สำหรับ LG Optimus G เป็นมือถือที่น่าสนใจครับจะเสียดายก็ตรงมาบ้านเราช้าไปซักหน่อย สำหรับรุ่นนี้หลายคนคงรู้สึกนิดๆว่ามันมีส่วนคล้ายกับ Nexus 4 นะเนี่ยโดยมีด้านหลังเป็นกระจกเหมือนกันซึ่งตรงนี้ผมชอบมากเลยฮะ เพราะมันมีประกายระยิบระยับสวยงามโดนใจมากๆ (แต่ Nexus 4 เป็นประกายทองๆดูเว่อร์กว่าเยอะ5555 ส่วนเจ้า Optimus G จะดูหรูๆอารมณ์หนุ่มหล่อมาดเฉียบ) ส่วนตัวสัมผัสแรกที่ผมลองเล่นเจ้า LG Optimus G ในงาน Blogger ที่ผ่านผมก็รู้สึกประทับใจในหน้าตามันมากเลยครับ ตอนแรกผมก็นึกว่ามันจะดูสวยน้อยกว่าเจ้า LG Nexus 4 นะเนี่ยเพราะในงานเปิดตัวปลายปีก่อนเจ้า LG Optimus G โดนจับใส่ตู้ครับดูแต่ตามืออย่าจับ5555 พอได้จับตัวจริงก็เข้าใจเลยครับว่ามันสมกับเป็นเรือธงของ LG ในช่วงที่ผ่านมาจริงๆ (ก่อนที่เจ้า LG Optimus G Pro จะเปิดตัว)

ที่มา AppDisqus http://www.appdisqus.com/devices/review-lg-optimus-g



รอบนี้ได้ยืมมาทั้งกล่องเลยนะเนี่ย (ซึ่งต้องเรียกว่านานๆทีจริงๆ เหอ เหอ) สำหรับกล่องของ LG Optimus G ดูเล็กๆพอดีตัวผมว่ากล่องมันดูเก๋ดีนะครับกล่องทำเป็นลายๆ UV ตรงกลางมีตัว G สีเงินเด่นเชียว (ผมว่ามาคราวนี้กล่องดูเกาหลีมากๆแฟชั่นมาเชียว)



เปิดกล่องมาจะเจอเจ้า LG Optimus G นอนหล่อกันเช่นเคย^__^ตัวเครื่อง LG บอกว่าเน้นสีดำแบบล้ำลึก (เวอร์มาก5555)




ในกล่องจะประกอบด้วยตัวเครื่อง LG Optimus G, สาย USB, หัวปลั๊ก, หูฟังอย่างหรู LG QuadBeat (ขอบอกว่าสวยมากๆแถมคุณภาพดีซะด้วยครับ), เข็มจิ้มซิมและคู่มือ




หน้าตาดีจนต้องขยาย อิอิ หูฟังที่แถมมากับ LG Optimus G ดูหรูสมเป็นระดับเรือธงจริงๆ LG QuadBeat สีสันดุดันโชว์โลโก้ LG อย่างเด่นแถมสายแบนซะด้วยซึ่งข้อดีแบบชัดเจนคือมันจะไม่พันกัน วัสดุทั้งตรงหูฟังและสายดูคุณภาพดีมากส่วนคุณภาพเสียงผมว่าไม่ดุดันเหมือนหน้าตานะ มาแนวโปร่งฟังสบายเวทีกว้างเป็นหุฟังที่คุณภาพดีครับ



งานออกแบบของ LG Optimus G จะเป็นทรงเหลี่ยมขอบมนเล็กน้อยตัวเครื่องเป็นสีดำเงาวับ วัสดุจะเป็นพลาสติคเงาและกระจก (Gorilla Glass 2) ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง สันขอบด้านหน้าเป็นโลหะสีโครเมี่ยมเงาวับตัดกับขอบสีดำดูเป็นโครเมี่ยมบางๆ 2 ชั้น (สวยโคตรๆ) และแกนกลางเป็นพลาสติคเงาสีดำ (ระวังเป็นรอยขนแมวนะครับ) และด้านหลังจะเป็นกระจกเหมือนใน Nexus 4 หน้าจอของ LG Optimus G จะมีขนาด 4.7 นิ้วความละเอียด HD 768 x 1280 pixels (318 ppi) เป็นจอแบบ True HD-IPS + LCD หน้าจอคมสีสดและขาวสวยมากครับ จนผมอยากเห็นจอ Full HD ของ LG ในเจ้า LG Optimus G Pro มากๆเลย



