคิม ยอง-กู ผู้แทนรัฐบาลโซลประจำเกาะแบงนยอง กล่าวว่า ประชาชนบนเกาะได้รับการอบรมจากเจ้าหน้าที่ให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินตลอดเวลา นอกจากนี้ ทางการได้ก่อสร้างศูนย์พักพิงชั่วคราวหลายแห่งบนเกาะ ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนแล้ว
เมื่อราว 3 ปีก่อน กองทัพเกาหลีเหนือยิงโจมตีเรือดำน้ำ “ชอนัน” ของกองทัพเกาหลีใต้จนจมดิ่งลงสู่ก้นทะเล บริเวณเกาะแบงนยอง คร่าชีวิตทหารไป 46 ศพ ตามด้วยการระดมยิงปืนใหญ่โจมตีเกาะ “ยอนพยอง” ที่อยู่ไม่ห่างออกไปนัก ทำให้ทหารของฝั่งใต้เสียชีวิตไปอีก 4 ศพ ในปีเดียวกัน
ก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน กระทรวงการคลังสหรัฐออกนโยบายเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อธนาคารการค้าต่างประเทศแห่งเกาหลีเหนือ ( เอฟทีบี ) และชาวเกาหลีเหนืออีก 4 คน รวมถึงนายปาร์ค เซ-บอง ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการผลิตขีปนาวุธของรัฐบาลเปียงยาง พร้อมกับเตือนว่า มาตรการคว่ำบาตรจะรุนแรงยิ่งขึ้น หากเกาหลีเหนือยังคงดื้อดึงที่จะเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ต่อไป
ขณะนี้ ทางการสหรัฐอยู่ระหว่างการฝึกซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ภายใต้รหัส “คีย์ รีซอล์ฟ” ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-21 มี.ค. นี้
เครดิตข่าว dailynews
เกาหลีเหนือประกาศยกเลิกข้อตกลงสันติภาพทุกฉบับกับเกาหลีใต้ตามคำขู่ เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ
เกาหลีเหนือได้ยกเลิกข้อตกลงสันติภาพ ปี 1953 พร้อมกับได้ตัดโทรศัพท์สายตรงที่ใช้ระหว่างเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ ที่ใช้ในการสื่อสารทั่วไป รวมถึงใช้ขอความช่วยเหลือด้านอาหาร และติดต่อรวมญาติระหว่างชาวเกาหลีสองทั้งฝั่ง โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่เกาหลีใต้และสหรัฐฯ เปิดฉากซ้อมรบใหญ่เมื่อวานนี้
ด้านรัฐบาลเกาหลีใต้ ก็ตอบโต้โดยกล่าวว่าจะไม่อดทนต่อการพัฒนานิวเคลียร์ และการกระทำยั่วยุของเกาหลีเหนือ พร้อมกับได้สั่งให้กองทัพเตรียมพร้อมอย่างเต็มรูปแบบ และพร้อมจะโจมตีกลับโดยทันที หากมีการยั่วยุเกิดขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม สหประชาชาติได้ออกแถลงการณ์ตามมาว่า ข้อตกลงสันติภาพดังกล่าวยังคงมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย เกาหลีเหนือไม่สามารถยกเลิกได้ตามอำเภอใจเพียงฝ่ายเดียว พร้อมกับเรียกร้องให้เกาหลีเหนือเคารพข้อตกลงซึ่งผ่านการรับรองโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแล้ว
ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อธนาคารการค้าต่างประเทศของเกาหลีเหนือ เนื่องจากมีบทบาทสนับสนุนโครงการอาวุธทำลายล้างสูงของรัฐบาล
เครดิตข่าว ครอบครัวข่าว 3
โลกเตรียมพร้อม!! เกาหลีเหนือเปิดฉากสั่งบึ้มเกาะเกาหลีใต้แล้ว!!
สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 12 มี.ค. ว่า นายคิม จอง-อึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือ ออกคำสั่งชัดเจนให้มีการยิงปืนใหญ่โจมตีเกาะแห่งหนึ่งของเกาหลีใต้ ขณะที่สหรัฐออกมาตรการคว่ำบาตรสถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ของรัฐบาลเปียงยาง เพื่อหวังกดดันให้ล้มเลิกโครงการนิวเคลียร์ ท่ามกลางบรรยากาศอันตึงเครียดทั่วทั้งคาบสมุทรเกาหลี ที่ต้องจับตามองทุกวินาที
สำนักข่าวกลางเกาหลี ( เคซีเอ็นเอ ) กระบอกเสียงหลักของเกาหลีเหนือ รายงานว่า คิมเดินทางพร้อมคณะไปตรวจการณ์และเยี่ยมเยียนหน่วยทหารปืนใหญ่ ที่ประจำการอยู่บนเกาะแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่บริเวณเส้นแบ่งอาณาเขตทางทะเลกับเกาหลีใต้ โดยคิมได้เอ่ยชื่อเกาะ “แบงนยอง” ที่ตั้งอยู่ในน่านน้ำของฝั่งใต้ว่า คือเป้าหมายของการโจมตีที่กำลังจะเกิดขึ้น เกาะดังกล่าวมีประชาชนอาศัยอยู่ราว 5,000 คน และมีหน่วยทหารรักษาความปลอดภัยอย่างแข็งขัน
ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือประกาศชัดเจนให้ทหารของตนโจมตีระบบเรดาร์ ฐานปล่อยจรวดต่อต้านขีปนาวุธใต้ทะเล“ฮาร์ปูน” รวมถึงป้อมปืนใหญ่ป้องกันชายฝั่งขนาด 130 มม. และป้อมปืนครกขนาด 150 มม. บนเกาะแห่งดังกล่าว และคิมยังกำชับให้กองกำลังของตนทุ่มเทพลังการโจมตีให้ถึงที่สุด จนกว่าทะเลในบริเวณนั้นจะ “ลุกเป็นเปลวไฟ”
ด้านนายคิม ยอง-กู ผู้แทนรัฐบาลโซลประจำเกาะแบงนยอง กล่าวว่า ประชาชนบนเกาะได้รับการอบรมจากเจ้าหน้าที่ให้เตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ฉุกเฉินตลอดเวลา นอกจากนี้ ทางการได้ก่อสร้างศูนย์พักพิงชั่วคราวหลายแห่งบนเกาะ ที่พร้อมให้ความช่วยเหลือผู้เดือดร้อนแล้ว
เมื่อราว 3 ปีก่อน กองทัพเกาหลีเหนือยิงโจมตีเรือดำน้ำ “ชอนัน” ของกองทัพเกาหลีใต้จนจมดิ่งลงสู่ก้นทะเล บริเวณเกาะแบงนยอง คร่าชีวิตทหารไป 46 ศพ ตามด้วยการระดมยิงปืนใหญ่โจมตีเกาะ “ยอนพยอง” ที่อยู่ไม่ห่างออกไปนัก ทำให้ทหารของฝั่งใต้เสียชีวิตไปอีก 4 ศพ ในปีเดียวกัน
ก่อนหน้านี้เพียง 1 วัน กระทรวงการคลังสหรัฐออกนโยบายเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อธนาคารการค้าต่างประเทศแห่งเกาหลีเหนือ ( เอฟทีบี ) และชาวเกาหลีเหนืออีก 4 คน รวมถึงนายปาร์ค เซ-บอง ประธานคณะกรรมาธิการปฏิรูปเศรษฐกิจ ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการผลิตขีปนาวุธของรัฐบาลเปียงยาง พร้อมกับเตือนว่า มาตรการคว่ำบาตรจะรุนแรงยิ่งขึ้น หากเกาหลีเหนือยังคงดื้อดึงที่จะเดินหน้าโครงการนิวเคลียร์ต่อไป
ขณะนี้ ทางการสหรัฐอยู่ระหว่างการฝึกซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้ด้วยระบบคอมพิวเตอร์ ภายใต้รหัส “คีย์ รีซอล์ฟ” ที่จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 11-21 มี.ค. นี้
เครดิตข่าว dailynews
เกาหลีเหนือประกาศยกเลิกข้อตกลงสันติภาพทุกฉบับกับเกาหลีใต้ตามคำขู่ เพื่อตอบโต้มาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติ
เกาหลีเหนือได้ยกเลิกข้อตกลงสันติภาพ ปี 1953 พร้อมกับได้ตัดโทรศัพท์สายตรงที่ใช้ระหว่างเกาหลีเหนือ และเกาหลีใต้ ที่ใช้ในการสื่อสารทั่วไป รวมถึงใช้ขอความช่วยเหลือด้านอาหาร และติดต่อรวมญาติระหว่างชาวเกาหลีสองทั้งฝั่ง โดยความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้น ขณะที่เกาหลีใต้และสหรัฐฯ เปิดฉากซ้อมรบใหญ่เมื่อวานนี้
ด้านรัฐบาลเกาหลีใต้ ก็ตอบโต้โดยกล่าวว่าจะไม่อดทนต่อการพัฒนานิวเคลียร์ และการกระทำยั่วยุของเกาหลีเหนือ พร้อมกับได้สั่งให้กองทัพเตรียมพร้อมอย่างเต็มรูปแบบ และพร้อมจะโจมตีกลับโดยทันที หากมีการยั่วยุเกิดขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม สหประชาชาติได้ออกแถลงการณ์ตามมาว่า ข้อตกลงสันติภาพดังกล่าวยังคงมีผลบังคับใช้ตามกฎหมาย เกาหลีเหนือไม่สามารถยกเลิกได้ตามอำเภอใจเพียงฝ่ายเดียว พร้อมกับเรียกร้องให้เกาหลีเหนือเคารพข้อตกลงซึ่งผ่านการรับรองโดยคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติแล้ว
ขณะที่กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ได้ออกมาตรการคว่ำบาตรใหม่ต่อธนาคารการค้าต่างประเทศของเกาหลีเหนือ เนื่องจากมีบทบาทสนับสนุนโครงการอาวุธทำลายล้างสูงของรัฐบาล
เครดิตข่าว ครอบครัวข่าว 3