สวัสดีครับ
ผมมีเรื่องเหลือเชื่อจากประสบการณ์จริงมาแบ่งปัน เรื่องนี้แม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่อยากเชื่อว่าเกิดขึ้นจริงๆกับตนเอง(แต่ก็ได้เกิดไปแล้ว)
ครั้งหนึ่งผมได้รู้จักกับเพื่อนคนไทยแต่นับถือศาสนาฮินดู เขาจะบูชาเทพเจ้าแต่แปลกอย่างหนึ่งเขาชอบศึกษาเรื่องธรรมะของศาสนาพุทธด้วย
ผมมีเหตุที่ต้องไปพำนักที่บ้านของเขาหนึ่งคืน บ้านของเขานั้นเป็นบ้านที่มุงด้วยสังกะสีทั้งหลัง ภายในบ้านเต็มไปด้วยเทวรูป องค์เทพเทวาสารพัดปาง ล้นออกไปนอกชานบ้าน(แต่บ้านของเขามีพื้นที่ ที่กว้างมากๆเทวรูปจึงถูกจัดไว้ตามจุดต่างๆอย่างสวยงาม)
ครั้งหนึ่งเขาได้เล่าให้ผมฟังถึงเรื่องพระธาตุเสด็จมาที่ดอกบัวสีชมพูที่เขาปลูกไว้ที่หน้าบ้านของเขา ผมฟังแล้วได้แต่ขำหัวเราะเกี่ยวกับความเชื่อ ที่หลงงมงายจนไม่เข้าท่าเข้าทางของเขา กอรปกับเขาเป็นฮินดูแต่ดันมาเอาหลักพุทธไปปนเปกันไปอีก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยอมเขาจริงๆคือการที่เขา ปฏิบัติบูชาองค์เทพเทวาอย่างไม่ขาด แบบสุดลิ่มทิ่มประตูไปเลยทีเดียว นอกจากองค์เทพแล้วภายในบ้านของเขายังมี หิ้งบูชาพระพุทธ บางทีเล่นเอาผมงงว่าฮินดูอะไรบูชาพระพุทธเจ้า
จากเหตุการณ์พระธาตุเสด็จเขาได้นำพระธาตุที่เขาเชื่อว่าเสด็จมา ขึ้นบูขาที่หิ้งพระสูงสุดภายในบ้านของเขาและในคืนวันที่ผมจะไปค้างนั้นเอง ผมได้ซึ้อพวงมาลัยมะลิติดตัวไปเพื่อบูชาพระธาตุตามที่เขาว่ามานั้น พอผมไปถึงบ้านของเขาผมก็ขออนุญาตเข้าไปกราบไหว้บูชาพระธาตุดังกล่าว การบูชาของผมก็ไม่มีอะไรมาก คือ สวดมนต์ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กล่าวคำบูชาพระธาตุเป็นภาษาไทย แต่ตอนนี้ตั้งจิตมั่นด้วยความศรัทรา
แล้วผมก็ก้มลงกราบสามครั้งแบบปกติ แต่ที่ประหลาดคือเมื่อผมเงยหน้าขึ้นมาจากการกราบครั้งที่สามแล้ว ผมได้ยินเสียงพูดเข้ามาที่สองหูเลยเสียงนั้นทำผมหูอื้อขณะได้ยินเป็นเสียงผู้ชายเสียงใสกังวานถามผมว่า "อยากขออะไร" ผมนึกว่าผมหูฝาดผมจึงจ้องไปที่พระธาตุอย่างประหลาดใจ เสียงดังกล่าวดังขึ้นอีก "เจ้าอยากขออะไร" ผมยอมรับว่าผมแปลกใจพอสมควรจะว่ามีคนมาพูดอะไรก็ไม่ใช่เพราะว่าเสียงมันได้ยินมาจากในหัวผม มันไม่เหมือนเสียงที่ได้ยินมาจากภายนอกแบบคนเราพูดกัน เสีองนั้นได้ถามอีกอย่างชัดเจนผมจึงตอบในใจกลับไปว่า "ผมมาเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุไม่ได้ต้องการสิ่งใด" แต่เสียงนั้นก็ตอบผมกลับมาอีกประมาณว่าอยากให้ผมขอประมาณนี้ แต่ผมก็ไม่ขอ "เพราะว่าเป็นสิริมงคลมากแล้วในการได้บูชาพระธาตุ" ผมกราบขอบพระคุณเสียงนั้นทั้งที่ไม่มีที่มาที่ไปอีกครั้งแล้วเสียงนั้นก็หายไปหลังจากผมกราบเสร็จสามครั้ง