ด้านบนเป็นลำโพงสนทนาเสียงดังชัดเจนดี (แต่ต้องแนบหูให้ตรงๆครับเพราะลำโพงอยู่ชิดขอบบน) ในลำโพงมีตะแกรงปิดใว้เรียบร้อยไม่ขังฝุ่น ถัดลงมาเป็นโลโก้ LG ด้านซ้ายเป็นเซ็นเซอร์ และด้านขวาจะมีไฟแจ้งเตือน Notification Light และกล้องหน้าความละเอียด 1.3MP บันทึกวีดีโอ HD 720P



ด้านล่างมีปุ่มควบคุม 3 ปุ่มแบบสัมผัสประกอบด้วย Back, Home, Menu ใช้แสงไฟสีขาว




ด้านหลังเป็นแผ่นกระจกและเมื่อขยับตัวเครื่องจะเห็นประกายระยิบระยับสวยงาม ดูหรูหราและดูมีแฟชั่นมากๆด้านหลังประกอบด้วยกล้องความละเอียด 13MP มาพร้อมไฟแฟลช LED และถัดมาจะเป็นโลโก้แผ่นโลหะอยู่ใต้กระจก ด้านล่างมีบอกซะด้วยว่า Made in Korea และลำโพงตัวเครื่องเสียงดังระดับกลางๆครับ เสียงเพราะใช้ได้แถมเปิดดังสุดก็ไม่แตก และถึงด้านหลังจะเรียบๆแต่เมื่อวางบนโต๊ะเสียงก็ลอดออกมาได้ชัดเจนเพราะกล้องจะนูนขึ้นมาเล็กน้อย



ด้านหลังของ LG Optimus G ไม่สามารถถอดฝาหลังออกได้นะครับทำให้ไม่สามารถถอดเปลี่ยนแบตเตอรี่ได้เอง รวมทั้งเพิ่มหน่วยความจำภายนอกไม่ได้ครับ (แต่ในเครื่องก็มาพร้อมหน่วยความจำภายในสูงถึง 32GB)




ด้านบนมีไมค์ตัดเสียงรบกวน ช่องหูฟังขนาดมาตราฐาน 3.5 มม. ด้านล่างมีไมค์ตัวเครื่องและช่อง Micro USB และน็อตยึดตัวเครื่องที่มุมทั้ง 2 ด้าน




ด้านขวาจะมีปุ่ม Power และด้านซ้ายมีปุ่มปรับระดับเสียงสำหรับงานออกแบบของ LG Optimus G ผมชอบมากครับผมว่ามันดูเรียบแต่หรูหรามากๆ รายละเอียดชิ้นงานดูสวยและน่าสนใจ การประกอบแน่นหนามากๆ

สเปค LG Optimus G

รองรับ 3G แบบแยกรุ่น LG-E975 รองรับ 900 ส่วน LG-E975K รองรับ 850

ตัวเครื่องมีขนาด 131.9 x 68.9 x 8.5 มม. น้ำหนัก 145 กรัม

หน้าจอ True HD-IPS LCD ขนาด 4.7 นิ้วความละเอียด HD 768 x 1280 pixels (318 ppi)

CPU Quad Core 1.5 GHz Krait Qualcomm APQ8064, GPU Adreno 320, RAM 2GB

หน่วยความจำภายใน 32GB เหลือให้ใช้งาน 25.04GB ไม่สามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้

กล้องความละเอียด 13MP บันทึกวีดีโอ Full HD 1080P และกล้องหน้าความละเอียด 1.3MP บันทึกวีดีโอ HD 720P

Wi-Fi 802.11 a/b/g/n, dual-band, Wi-Fi Direct, DLNA, Wi-Fi hotspot, NFC, Bluetooth v4.0, microUSB v2.0 (MHL), USB Host, GPS และรองรับ GLONASS

