วันนี้พบข่าวShareจากFacebook เนื้อความดังนี้
-----
...เตือนภัย!!!!! คนที่ชอบกินอาหารญี่ปุ่นจำพวกปลาดิบซูชิปลาดิบ ปลาร้า!!!!!ระวังให้ดี...
จากแพทย์ญี่ปุ่นซึ่งได้ทำการผ่าตัดสมองของผู้ป่วยรายหนึ่งเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง
ผู้ป่วยคนนี้ ชื่อ โชตะ ฟูจิวาราอยู่ในเมืองกิฟูประเทศญี่ปุ่นเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมาอย่างต่อเนื่องด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง และต่อเนื่องมานับกว่า 3 ปีจากการสอบประวัติในเบื้องต้น พบว่าคนไข้เป็นนักกินปลาดิบตัวยง ไม่ว่าจะเป็นการกินแบบมื้อหลักหรือมื้อรอง กินปลาดิบไปก็ปวดหัวแม้จะพยายาม หายากินเองหรือไปหาหมอพบแพทย์ก็ยังไม่หายปวดหัวเสียทีและยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่อาหารปวดหัวข้างเดียวที่เรียกกันว่าไมเกรนหลังสุดคุณหมอที่รับการรักษาชัก จะงงหนักเข้าไปทุกทีไม่ว่าจะให้ยาชนิดไหนแบบใดก็ไม่หายซะที จึงจับนายฟูจิวาราเข้าไปเอ็กซ์เรย์อย่างเป็นเรื่องเป็นราวแต่ก็ไม่เห็นผลอะไรได้ชัดเจน
คุณหมอก็ยิ่งงงหนักเข้าไปอีกอาจด้วยไหวพริบของคุณหมอเองไปสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวอะไรแบบขะหยุกขะหยิกอยู่ที่ผิวหนังบนศีรษะของคนไข้ นั่นแหละที่ทำให้คุณหมอจับคุณฟูจิวาราเข้าห้องผ่าตัดให้ ยาสลบแล้วก็ผ่ากะโหลกตรวจสอบตอนนี้ที่เกือบทำให้คุณหมอพลอยสลบตามคุณฟูจิวาราไปด้วยเพราะไปเจอกับเจ้าพยาธิกองเบ้อเริ่มคลานกันยั้วเยี๊ยะอยู่ตามเนื้อสมองพร้อมกับ ไข่ที่เกลื่อนเต็มไปหมดถึงภาพและ เรื่องนี้จะยังไม่ได้รับการยืนยันชัดเจนจากหน่วยงานทางการแพทย์ของญี่ปุ่นแต่ภาพที่คณะแพทย์ได้ทำการถ่ายทำไว้พร้อมกับส่งผ่านมาถึง เพื่อนๆแพทย์ในเมืองไทยทำให้ชวนวิตกกับนักกินปลาดิบชาวไทยยิ่งนักเพราะอาการ กับภาพถ่ายที่ปรากฎนี้ไม่ได้ต่างกับที่เคยพบจากคนไข้จำนวนมากในเขตภาคอีสานซึ่งมักนิยมรับทานปลาดิบ ปลาร้า หรืออาหารดิบอื่นๆซึ่งมีผลที่ไม่แตกต่างกันก็ยิ่งน่าวิตกหนักขึ้นไปอีก
อยากรู้ว่า มันหนีจากกระเพาะขึ้นไปสมองได้อย่างไร
ไข่พยาธิเล็กมาก ถูกดูดซึมทางลำไส้ ปะปนไปกับกระแสเลือด?????
(แบบนี้ก็ไม่น่าจะอยู่แค่สมองสิ)
พยาธิหนีจากกระเพาะขึ้นสมองได้อย่างไร(มีภาพประกอบ)
-----
...เตือนภัย!!!!! คนที่ชอบกินอาหารญี่ปุ่นจำพวกปลาดิบซูชิปลาดิบ ปลาร้า!!!!!ระวังให้ดี...
จากแพทย์ญี่ปุ่นซึ่งได้ทำการผ่าตัดสมองของผู้ป่วยรายหนึ่งเข้าโรงพยาบาลด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง
ผู้ป่วยคนนี้ ชื่อ โชตะ ฟูจิวาราอยู่ในเมืองกิฟูประเทศญี่ปุ่นเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลมาอย่างต่อเนื่องด้วยอาการปวดศีรษะอย่างรุนแรง และต่อเนื่องมานับกว่า 3 ปีจากการสอบประวัติในเบื้องต้น พบว่าคนไข้เป็นนักกินปลาดิบตัวยง ไม่ว่าจะเป็นการกินแบบมื้อหลักหรือมื้อรอง กินปลาดิบไปก็ปวดหัวแม้จะพยายาม หายากินเองหรือไปหาหมอพบแพทย์ก็ยังไม่หายปวดหัวเสียทีและยิ่งหนักขึ้นเรื่อยๆ แม้แต่อาหารปวดหัวข้างเดียวที่เรียกกันว่าไมเกรนหลังสุดคุณหมอที่รับการรักษาชัก จะงงหนักเข้าไปทุกทีไม่ว่าจะให้ยาชนิดไหนแบบใดก็ไม่หายซะที จึงจับนายฟูจิวาราเข้าไปเอ็กซ์เรย์อย่างเป็นเรื่องเป็นราวแต่ก็ไม่เห็นผลอะไรได้ชัดเจน
คุณหมอก็ยิ่งงงหนักเข้าไปอีกอาจด้วยไหวพริบของคุณหมอเองไปสังเกตเห็นการเคลื่อนไหวอะไรแบบขะหยุกขะหยิกอยู่ที่ผิวหนังบนศีรษะของคนไข้ นั่นแหละที่ทำให้คุณหมอจับคุณฟูจิวาราเข้าห้องผ่าตัดให้ ยาสลบแล้วก็ผ่ากะโหลกตรวจสอบตอนนี้ที่เกือบทำให้คุณหมอพลอยสลบตามคุณฟูจิวาราไปด้วยเพราะไปเจอกับเจ้าพยาธิกองเบ้อเริ่มคลานกันยั้วเยี๊ยะอยู่ตามเนื้อสมองพร้อมกับ ไข่ที่เกลื่อนเต็มไปหมดถึงภาพและ เรื่องนี้จะยังไม่ได้รับการยืนยันชัดเจนจากหน่วยงานทางการแพทย์ของญี่ปุ่นแต่ภาพที่คณะแพทย์ได้ทำการถ่ายทำไว้พร้อมกับส่งผ่านมาถึง เพื่อนๆแพทย์ในเมืองไทยทำให้ชวนวิตกกับนักกินปลาดิบชาวไทยยิ่งนักเพราะอาการ กับภาพถ่ายที่ปรากฎนี้ไม่ได้ต่างกับที่เคยพบจากคนไข้จำนวนมากในเขตภาคอีสานซึ่งมักนิยมรับทานปลาดิบ ปลาร้า หรืออาหารดิบอื่นๆซึ่งมีผลที่ไม่แตกต่างกันก็ยิ่งน่าวิตกหนักขึ้นไปอีก
อยากรู้ว่า มันหนีจากกระเพาะขึ้นไปสมองได้อย่างไร
ไข่พยาธิเล็กมาก ถูกดูดซึมทางลำไส้ ปะปนไปกับกระแสเลือด?????
(แบบนี้ก็ไม่น่าจะอยู่แค่สมองสิ)