ผมเดินออกมาจากบ้านเพื่อนผมในสภาพงงกับเหตุการณ์ที่เจอ ไม่กล้าพูดกล้าบอกใครได้แต่อึ้งเก็บไว้คนเดียว และได้แต่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันไม่จริง ประสาทคงหลอนไปหูคงแว่วไปจริงๆ ก่อนอื่นผมต้องขออธิบายลักษณะบ้านเพื่อนของผมก่อนว่า ห้องนอนเขาอยู่รวมกับห้องพระ เทวรูป เขาจะนอนหน้าหิ้งพระ การจัดหิ้งพระของเขาเหมือนการจัดแบบในหนังแขก พวกฮินดูจะอลังการมากๆสีสันมากมายเต็มไปด้วยองค์เทพ ส่วนหิ้งพระจะเป็นแบบแขวนติดผนังมีสองหิ้ง สูงสุดเป็นหิ้งพระธาตุใส้ไว้ในเจดีย์เรซิ่นใสขนาดใหญ่เท่ากำปั้นสูงใหญ่มั่นคง ส่วนอีกหิ้งต่ำลงมาคือหิ้งของพระพุทธรูป
บ้านของเขาเป็นบ้านสังกะสีเหมือนบ้านคนงาน(เขาไม่ได้ยากจนแต่ด้วยรสนิยมส่วนตัว) แต่จะมีพื้นที่นอนได้ประมาณสามคนก็เต็มห้องมีประตูสองบาน บานแรกใช้เข้าออก ส่วนอีกบานเป็นประตูห้องน้ำ มีหน้าต่างหนึ่งบาน ทั้งหมดเมื่อนอนกันแล้วใครเข้ามาในห้องจะรู้ตัวทันที เพราะว่าห้องแคบมากเข้ามาต้องเหยียบกัน บ้านของเขาเวลานอนจะมีแม่เขาและเขาสองคน แต่วันนั้นรวมผมด้วยก็เป็นสามคนแมวอีกหนึ่งตัวแทบเต็มห้อง มีที่ให้เดินไปห้องน้ำกว้างแค่หนึ่งคนเดินหลังจากนอนในคืนนั้นอย่างสงบสุข
เช้าขึ้นมาผมก็ตื่นมาอาบน้ำ ทานอาหารตามลำดับ เพื่อนผมและแม่ของเขาก็มีท่าทีแปลกๆอ้ำๆอึ้งๆไม่พูดอะไรได้แต่จ้องๆมองๆผม จนกระทั่งตอนเย็น เขากวาดบ้านทำพิธีบูชาเทพเจ้าของเขาเสร็จ เขาเรียกแม่ของเขาเข้ามาจับกลุ่มนั่งถามผมว่า เมื่อวานได้เอาพวงมาลัยอุบะไปสวมครอบบูชาพระธาตุหรือเปล่าผมตอบว่าใช่ผมสวมไว้อย่างระมัดระวังแล้วกดให้แน่นจนถึงฐานเจดีย์ เพื่อนผมมองหน้าแม่ของเขาแล้วหันมาบอกผมว่าพวงมาลัยได้หายไป ผมตกในมากและโพล่งออกมาเสียงดังว่าเป็นไปไม่ได้ แล้วเขาบอกผมว่าไม่เชื่อให้ผมเข้าไปดูได้ที่หิ้งพระ ผมเข้าไปดูพบว่าพวงมาลัยหายไปจริงๆ แต่ก็มานั่งคิดว่าอาจเกิดจากหนูและแมวหรือสัตว์อะไรมาเอาไปก็ได้ แต่คิดไปคิดมาหิ้งอยู่สูงมากถ้าเอาพวงมาลัยผมออกต้องใช้แรงพอควร ถ้าเป็นสัตว์เจดีย์ต้องตกลงมาแน่นอน ไม่ว่าสัตว์เล็กหรือใหญ่เพราะว่าหิ้งพระแคบมาก และบ้านของเขามีประตูเข้าประตูเดียวผมนั่งหน้าบ้านกับเขาทั้งวัน แม้คนเข้ามาทางหน้าต่างก็ต้องผ่านสวนป่าของเขาเหยียบย่ำพื้นดินพื้นโคลนให้เห็นได้จากหน้าบ้านเพราะ หน้าบ้านมองเข้ามาเห็นในบ้านได้
เพื่อนผมยืนยันกับแม่ของเขาว่าไม่ได้เอาออกแน่นอน และเขาให้แม่ของเขาค้นบ้านรื้อทุกซอกทุกมุมในบ้านทั้งหิ้งบูชาเทวรูปทั้งหลายแล้ว แต่ก็ไม่พบพวงมาลัยที่ผมบูชาพระธาตุจนแน่ใจว่าหายไปเขาจึงมาบอกผม ผมก็สงสัยนะว่าทำไมเขารู้ว่าหายไปไม่ถามผมตั้งแต่แรก แต่กลับมาบอกตอนเย็น จากนั้นผมเองก็เล่าเหตุการณ์เสียงประหลาดระหว่างที่บูชาพระธาตุให้พวกเขาฟัง พวกเขาได้แต่ตื่นตะลึงขนลุกแต่ผมเองกลับประหลาดใจว่าคืออะไรมากกว่าและพยายามหาเหตุความเป็นไปได้ต่างๆนานามากกว่าความมหัศจรรย์
จนกระทั่งทุกวันนี้ผมยังหาสาเหตุไม่ได้จริงๆว่าเสียงนั่นมาจากไหน(ซึ่งผมสรุปว่าผมคงหูแว่ว) ส่วนเรื่องพวงมาลัยที่บูชาพระธาตุหายนี่คิดไม่ออกเรื่องเหตุผลจริงๆว่าหายไปได้อย่างไรในสภาพของห้องนอนที่มีแต่จุดอับทางเข้าออกทางเดียว ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่ตลอดมา.