Time cach shot, cheese shutter, Q Slide, Quick memo, live zooming, screen zooming, wise ringtone, wise screen, application link, icon customzer plus

Android 4.1.2 jelly Bean, Optimus UI 3.0

แบตเตอรี่ความจุ 2100 mAh

ราคาเปิดตัว 19900 บาท



ทดสอบด้วย Quadrant Standard ได้คะแนน 6976 คะแนน

ทดสอบด้วย AnTuTu Benchmark ได้คะแนน 17884 คะแนน

ทดสอบด้วย NenaMark2 ทำไปได้ 56.5fps

รองรับ Multi Touch 10 จุดสมบูรณ์



LG Optimus G มาพร้อม Android 4.1.2 jelly Bean และทำงานบน Optimus UI 3.0 ซึ่งออกแบบมาได้ดียิ่งขึ้นกว่าเดิมอย่างหน้า Lock Screen สามารถปรับแต่งได้ 3 แบบซึ่งแต่ละแบบก็ดูสวยงามน่าใช้และไอค่อนคำสั่งลัดด้านล่างก็ออกแบบใหม่ให้ดูน่ารักมากขึ้น




หน้า Home มีด้วยกัน 7 หน้า Widget ต่างๆดูสวยงามยิ่งขึ้นและในหน้า Home นี้ทาง LG ยังมีลูกเล่นใส่เพิ่มขึ้นมาอีกนะครับโดยจะเห็นจากไอค่อนว่าทำไมขนาดมันดูใหญ่ๆ อิอิ ซึ่งไอค่อนของ LG สามารถขยายได้ครับด้วยลูกเล่นที่เรียกว่า Icon Customers Plus โดยแตะที่ไอค่อนนั้นๆค้างใว้จะมีกรอบขึ้นมาที่ไอค่อนนั้นๆจากนั้นก็สามารถปรับขนาดโดยแตะที่มุมภาพ โดยนอกจากปรับขนาดเรายังสามารถเลือกใช้ภาพอื่นๆแทนได้ นอกจากนี้ยังใช้ภาพถ่ายได้อีกด้วยและบางไอค่อยเมื่อจับลากขยายจะแสดงผลเชื่อมโยงกับ Widget โดยอัตโนมัติอีกด้วย ผมว่าลุกเล่นตรงนี้น่าจะถูกใจหลายๆคนนะครับ และในหน้า Home เราสามารถใช้นิ้วถ่างหน้าจอให้ Widget และไอค่อนต่างๆบนจอหายไปเหลือแต่รูปพื้นหลังเพรียวๆได้ ถ้าต้องการให้กลับมาก็แค่คีบนิ้วเท่านั้นเอง



ในเครื่องจะมีธีมมาให้ 4 แบบและปรับแต่งนาฬิกาบนหน้า Lock Screen ได้ 5 แบบและสามารถปรับ Transition บนหน้าจอได้มากถึง 7 แบบและบนแถบ Notification สามารถเลือกจัดวางคำสั่งลัดต่างๆได้ด้วยตัวเองอย่างเป็นระเบียบ



QuickMemo ปรับปรุงให้เก่งมากยิ่งขึ้น โดยเราสามารถเขียนหน้าจอได้แทบจะตลอดเวลาโดยการลากแถบด้านบนลงมาจะเห็นคำสั่ง QuickMemo อยู่ที่มุมซ้ายสุดจากนั้นก็เขียนโน๊ตย่อๆ หรือจะจดเบอร์โทรขณะคุยโทรศัพท์ก็ทำได้อย่าสะดวกมากๆ นอกจากนี้ยังพัฒนาให้แสดงข้อความหรือรูปภาพที่เราเขียนบนหน้าจอควบคู่ไปกับการทำงานอื่นๆได้ด้วย ตรงจุดนี้ผมว่า LG พัฒนาเพิ่มเติมได้ดีมากครับ



หน้า App Drawer สามารถถอนการติดตั้งและเปลี่ยนตำแหน่ง รวมทั้งสร้างโฟลเดอร์ได้อย่างง่ายๆ



