1) นี่เป็นผลงานเรื่องล่าสุดของ โจนาธาน เดย์ตั้น และวาเลรี่ ฟาริส ผู้กำกับคู่สามีภรรยา เจ้าของผลงานหนังอบอุ่นแสบสันขวัญใจมหาชนอย่าง Little Miss Sunshine (2006)
2) จากตำนานเทพปกรณัมกรีก สู่ ความโมเดิร์นเซอเรียลิสต์ หนังได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานของ พีกเมเลี่ยน (pygmalion) ประติมากรหนุ่มแห่งเกาะไซปรัส ที่ดันตกหลุมรักรูปปั้นหญิงสาวที่ตนเป็นผู้สร้างขึ้น เลยไปขอพรจากเทพวีนัสให้รูปปั้นมีชีวิต ซึ่งใน Ruby Sparks ตำนานที่ว่านี้ได้ถูกนำมาปรับโฉมใหม่เป็นเรื่องราวของ คาลวิน (พอล ดาโน่) นักเขียนนิยายอัจฉริยะที่สร้างผลงานชิ้นเยี่ยมออกมาได้ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ว่าเมื่อเขาได้ลงมือเขียนหนังสือเล่มใหม่เกี่ยวกับสาวสวยนามว่า รูบี้ ก็มีเรื่องประหลาดพิสดารเกิดขึ้น เมื่อ รูบี้ (โซอี้ คาซาน) ตัวละครสาวแสนสวยเกิดโผล่มาอยู่ในบ้านและมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ จน คาลวิน เองก็จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันคืออะไรกันแน่? แต่ที่แน่ๆ ก็คือเขาได้ตกหลุมรัก รูบี้ ผลงานตัวเองเข้าอย่างจัง
3) โมเดิร์นเซอเรียลิสต์ เพื่อ เรียลลิสติก แม้ว่าพล็อตเรื่องจะมาแบบเซอร์แตกแหวกแนว เหนือจริงสุดๆ แต่ด้วยหลักใหญ่ใจความของเนื้อหาแล้ว Ruby Sparks เป็นหนังดราม่า-โรแมนติกที่พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่ม-หญิงสาวในมุมที่หนักแน่น ลุ่มลึก และจริงจัง เพราะมันว่าด้วยศิลปะของการอยู่ร่วมกัน ซึ่งเราไม่สามารถบีบบังคับ เหนี่ยวรั้ง หรือเปลี่ยนตัวตนของใคร ให้เป็นในสิ่งที่เราต้องการได้ แต่การอยู่ร่วมกันนั้น มันเรื่องของศิลปะใน "การให้" และ "การรับ" อย่างแท้จริง
ประเด็นเหล่านี้ถูกนำเสนอออกมาอย่างคมคาย ผ่านความสัมพันธ์ประหลาดๆ ของของ คาลวิน และ รูบี้ ตัวละครสาวของเขา เมื่อใดก็ตามที่ รูบี้ เกิดไม่ได้ดั่งใจขึ้นมา คาลวิน จะกลับไปแก้ไขสิ่งที่เขาเคยเขียนเกี่ยวกับรูบี้ไว้ในหนังสือต้นฉบับ และหลังจากนั้น รูบี้ ก็จะเปลี่ยนตัวตนไปตามสิ่งที่เขาเขียนขึ้นใหม่ในพริบตาราวกับปาฏิหาริย์ ด้วยความสามารถพิเศษนี้ทำให้ คาลวิน ได้ใจ และลงมือแก้เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวตนของรูบี้ในทุกครั้งที่ไม่สบอารมณ์ แต่ยิ่งแก้ ก็ยิ่งยุ่ง จนสุดท้าย รูบี้ ไม่เหลือตัวตนในแบบที่ คาลวิน เคยหลงรักอีกต่อไป
4) คู่รักจริงนอกจอ นอกจากพล็อตเรื่องเก๋ๆ เนื้อหาดี ลุ่มลึก แล้ว นี่ยังเป็นหนังที่ได้นักแสดงคู่พระ-นางที่ลงตัวกับเรื่องราวสุดๆ นั่นก็คือ พอล ดาโน่ และ โซอี้ คาซาน คู่รักในชีวิตจริง เพราะงั้นคงไม่ต้องบอกนะว่าทั้งเคมีการแสดงของทั้งคู่จะเข้ากันขนาดไหน โดยเฉพาะน้องโซอี้ นั้นน่าจับตามากๆ สำหรับคนชอบดูหนังอินดี้แนวๆ เก๋ๆ เพราะในเรื่องนี้นอกจากแสดงแล้วน้องเขายังทำหน้าที่เขียนบทอีกด้วย มากความสามารถขิงๆ เลยจ้า
คะแนน : สี่ดาวจ้า
ชอบอ่านรีวิวหนังเก่า-ใหม่ กระชับได้ใจความ สั้นบ้าง ยางบ้าง ฝากกด like แฟนเพจนี้ด้วยจ้า
http://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87/112834835539518
4 เหตุผลที่ทำให้ Ruby Sparks (2012) เป็นหนังดราม่า-โรแมนติกสุดฮิพ!!