ป.ล. นี่คือเรื่องที่คิดว่าอัศจรรย์ ก็อาจจะใช่ จะคิดว่าเป็นเรื่องประหลาดก็ ใช่อีก แต่ด้วยเรื่องพวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับผมทุกวันผมจึงเชื่อว่ามันเป็นปาฏิหารย์ตราบใดที่ผมยังหาทางพิสูจน์ในแง่เหตุและผลที่มาที่ไปไม่ได้ และปัจจุบันเพื่อนของผมหวงแหนพระธาตุดังกล่าวมากจะเปิดให้กับคนที่สนิทกันเข้ากราบไห้วบูชาเท่านั้น ส่วนตัวผมบอกตรงๆผมยังไม่รู้เลยว่าสิ่งนั้นเป็นพระธาตุจริงๆหรือไม่ นอกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผม.
บูชาพระธาตุเสด็จ กับเรื่องไม่น่าเชื่อที่เกิดขึ้น
ผมมีเรื่องเหลือเชื่อจากประสบการณ์จริงมาแบ่งปัน เรื่องนี้แม้แต่ตัวผมเองก็ยังไม่อยากเชื่อว่าเกิดขึ้นจริงๆกับตนเอง(แต่ก็ได้เกิดไปแล้ว)
ครั้งหนึ่งผมได้รู้จักกับเพื่อนคนไทยแต่นับถือศาสนาฮินดู เขาจะบูชาเทพเจ้าแต่แปลกอย่างหนึ่งเขาชอบศึกษาเรื่องธรรมะของศาสนาพุทธด้วย
ผมมีเหตุที่ต้องไปพำนักที่บ้านของเขาหนึ่งคืน บ้านของเขานั้นเป็นบ้านที่มุงด้วยสังกะสีทั้งหลัง ภายในบ้านเต็มไปด้วยเทวรูป องค์เทพเทวาสารพัดปาง ล้นออกไปนอกชานบ้าน(แต่บ้านของเขามีพื้นที่ ที่กว้างมากๆเทวรูปจึงถูกจัดไว้ตามจุดต่างๆอย่างสวยงาม)
ครั้งหนึ่งเขาได้เล่าให้ผมฟังถึงเรื่องพระธาตุเสด็จมาที่ดอกบัวสีชมพูที่เขาปลูกไว้ที่หน้าบ้านของเขา ผมฟังแล้วได้แต่ขำหัวเราะเกี่ยวกับความเชื่อ ที่หลงงมงายจนไม่เข้าท่าเข้าทางของเขา กอรปกับเขาเป็นฮินดูแต่ดันมาเอาหลักพุทธไปปนเปกันไปอีก แต่สิ่งหนึ่งที่ผมยอมเขาจริงๆคือการที่เขา ปฏิบัติบูชาองค์เทพเทวาอย่างไม่ขาด แบบสุดลิ่มทิ่มประตูไปเลยทีเดียว นอกจากองค์เทพแล้วภายในบ้านของเขายังมี หิ้งบูชาพระพุทธ บางทีเล่นเอาผมงงว่าฮินดูอะไรบูชาพระพุทธเจ้า
จากเหตุการณ์พระธาตุเสด็จเขาได้นำพระธาตุที่เขาเชื่อว่าเสด็จมา ขึ้นบูขาที่หิ้งพระสูงสุดภายในบ้านของเขาและในคืนวันที่ผมจะไปค้างนั้นเอง ผมได้ซึ้อพวงมาลัยมะลิติดตัวไปเพื่อบูชาพระธาตุตามที่เขาว่ามานั้น พอผมไปถึงบ้านของเขาผมก็ขออนุญาตเข้าไปกราบไหว้บูชาพระธาตุดังกล่าว การบูชาของผมก็ไม่มีอะไรมาก คือ สวดมนต์ระลึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ กล่าวคำบูชาพระธาตุเป็นภาษาไทย แต่ตอนนี้ตั้งจิตมั่นด้วยความศรัทรา
