คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เค้าได้ขอโทษคุณรึเปล่าครับ ถ้าเค้าขอโทษผมว่าก็ยอมๆไปเหอะ สมมุติคุณขายของ มีลูกค้าเอาของจากข้างนอกเข้ามาแล้วมีสินค้าเหมือนร้านคุณ คุณก็สงสัยและขอตรวจสอบ ผมว่าธรรมดานะ ทางที่ดีคุณไม่ควรเอาของที่ซื้อแล้วเดินกลับเข้าไปใหม่ แล้วก็ถ้าจำเป็นจริงๆก็ควรเอาใบเสร็จไปด้วย เพื่อยืนยันเป็นหลักฐาน
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
สุขภาพจิต
คุ้มครองผู้บริโภค
ที่แท้ก็แบบนี้นี่เอง Big c
คือวันนี้เราไปซื้อของที่บิ๊กซี ๒ สาขาค่ะ สาขาแรกเราซื้อของเสร็จแล้วตรวจสอบใบเสร็จปรากฏว่าราคาไม่ตรงกัน เราจึงขอคืนสินค้า และพนักงานได้ฉีกใบเสร็จของเราไปครึ่งหนึ่ง แต่เอาส่วนคูปองคืนมาให้เรา (ด้วยความสะเพร่าของเราเอง ที่ไม่ได้ขอใบเสร็จเค้าไว้)
จากนั้นเราก็กลับบ้าน และนึกได้ว่ายังไม่ได้ซื้อของบางอย่างจึงได้แวะ บิ๊กซี สาขาใกล้ๆบ้าน เราได้เอาของที่ซื้อจากบิ๊กซี สาขาแรกเข้าไปด้วย (อาจเป็นความผิดของเราเองที่ ถือของเข้าไป TT)เพราะเราคิดเอาเองว่า ของจากบิ๊กซี เหมือนกันเค้าน่าจะให้เอาเค้าไปได้ ก่อนหน้านี้เราก้เคยถือของบิ๊กซีคนละสาขาเข้าไป แต่ก้ไม่มีปัญหาอะไร
เราเดินดูของที่เราต้องการไปเรื่อยเปื่อย แต่เราไม่ได้แปลกใจ ว่าทำไมถึงมีพนักงานยืนถือวิทยุมากมาย รอบๆตัวเราและคุยวิทยุตอบโต้กันไปมา จนตอนเราซื้อของเสร็จมาจ่ายเงิน ก็มีพนักงานเดินเข้ามา แล้วบอกว่าขอตรวจค้นสิ้นค้าหน่อย ตอนนั้นเราเลยถึงบางอ้อ ว่า "ที่แท้เค้าก้คิดว่าเราจะขโมยของนี่เอง" เราก็รอเค้าตรวจสอบสิ้นค้าอยู่นานจนเหมือนจะไม่ได้คำตอบว่า เราเป็นผู้บริสุทธิ์หรือเป็นขโมยกันแน่ จนเราบอกเค้าว่า "ตรวจจากกล้องวงจรปิดก็ได้ค่ะ ว่าขโมยของหรือเปล่า" เค้าบอกว่ากรณีแบบเราเกิดขี้นบ่อย เค้าจึงต้องตรวจสอบ แล้วเค้าก็บอกว่าจะไปตรวจจากกล้องวงจรปิดให้
ปล.เราไม่ได้รู้สึกแย่ที่ต้องเสียเวลารอนาน แต่เรารู้สึกแย่ตรงที่เค้าทำเหมือนเราเป็นขโมยค่ะ