การหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่า กทม. ที่ผ่านมา สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดจากข่าวต่าง ๆ ที่ออกมาตามสื่อ คือเรื่องของการพยายามแบ่งแยกหัวเมืองต่าง ๆ ให้เห็นชัดเจนมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องยึดเมืองหลวงของพรรคเพื่อไทย หรือการสร้างความรังเกียจ "คนที่มาจากถิ่นอื่น" (จากข่าวลือที่ว่า ถ้าเพื่อไทยได้เป็นผู้ว่า จตุพร มาแน่) จะเข้ามาเป็นรองผู้ว่า
     ปชป.ใช้ทุกวิถีทางในการสร้างภาพของความน่ากลัวว่า ถ้า พรรคเพื่อไทยได้ผู้สมัครเป็นผู้ว่า กทม. แล้วเมืองหลวงของไทยต้องตกเป็นเมืองขึ้นของหัวเมืองทางเหนือแน่นอน (เมืองเชียงใหม่ หรือ เมืองล้านนาในอดีต)
     ปชป.พยายามที่จะใช้ประวัติศาสตร์ ในอดีตเข้ามาแบ่งแยกทางความคิดความเชื่อ ของคนในเมืองหลวง ให้กลัวคนทางหัวเมืองต่าง ๆ เข้ามายึดเมือง พยายามมองคนหัวเมืองต่าง ๆ เหมือนกับไม่ใช่คนไทย มองคนหัวเมืองเหมือนกับเป็นคนไม่มีความรู้ คนโ  ง่ มีแต่การโกงกิน ไม่เจริญ มองเหมือนคนทางเหนือเป็นเหมือนพม่า(อนาจักรล้านนา) มองคนอีสานเหมือนคนลาว(อนาจักรล้านช้าง) ทางใต้พยายามไม่ฉายภาพให้เห็นเพราะเป็นที่มั่นของตัวเอง
     ปลุ่กปั่นคนกลุงให้กลัวคนหัวเมือง(คนบ้านนอก) เข้ามาเป็นผู้นำในการพัฒนาเมืองหลวงของประเทศ บางครั้งคนกรุงเองตังหากที่เป็นกบในกลาที่ไม่ยอมมองออกไปข้างนอก บ้านเมืองเขาไปไกลแล้ว อาจเป็นเพราะกรุงเทพฯ "เจริญเกิน"เจริญแต่วัตถุ) จนคนกรุงไม่ยอมมองออกไปข้างนอก มองแต่ในบ้านของตัวเอง กอดบ้านของตัวเองเพื่อไม่ให้คนข้างนอกเข้ามาปัดกวาดช่วย ทั่ง ๆ ที่คนในบ้านตัวเองก็ไม่ได้ดีเลิศที่จะช่วยกันปัดกวาดบ้านของตัวเองให้สะอาด มีระเบียบ มัวแต่กลัวคนอื่นจะเข้ามายึดครอง
     ไม่แปลกเลยครับที่คนกรุงเขามักมีพฤติกรรมแปลก ๆ เช่น การหวงสมบัติ หวงสิ่งของต่าง ๆ ที่มีอยู่ หวงทุกอย่าง เก็บตัวเองไว้แต่ในบ้าน ไม่คบหาเพื่อนบ้าน น้ำใจก็หายากมากในกรุง บ้านรั้วติดกันไม่รู้จักกัน ฯลฯ จนเกิดเป็นความตระหนี่
      ถ้า ปชป.ยังมีแนวคิดแบบนี้ ก็ไม่แน่นะครับ อาจมีแนวคิด สร้างมหานคร ที่มาจากหัวเมืองต่าง ๆ ให้เหมือนกับกรุงเทพฯ มหานครล้านนา มหานครล้านช้าง ไม่แน่นะครับ ""กรุงเทพไม่ใช่ประเทศไทย""