แล้วผมก็ก้มลงกราบสามครั้งแบบปกติ แต่ที่ประหลาดคือเมื่อผมเงยหน้าขึ้นมาจากการกราบครั้งที่สามแล้ว ผมได้ยินเสียงพูดเข้ามาที่สองหูเลยเสียงนั้นทำผมหูอื้อขณะได้ยินเป็นเสียงผู้ชายเสียงใสกังวานถามผมว่า "อยากขออะไร" ผมนึกว่าผมหูฝาดผมจึงจ้องไปที่พระธาตุอย่างประหลาดใจ เสียงดังกล่าวดังขึ้นอีก "เจ้าอยากขออะไร" ผมยอมรับว่าผมแปลกใจพอสมควรจะว่ามีคนมาพูดอะไรก็ไม่ใช่เพราะว่าเสียงมันได้ยินมาจากในหัวผม มันไม่เหมือนเสียงที่ได้ยินมาจากภายนอกแบบคนเราพูดกัน เสีองนั้นได้ถามอีกอย่างชัดเจนผมจึงตอบในใจกลับไปว่า "ผมมาเพื่อบูชาพระบรมสารีริกธาตุไม่ได้ต้องการสิ่งใด" แต่เสียงนั้นก็ตอบผมกลับมาอีกประมาณว่าอยากให้ผมขอประมาณนี้ แต่ผมก็ไม่ขอ "เพราะว่าเป็นสิริมงคลมากแล้วในการได้บูชาพระธาตุ" ผมกราบขอบพระคุณเสียงนั้นทั้งที่ไม่มีที่มาที่ไปอีกครั้งแล้วเสียงนั้นก็หายไปหลังจากผมกราบเสร็จสามครั้ง
ผมเดินออกมาจากบ้านเพื่อนผมในสภาพงงกับเหตุการณ์ที่เจอ ไม่กล้าพูดกล้าบอกใครได้แต่อึ้งเก็บไว้คนเดียว และได้แต่คิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นมันไม่จริง ประสาทคงหลอนไปหูคงแว่วไปจริงๆ ก่อนอื่นผมต้องขออธิบายลักษณะบ้านเพื่อนของผมก่อนว่า ห้องนอนเขาอยู่รวมกับห้องพระ เทวรูป เขาจะนอนหน้าหิ้งพระ การจัดหิ้งพระของเขาเหมือนการจัดแบบในหนังแขก พวกฮินดูจะอลังการมากๆสีสันมากมายเต็มไปด้วยองค์เทพ ส่วนหิ้งพระจะเป็นแบบแขวนติดผนังมีสองหิ้ง สูงสุดเป็นหิ้งพระธาตุใส้ไว้ในเจดีย์เรซิ่นใสขนาดใหญ่เท่ากำปั้นสูงใหญ่มั่นคง ส่วนอีกหิ้งต่ำลงมาคือหิ้งของพระพุทธรูป
บ้านของเขาเป็นบ้านสังกะสีเหมือนบ้านคนงาน(เขาไม่ได้ยากจนแต่ด้วยรสนิยมส่วนตัว) แต่จะมีพื้นที่นอนได้ประมาณสามคนก็เต็มห้องมีประตูสองบาน บานแรกใช้เข้าออก ส่วนอีกบานเป็นประตูห้องน้ำ มีหน้าต่างหนึ่งบาน ทั้งหมดเมื่อนอนกันแล้วใครเข้ามาในห้องจะรู้ตัวทันที เพราะว่าห้องแคบมากเข้ามาต้องเหยียบกัน บ้านของเขาเวลานอนจะมีแม่เขาและเขาสองคน แต่วันนั้นรวมผมด้วยก็เป็นสามคนแมวอีกหนึ่งตัวแทบเต็มห้อง มีที่ให้เดินไปห้องน้ำกว้างแค่หนึ่งคนเดินหลังจากนอนในคืนนั้นอย่างสงบสุข