Q Slide จะช่วยให้เราสามารถใช้งานแอพลิเคชั่นที่หลากหลายในเวลาเดียวกันโดยการปรับให้ฟังชั่นที่เราใช้งานอยู่มีลักษณะโปร่งแสง และเราสามารถทำงานอย่างอื่นควบคู่กันไปด้วยได้ และยังสามารถย่อหรือขยายฟังชั่นนั้นๆได้อีกด้วยสำหรับการใช้งาน Q Slide ทำได้ลื่นไหลดีมากครับต้องบอกว่ามันเจ๋งกว่าที่คิดลูกเล่นแบบนี้ผมว่าเป็นการต่อยอดได้ฉลาดมากๆเลย โดยตอนนี้ฟังชั่นที่รองรับ Q Slide มีด้วยกัน 5 อย่างครับซึ่งไม่รู้ว่าทาง LG จะพัฒนาเพิ่มหรือเปิดให้ผู้พัฒนารายอื่นๆเข้ามาร่วมด้วยหรือเปล่า



ตัวเครื่องมีระบบ Power Saver และควบคุม Quad Core Control โดยจะควบคุมการทำงานให้อยู่ในดหมดประหยัดพลังงานมากที่สุด เมื่อใช้งานไม่หนักมากแต่เที่ที่ผมทดสอบมาผมว่าแขตเตอรี่ความจุ 2100 mAh มันอึดมากทีเดียวครับแม้ไม่เปิดโหมดประหยัดพลังงานหรือโหมดควบคุม CPU แบตก็อึดใช้ได้เลยละ ยิ่งถ้าใช้โหมดนี้ผมว่าแบตเตอรี่น่าจะอยู่ได้ยืนยาวจนน่าทึ่งแน่นอน



สำหรับ LG Optimus G มาคราวนี้ผมว่าหอบลูกเล่นมาเพียบจริงๆครับ ขนมาไม่แพ้เจ้าตลาด Android เลยนะเนี่ยในโหมดหน้าจอมีลูกเล่น Smart Screen นั่นก็คือหน้าจอจะไม่ดับตราบเท่าที่เรายังมองหน้าจออยู่ (คุ้นๆไหมครับ อิอิ) และในส่วนตัวหนังสือสามารถเลือกได้ 8 แบบขยายได้ถึง 4 ขนาดและในโหมดเสียงเราสามารถตั้งเวลาปิดเสียงต่างๆในเครื่องได้ (โดยจะยกเว้นเสียงนาฬิกาปลุก) เหมาะสำหรับในช่วงเวลาประชุมหรือตอนกลางดึกที่ไม่ต้องการให้ใครมารบกวนครับ นอกจากนี้ยังมีโหมดปรับระดับเสียงเรียกเข้าอัตโนมัติตามความดังของสภาพเสียงภายนอกอีกด้วย ในโหมด Gesture ก็เป็นลูกเล่นธรรมดาๆไม่หวือหวาครับเราสามารถพลิกตัวเครื่องเพื่อพักเสียงเรียกเข้า, ปิดเสียงสัญญาณเตือนต่างๆและหยุดการเล่นวีดีโอชั่วคราวได้ และมีลูกเล่นน่าสนใจอย่างการแก้ไขอัตราส่วนหน้าจอ เพราะอาจจะมี App บางตัวแสดงผลผิดเพี้ยนเราก็สามารถมากำหนดในจุดนี้ได้อย่างยืดหยุ่นครับ



และสำหรับลูกเล่นนี้ผมว่าแจ๋วมากๆเพราะเราสามารถใช้นิ้วคีบหน้าจอเพื่อขยายภาพหรือตัวหนังสือในโหมดต่างๆได้ ทั้งในคลังภาพหรือในสมุดโทรศัพท์และใน Browser รวมทั้งในอีเมล์ก็สามารถใช้ลูกเล่นนี้ได้ครับ ผมว่าเหมาะสำหรับคนวัยทำงานและผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องสายตามากๆเลย อย่างเพื่อนผมก็เริ่มสายตายาวกันแล้วนะเนี่ย5555