1) นี่เป็นผลงานเรื่องล่าสุดของ โจนาธาน เดย์ตั้น และวาเลรี่ ฟาริส ผู้กำกับคู่สามีภรรยา เจ้าของผลงานหนังอบอุ่นแสบสันขวัญใจมหาชนอย่าง Little Miss Sunshine (2006)
2) จากตำนานเทพปกรณัมกรีก สู่ ความโมเดิร์นเซอเรียลิสต์ หนังได้แรงบันดาลใจมาจากตำนานของ พีกเมเลี่ยน (pygmalion) ประติมากรหนุ่มแห่งเกาะไซปรัส ที่ดันตกหลุมรักรูปปั้นหญิงสาวที่ตนเป็นผู้สร้างขึ้น เลยไปขอพรจากเทพวีนัสให้รูปปั้นมีชีวิต ซึ่งใน Ruby Sparks ตำนานที่ว่านี้ได้ถูกนำมาปรับโฉมใหม่เป็นเรื่องราวของ คาลวิน (พอล ดาโน่) นักเขียนนิยายอัจฉริยะที่สร้างผลงานชิ้นเยี่ยมออกมาได้ตั้งแต่อายุยังน้อย แต่ว่าเมื่อเขาได้ลงมือเขียนหนังสือเล่มใหม่เกี่ยวกับสาวสวยนามว่า รูบี้ ก็มีเรื่องประหลาดพิสดารเกิดขึ้น เมื่อ รูบี้ (โซอี้ คาซาน) ตัวละครสาวแสนสวยเกิดโผล่มาอยู่ในบ้านและมีชีวิตขึ้นมาจริงๆ จน คาลวิน เองก็จับต้นชนปลายไม่ถูกว่าเรื่องทั้งหมดนี้มันคืออะไรกันแน่? แต่ที่แน่ๆ ก็คือเขาได้ตกหลุมรัก รูบี้ ผลงานตัวเองเข้าอย่างจัง
3) โมเดิร์นเซอเรียลิสต์ เพื่อ เรียลลิสติก แม้ว่าพล็อตเรื่องจะมาแบบเซอร์แตกแหวกแนว เหนือจริงสุดๆ แต่ด้วยหลักใหญ่ใจความของเนื้อหาแล้ว Ruby Sparks เป็นหนังดราม่า-โรแมนติกที่พูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างชายหนุ่ม-หญิงสาวในมุมที่หนักแน่น ลุ่มลึก และจริงจัง เพราะมันว่าด้วยศิลปะของการอยู่ร่วมกัน ซึ่งเราไม่สามารถบีบบังคับ เหนี่ยวรั้ง หรือเปลี่ยนตัวตนของใคร ให้เป็นในสิ่งที่เราต้องการได้ แต่การอยู่ร่วมกันนั้น มันเรื่องของศิลปะใน "การให้" และ "การรับ" อย่างแท้จริง
ประเด็นเหล่านี้ถูกนำเสนอออกมาอย่างคมคาย ผ่านความสัมพันธ์ประหลาดๆ ของของ คาลวิน และ รูบี้ ตัวละครสาวของเขา เมื่อใดก็ตามที่ รูบี้ เกิดไม่ได้ดั่งใจขึ้นมา คาลวิน จะกลับไปแก้ไขสิ่งที่เขาเคยเขียนเกี่ยวกับรูบี้ไว้ในหนังสือต้นฉบับ และหลังจากนั้น รูบี้ ก็จะเปลี่ยนตัวตนไปตามสิ่งที่เขาเขียนขึ้นใหม่ในพริบตาราวกับปาฏิหาริย์ ด้วยความสามารถพิเศษนี้ทำให้ คาลวิน ได้ใจ และลงมือแก้เพื่อเปลี่ยนแปลงตัวตนของรูบี้ในทุกครั้งที่ไม่สบอารมณ์ แต่ยิ่งแก้ ก็ยิ่งยุ่ง จนสุดท้าย รูบี้ ไม่เหลือตัวตนในแบบที่ คาลวิน เคยหลงรักอีกต่อไป4) คู่รักจริงนอกจอ นอกจากพล็อตเรื่องเก๋ๆ เนื้อหาดี ลุ่มลึก แล้ว นี่ยังเป็นหนังที่ได้นักแสดงคู่พระ-นางที่ลงตัวกับเรื่องราวสุดๆ นั่นก็คือ พอล ดาโน่ และ โซอี้ คาซาน คู่รักในชีวิตจริง เพราะงั้นคงไม่ต้องบอกนะว่าทั้งเคมีการแสดงของทั้งคู่จะเข้ากันขนาดไหน โดยเฉพาะน้องโซอี้ นั้นน่าจับตามากๆ สำหรับคนชอบดูหนังอินดี้แนวๆ เก๋ๆ เพราะในเรื่องนี้นอกจากแสดงแล้วน้องเขายังทำหน้าที่เขียนบทอีกด้วย มากความสามารถขิงๆ เลยจ้า
คะแนน : สี่ดาวจ้า
ชอบอ่านรีวิวหนังเก่า-ใหม่ กระชับได้ใจความ สั้นบ้าง ยางบ้าง ฝากกด like แฟนเพจนี้ด้วยจ้า
http://www.facebook.com/pages/%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%AB%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%87/112834835539518