เช้าขึ้นมาผมก็ตื่นมาอาบน้ำ ทานอาหารตามลำดับ เพื่อนผมและแม่ของเขาก็มีท่าทีแปลกๆอ้ำๆอึ้งๆไม่พูดอะไรได้แต่จ้องๆมองๆผม จนกระทั่งตอนเย็น เขากวาดบ้านทำพิธีบูชาเทพเจ้าของเขาเสร็จ เขาเรียกแม่ของเขาเข้ามาจับกลุ่มนั่งถามผมว่า เมื่อวานได้เอาพวงมาลัยอุบะไปสวมครอบบูชาพระธาตุหรือเปล่าผมตอบว่าใช่ผมสวมไว้อย่างระมัดระวังแล้วกดให้แน่นจนถึงฐานเจดีย์ เพื่อนผมมองหน้าแม่ของเขาแล้วหันมาบอกผมว่าพวงมาลัยได้หายไป ผมตกในมากและโพล่งออกมาเสียงดังว่าเป็นไปไม่ได้ แล้วเขาบอกผมว่าไม่เชื่อให้ผมเข้าไปดูได้ที่หิ้งพระ ผมเข้าไปดูพบว่าพวงมาลัยหายไปจริงๆ แต่ก็มานั่งคิดว่าอาจเกิดจากหนูและแมวหรือสัตว์อะไรมาเอาไปก็ได้ แต่คิดไปคิดมาหิ้งอยู่สูงมากถ้าเอาพวงมาลัยผมออกต้องใช้แรงพอควร ถ้าเป็นสัตว์เจดีย์ต้องตกลงมาแน่นอน ไม่ว่าสัตว์เล็กหรือใหญ่เพราะว่าหิ้งพระแคบมาก และบ้านของเขามีประตูเข้าประตูเดียวผมนั่งหน้าบ้านกับเขาทั้งวัน แม้คนเข้ามาทางหน้าต่างก็ต้องผ่านสวนป่าของเขาเหยียบย่ำพื้นดินพื้นโคลนให้เห็นได้จากหน้าบ้านเพราะ หน้าบ้านมองเข้ามาเห็นในบ้านได้
เพื่อนผมยืนยันกับแม่ของเขาว่าไม่ได้เอาออกแน่นอน และเขาให้แม่ของเขาค้นบ้านรื้อทุกซอกทุกมุมในบ้านทั้งหิ้งบูชาเทวรูปทั้งหลายแล้ว แต่ก็ไม่พบพวงมาลัยที่ผมบูชาพระธาตุจนแน่ใจว่าหายไปเขาจึงมาบอกผม ผมก็สงสัยนะว่าทำไมเขารู้ว่าหายไปไม่ถามผมตั้งแต่แรก แต่กลับมาบอกตอนเย็น จากนั้นผมเองก็เล่าเหตุการณ์เสียงประหลาดระหว่างที่บูชาพระธาตุให้พวกเขาฟัง พวกเขาได้แต่ตื่นตะลึงขนลุกแต่ผมเองกลับประหลาดใจว่าคืออะไรมากกว่าและพยายามหาเหตุความเป็นไปได้ต่างๆนานามากกว่าความมหัศจรรย์
จนกระทั่งทุกวันนี้ผมยังหาสาเหตุไม่ได้จริงๆว่าเสียงนั่นมาจากไหน(ซึ่งผมสรุปว่าผมคงหูแว่ว) ส่วนเรื่องพวงมาลัยที่บูชาพระธาตุหายนี่คิดไม่ออกเรื่องเหตุผลจริงๆว่าหายไปได้อย่างไรในสภาพของห้องนอนที่มีแต่จุดอับทางเข้าออกทางเดียว ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังคงเป็นปริศนาอยู่ตลอดมา.
ป.ล. นี่คือเรื่องที่คิดว่าอัศจรรย์ ก็อาจจะใช่ จะคิดว่าเป็นเรื่องประหลาดก็ ใช่อีก แต่ด้วยเรื่องพวกนี้ไม่ได้เกิดขึ้นกับผมทุกวันผมจึงเชื่อว่ามันเป็นปาฏิหารย์ตราบใดที่ผมยังหาทางพิสูจน์ในแง่เหตุและผลที่มาที่ไปไม่ได้ และปัจจุบันเพื่อนของผมหวงแหนพระธาตุดังกล่าวมากจะเปิดให้กับคนที่สนิทกันเข้ากราบไห้วบูชาเท่านั้น ส่วนตัวผมบอกตรงๆผมยังไม่รู้เลยว่าสิ่งนั้นเป็นพระธาตุจริงๆหรือไม่ นอกจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผม.