งาน 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย ซึ่งได้รับการอุปถัมภ์โดยซาน เพลเลกริโนกับอาคัว พานนา และจัดรายการโดยบริษัทวิลเลียม รีด บีซีเนส มีเดีย ได้ประกาศให้ร้านอาหารน้ำของเชฟเดวิด ทอมป์สันได้รับรางวัลของซาน เพลเลกริโนในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในประเทศไทย ร้านอาหารน้ำยังได้เข้าอยู่ในลำดับสูงสุดในรายนาม 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย คือติดอันดับที่ 3
การประกาศผลรางวัลให้ประเทศไทยนี้เป็นการประกาศเกียรติคุณว่าอาหารไทยนับวันยิ่งเป็นที่ชื่นชอบ ซึ่งประจักษ์ชัดขึ้นอีกโดยเห็นได้จากความสำเร็จของคุณดวงพรหรือคุณ “โบ” ทรงวิศวะ ที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้รับรางวัลของ Veuve Clicquot ในฐานะเชฟสตรีที่ดีที่สุดในเอเชีย
สำหรับประเทศไทยมีร้านอาหารไทยติด 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย ทั้งสิ้นจำนวน 5 ร้าน ได้แก่
1. ร้านอาหารน้ำ โดยเชฟเดวิด ทอมป์สัน ที่มีสูตรอาหารต้นตำรับไทยแบบดั่งเดิม ได้รับรางวัลของซาน เพลเลกริโน ในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในประเทศไทย และติดอันดับ 3 ใน 50 อันดับร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย
2. ร้านกากกันหรือ Gaggan ติดอับดับที่ 10 สร้างสรรค์อาหารอินเดียตำรับใหม่ดัดแปลงสูตรอาหารอินเดียคลาสสิค ปรุงใหม่ด้วยกรรมวิธีการปรุงอาหารแบบ molecular gastronomy.
3. ร้าน Eat Me ติดอันดับที่ 19
4. ร้านสระบัว บาย กินกิน ติดอันดับที่ 29
5. ร้านโบ.ลาน ติดอันดับที่ 36 โดยเชฟโบ หรือคุณดวงพร ทรงวิศวะ ด้วยสูตรอาหารต้นตำรับไทย และความพิถีพิถันในการปรุงและตกแต่งอาหาร พร้อมรับรางวัลของ Veuve Clicquot เชฟสตรีที่ดีที่สุดในเอเชียมาครอง
ผู้ได้รับรางวัลตามที่ได้มีการประกาศผล ได้แก่
ร้าน Narisawa รับรางวัลซาน เพลเลกริโนในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียและญี่ปุ่น
คุณโยชิฮิโร นาริซาวะหรือ Yoshihiro Narisawa เป็นเจ้าของร้านอาหารที่สวยหรูได้ด้วยศิลปะการตกแต่งอย่างน้อยชิ้น มีพนักงานใส่สูทบริการอาหารที่เน้นธรรมชาติ เตรียมมาอย่างประณีต โดยใช้เครื่องปรุงเลือกตามฤดูกาลจากตู้ครัวญี่ปุ่นที่พร้อมสรรพ เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งขององค์ประกอบที่ทำให้เกิดผลงานซึ่งคุณนาริซาวะ ทุ่มเทชีวิตให้จนได้รางวัลดีเด่นนี้มา ทว่า สิ่งที่ผลักดันให้ร้านอาหารดังกล่าวนี้ได้เป็นร้านอาหารยอดเยี่ยมมาจากการที่เขามีจินตนาการแปลกแหวกแนวและไหวพริบในเรื่องการแสดง
เชฟนาริซาวะ อุทิศตัวเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและรักธรรมชาติอย่างเป็นชีวิตจิตใจ สำหรับร้านอาหารที่กรุงโตเกียวที่ตั้งตามชื่อของเขาเอง เชฟนาริซาวะใช้การผสมผสานกรรมวิธีการทำอาหารแบบคลาสสิคของฝรั่งเศสกับการตกแต่งเน้นหนักให้สวยงามด้วยดอกไม้ ผลสุดท้ายทำให้ เชฟนาริซาวะได้มอบผลงานอันเลอเลิศที่สำแดงให้เป็นที่ประจักษ์ถึงธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ของชาติ
แจนนิส วองหรือ Janice Wong รับรางวัลเชฟด้านขนมปิ้งหรือเพสตรีที่ดีที่สุดในเอเชียซึ่งอุปถัมภ์โดย Cacao Barry
แจนนิส วองหรือ Janice Wong เป็นเจ้าของร้านตีสองหรือ 2am ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายอาหารหวานในสิงคโปร์ เธอได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณนี้เนื่องด้วยความคิดสร้างสรรค์และผลงานที่ทำให้บรรดาผู้ลิ้มชิมอาหารหวานได้ทั้งรูป-รส-กลิ่น-เสียงและสัมผัสหรือ multi-sensory อีกทั้งประสานกับการลองใช้รสเปรี้ยวหวาน ซึ่งเธอได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ตอนวัยเด็กในฮ่องกง สิงคโปร์และญี่ปุ่น
ร้าน JAAN รับรางวัลที่น่าจับตามองที่สุดหรือ ‘One To Watch’ อุปถัมภ์โดย LesConcierges
ร้าน JAAN เป็นร้านอาหารบรรยากาศอบอุ่น มี 40 ที่นั่ง มุ่งมั่นที่จะโชว์ผลงานอาหารเลิศหรูแบบฝรั่งเศสยุคสมัยใหม่สำหรับในประเทศสิงคโปร์ ทิวทัศน์จากชั้นที่ 70 ทำให้ต้องอ้าปากค้างทีเดียว ซึ่งเข้ากันด้วยดีกับอาหารที่มีลวดลายในการจัดแต่งและประกอบมาอย่างประณีต แล้วจึงออกปรากฏตัวจากครัวของ Julien Royer หัวหน้าประจำครัว รางวัลที่น่าจับตามองที่สุดหรือ . ‘One To Watch’ ให้สำหรับสถานบริการอาหารที่ติดอยู่ในรายนาม 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย ที่บรรดาผู้จัดรายการเชื่อว่าเป็นร้านอาหารที่สร้างความประทับใจอย่างมากแม้ภายในระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งยังมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาติดอันดับที่สูงยิ่งขึ้น
Seiji Yamamoto รับรางวัลขวัญใจของเชฟ ซึ่งอุปถัมภ์โดย Silestone by Cosentino
เซอิจี ยามาโมโต้หรือ Seiji Yamamoto เคยได้รับประกาศเกียรติคุณจากเชฟร่วมสมัยในวงการอุตสาหกรรมอาหารเอเชียในเรื่องการสร้างความแปลกใหม่ให้กับอาหารญี่ปุ่นด้วยการผสมผสานกรรมวิธีดั้งเดิมกับสมัยใหม่ ทำให้เกิดรูปแบบใหม่ให้อาหารญี่ปุ่น เชฟยามาโมโต้เสกสรรค์อาหารให้เกิดความแปลกใหม่สุดๆ โดยทำตามปรัชญาการ “ไขว่คว้าหาทุกสิ่งที่เป็นไปได้ให้กับอนาคตอาหารญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นแนวที่นำมาใช้ในร้าน Nihonryori RyuGin (อันดับที่ 2) ร้านอาหารของเขาที่ตั้งอยู่ในเขต Roppongi ของกรุงโตเกียว
นอกจากนั้นยังมีผู้ที่ติดอยู่ในรายนามดังกล่าวด้วยคือ ร้าน Paul Pairet ของมิสเตอร์และมิสซิส Bund (อันดับที่ 7) ร้าน Ultraviolet (อันดับที่ 8) จากจีน ผู้ได้รับรางวัลความสำเร็จตลอดชีพหรือ Lifetime Achievement Award ซึ่งอุปถัมภ์โดย Johnnie Walker Blue Label
ประเทศจีนมีความภาคภูมิใจที่มีร้านอาหาร 16 แห่งที่ติดอันดับใน 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยมีร้าน Amber (อันดับที่ 4) ที่ฮ่องกง ได้รับเลือกให้รับรางวัลของ ซาน เพลเลกริโนในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในจีน ริชาร์ด เอกเคอบัสหรือ Richard Ekkebus หัวหน้าห้องครัวนำร้าน Amber ก้าวสูงขึ้นในด้านศิลปะการทำอาหารแบบใหม่และครองอันดับใน 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกเป็นเวลาสองปีติดๆกัน ผลงานสร้างสรรค์ของเขาแสดงให้เห็นว่าฮ่องกงเป็นทางแยกด้านวัฒนธรรมระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก ด้วยอาหารที่ล้วนแล้วแต่จัดแต่งด้วยกลิ่นไอของความพิเศษพิสดาร
รายที่ตามหลังประเทศจีนมาติดๆคือประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีร้านอาหาร 10 แห่ง ติดอันดับคือ ภัตตาคาร Andre (อันดับที่ 5) ผู้ได้รับรางวัลของซาน เพลเลกริโนในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในสิงคโปร์ เมนูอาหารของเชฟเจียงหรือ Chiang ได้รับแรงบันดาลใจแบบเมดิเตอร์เรเนียน ประกอบด้วยคุณค่าที่ล้นไหลออกมา ดั่งคุณค่าที่เรียกว่าปรัชญาทั้งแปดหรือ ‘octaphilosphy’ ซึ่งเป็นคำที่เชฟเจียงใช้บอกลักษณะอาหารที่เขาปรุง อันได้แก่ ความมีเอกลักษณ์ เด่นในตัวเนื้ออาหาร ทิ้งความทรงจำให้ มีความบริสุทธิ์ เป็นอาหารท้องถิ่น ใช้เกลือ ลักษณะของดินแดนทางใต้ และศิลปะงานฝีมือ
ร้านอาหารในอินเดียทำคะแนนเข้าไปติดอันดับใน ใน 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยมีร้าน 7 แห่งที่เข้าติดอันดับ ร้าน Dum Pukht (อันดับที่ 17) ได้รับเลือกให้รับรางวัลของ ซาน เพลเลกริโนในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในอินเดีย Dum Pukht ศึกษาธรรมเนียมดั้งเดิมในการทำเนื้อย่างคะบับหรือ kebab สตูและ ข้าวหมกหรือ biryani ในหม้อดินที่ปิดแน่นและตั้งบนไฟอ่อน การทำอาหารด้วยหม้อดินกำเนิดมาจากจาก เมือง Lucknow สมัยราชอาณาจักร Awadh เมื่อศตวรรษที่ 18 จนมาถึงจุดรุ่งโรจน์อีกครั้งหนึ่งตอนนี้เอง
ร้านอาหารในศรีลังกา เวียดนามและอินโดนีเซีย ได้มาออกโรงในงาน ใน 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยมีร้าน Nihonbashi ในกรุงโคลัมโบติดอันดับ ที่ 38 ตามด้วยร้าน Don’s ในกรุงฮานอยในอันดับที่ 47และร้าน Mozaic ที่เกาะบาหลีในอันดับที่ 50
ร้าน Nihonbashi เป็นผลงานความคิดของ Dharshan Munidasa เชฟผู้เป็นเจ้าของร้านอาหาร ผู้นำประสบการณ์กับอาหารหรูชั้นสูงที่เน้นหนักทางอาหารซูชิและซาชิมิมาใช้ เสริมด้วยความรู้ด้านต่างๆจากการประกอบอาหารญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักกันดี
ร้าน Don’s บริการอาหารทั้งประเภทคลาสสิคและนานาชาติแนวแปลกใหม่ ด้วยเมนูที่ครอบคลุมศิลปะการปรุงอาหารทุกประเภทตั้งแต่อาหารพาสต้า ริซ็อตโต้ สเต๊ก เนื้อหั่นหรือ chop ซุปและสลัด ไปจนถึงอาหารจานโปรดของเวียดนามและเอเชีย
คริส ซาลานส์หรือ Chris Salans เป็นเชฟที่ ร้าน Mozaic มีเชื้อสายครึ่งฝรั่งเศสครึ่งอเมริกัน ร่วมกันกับภรรยาชาวชวาทำการผสมผสานกรรมวิธีการทำอาหารฝรั่งเศสให้เข้ากับเครื่องปรุงและรสชาติพร้อมสรรพนานาชนิดของอินโดนีเซีย
โยชิฮิโร นาริซาวะหรือ Yoshihiro Narisawa เจ้าของและหัวหน้าเชฟของร้านนาริซาวะ ร้านอาหารจากกรุงโตเกียวที่ได้รับรางวัล เคยได้รับประกาศเกียรติคุณติดอันดับใน 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งอุปถัมภ์โดยซาน เพลเลกริโนกับอาคัว พานนา ติดๆกันเป็นเวลาถึงสี่ปีและยังได้รับรางวัลของอาคัว พานนา ในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียเป็นเวลาสามปีติดต่อกัน
50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียประกาศให้ร้านอาหารน้ำ ได้รับรางวัลซาน เพลเลกริโน ในฐานะร้านที่ดีที่สุดในไทย
การประกาศผลรางวัลให้ประเทศไทยนี้เป็นการประกาศเกียรติคุณว่าอาหารไทยนับวันยิ่งเป็นที่ชื่นชอบ ซึ่งประจักษ์ชัดขึ้นอีกโดยเห็นได้จากความสำเร็จของคุณดวงพรหรือคุณ “โบ” ทรงวิศวะ ที่ได้รับเลือกให้เป็นผู้รับรางวัลของ Veuve Clicquot ในฐานะเชฟสตรีที่ดีที่สุดในเอเชีย
สำหรับประเทศไทยมีร้านอาหารไทยติด 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย ทั้งสิ้นจำนวน 5 ร้าน ได้แก่
1. ร้านอาหารน้ำ โดยเชฟเดวิด ทอมป์สัน ที่มีสูตรอาหารต้นตำรับไทยแบบดั่งเดิม ได้รับรางวัลของซาน เพลเลกริโน ในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในประเทศไทย และติดอันดับ 3 ใน 50 อันดับร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย
2. ร้านกากกันหรือ Gaggan ติดอับดับที่ 10 สร้างสรรค์อาหารอินเดียตำรับใหม่ดัดแปลงสูตรอาหารอินเดียคลาสสิค ปรุงใหม่ด้วยกรรมวิธีการปรุงอาหารแบบ molecular gastronomy.
3. ร้าน Eat Me ติดอันดับที่ 19
4. ร้านสระบัว บาย กินกิน ติดอันดับที่ 29
5. ร้านโบ.ลาน ติดอันดับที่ 36 โดยเชฟโบ หรือคุณดวงพร ทรงวิศวะ ด้วยสูตรอาหารต้นตำรับไทย และความพิถีพิถันในการปรุงและตกแต่งอาหาร พร้อมรับรางวัลของ Veuve Clicquot เชฟสตรีที่ดีที่สุดในเอเชียมาครอง
ผู้ได้รับรางวัลตามที่ได้มีการประกาศผล ได้แก่
ร้าน Narisawa รับรางวัลซาน เพลเลกริโนในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียและญี่ปุ่น
คุณโยชิฮิโร นาริซาวะหรือ Yoshihiro Narisawa เป็นเจ้าของร้านอาหารที่สวยหรูได้ด้วยศิลปะการตกแต่งอย่างน้อยชิ้น มีพนักงานใส่สูทบริการอาหารที่เน้นธรรมชาติ เตรียมมาอย่างประณีต โดยใช้เครื่องปรุงเลือกตามฤดูกาลจากตู้ครัวญี่ปุ่นที่พร้อมสรรพ เหล่านี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งขององค์ประกอบที่ทำให้เกิดผลงานซึ่งคุณนาริซาวะ ทุ่มเทชีวิตให้จนได้รางวัลดีเด่นนี้มา ทว่า สิ่งที่ผลักดันให้ร้านอาหารดังกล่าวนี้ได้เป็นร้านอาหารยอดเยี่ยมมาจากการที่เขามีจินตนาการแปลกแหวกแนวและไหวพริบในเรื่องการแสดง
เชฟนาริซาวะ อุทิศตัวเป็นนักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและรักธรรมชาติอย่างเป็นชีวิตจิตใจ สำหรับร้านอาหารที่กรุงโตเกียวที่ตั้งตามชื่อของเขาเอง เชฟนาริซาวะใช้การผสมผสานกรรมวิธีการทำอาหารแบบคลาสสิคของฝรั่งเศสกับการตกแต่งเน้นหนักให้สวยงามด้วยดอกไม้ ผลสุดท้ายทำให้ เชฟนาริซาวะได้มอบผลงานอันเลอเลิศที่สำแดงให้เป็นที่ประจักษ์ถึงธรรมชาติอันสวยงามและอุดมสมบูรณ์ของชาติ
แจนนิส วองหรือ Janice Wong รับรางวัลเชฟด้านขนมปิ้งหรือเพสตรีที่ดีที่สุดในเอเชียซึ่งอุปถัมภ์โดย Cacao Barry
แจนนิส วองหรือ Janice Wong เป็นเจ้าของร้านตีสองหรือ 2am ซึ่งเป็นร้านจำหน่ายอาหารหวานในสิงคโปร์ เธอได้รับรางวัลประกาศเกียรติคุณนี้เนื่องด้วยความคิดสร้างสรรค์และผลงานที่ทำให้บรรดาผู้ลิ้มชิมอาหารหวานได้ทั้งรูป-รส-กลิ่น-เสียงและสัมผัสหรือ multi-sensory อีกทั้งประสานกับการลองใช้รสเปรี้ยวหวาน ซึ่งเธอได้รับแรงบันดาลใจจากประสบการณ์ตอนวัยเด็กในฮ่องกง สิงคโปร์และญี่ปุ่น
ร้าน JAAN รับรางวัลที่น่าจับตามองที่สุดหรือ ‘One To Watch’ อุปถัมภ์โดย LesConcierges
ร้าน JAAN เป็นร้านอาหารบรรยากาศอบอุ่น มี 40 ที่นั่ง มุ่งมั่นที่จะโชว์ผลงานอาหารเลิศหรูแบบฝรั่งเศสยุคสมัยใหม่สำหรับในประเทศสิงคโปร์ ทิวทัศน์จากชั้นที่ 70 ทำให้ต้องอ้าปากค้างทีเดียว ซึ่งเข้ากันด้วยดีกับอาหารที่มีลวดลายในการจัดแต่งและประกอบมาอย่างประณีต แล้วจึงออกปรากฏตัวจากครัวของ Julien Royer หัวหน้าประจำครัว รางวัลที่น่าจับตามองที่สุดหรือ . ‘One To Watch’ ให้สำหรับสถานบริการอาหารที่ติดอยู่ในรายนาม 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย ที่บรรดาผู้จัดรายการเชื่อว่าเป็นร้านอาหารที่สร้างความประทับใจอย่างมากแม้ภายในระยะเวลาอันสั้น อีกทั้งยังมีศักยภาพที่จะก้าวขึ้นมาติดอันดับที่สูงยิ่งขึ้น
Seiji Yamamoto รับรางวัลขวัญใจของเชฟ ซึ่งอุปถัมภ์โดย Silestone by Cosentino
เซอิจี ยามาโมโต้หรือ Seiji Yamamoto เคยได้รับประกาศเกียรติคุณจากเชฟร่วมสมัยในวงการอุตสาหกรรมอาหารเอเชียในเรื่องการสร้างความแปลกใหม่ให้กับอาหารญี่ปุ่นด้วยการผสมผสานกรรมวิธีดั้งเดิมกับสมัยใหม่ ทำให้เกิดรูปแบบใหม่ให้อาหารญี่ปุ่น เชฟยามาโมโต้เสกสรรค์อาหารให้เกิดความแปลกใหม่สุดๆ โดยทำตามปรัชญาการ “ไขว่คว้าหาทุกสิ่งที่เป็นไปได้ให้กับอนาคตอาหารญี่ปุ่น” ซึ่งเป็นแนวที่นำมาใช้ในร้าน Nihonryori RyuGin (อันดับที่ 2) ร้านอาหารของเขาที่ตั้งอยู่ในเขต Roppongi ของกรุงโตเกียว
นอกจากนั้นยังมีผู้ที่ติดอยู่ในรายนามดังกล่าวด้วยคือ ร้าน Paul Pairet ของมิสเตอร์และมิสซิส Bund (อันดับที่ 7) ร้าน Ultraviolet (อันดับที่ 8) จากจีน ผู้ได้รับรางวัลความสำเร็จตลอดชีพหรือ Lifetime Achievement Award ซึ่งอุปถัมภ์โดย Johnnie Walker Blue Label
ประเทศจีนมีความภาคภูมิใจที่มีร้านอาหาร 16 แห่งที่ติดอันดับใน 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยมีร้าน Amber (อันดับที่ 4) ที่ฮ่องกง ได้รับเลือกให้รับรางวัลของ ซาน เพลเลกริโนในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในจีน ริชาร์ด เอกเคอบัสหรือ Richard Ekkebus หัวหน้าห้องครัวนำร้าน Amber ก้าวสูงขึ้นในด้านศิลปะการทำอาหารแบบใหม่และครองอันดับใน 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลกเป็นเวลาสองปีติดๆกัน ผลงานสร้างสรรค์ของเขาแสดงให้เห็นว่าฮ่องกงเป็นทางแยกด้านวัฒนธรรมระหว่างโลกตะวันออกและตะวันตก ด้วยอาหารที่ล้วนแล้วแต่จัดแต่งด้วยกลิ่นไอของความพิเศษพิสดาร
รายที่ตามหลังประเทศจีนมาติดๆคือประเทศสิงคโปร์ ซึ่งมีร้านอาหาร 10 แห่ง ติดอันดับคือ ภัตตาคาร Andre (อันดับที่ 5) ผู้ได้รับรางวัลของซาน เพลเลกริโนในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในสิงคโปร์ เมนูอาหารของเชฟเจียงหรือ Chiang ได้รับแรงบันดาลใจแบบเมดิเตอร์เรเนียน ประกอบด้วยคุณค่าที่ล้นไหลออกมา ดั่งคุณค่าที่เรียกว่าปรัชญาทั้งแปดหรือ ‘octaphilosphy’ ซึ่งเป็นคำที่เชฟเจียงใช้บอกลักษณะอาหารที่เขาปรุง อันได้แก่ ความมีเอกลักษณ์ เด่นในตัวเนื้ออาหาร ทิ้งความทรงจำให้ มีความบริสุทธิ์ เป็นอาหารท้องถิ่น ใช้เกลือ ลักษณะของดินแดนทางใต้ และศิลปะงานฝีมือ
ร้านอาหารในอินเดียทำคะแนนเข้าไปติดอันดับใน ใน 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยมีร้าน 7 แห่งที่เข้าติดอันดับ ร้าน Dum Pukht (อันดับที่ 17) ได้รับเลือกให้รับรางวัลของ ซาน เพลเลกริโนในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในอินเดีย Dum Pukht ศึกษาธรรมเนียมดั้งเดิมในการทำเนื้อย่างคะบับหรือ kebab สตูและ ข้าวหมกหรือ biryani ในหม้อดินที่ปิดแน่นและตั้งบนไฟอ่อน การทำอาหารด้วยหม้อดินกำเนิดมาจากจาก เมือง Lucknow สมัยราชอาณาจักร Awadh เมื่อศตวรรษที่ 18 จนมาถึงจุดรุ่งโรจน์อีกครั้งหนึ่งตอนนี้เอง
ร้านอาหารในศรีลังกา เวียดนามและอินโดนีเซีย ได้มาออกโรงในงาน ใน 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชีย โดยมีร้าน Nihonbashi ในกรุงโคลัมโบติดอันดับ ที่ 38 ตามด้วยร้าน Don’s ในกรุงฮานอยในอันดับที่ 47และร้าน Mozaic ที่เกาะบาหลีในอันดับที่ 50
ร้าน Nihonbashi เป็นผลงานความคิดของ Dharshan Munidasa เชฟผู้เป็นเจ้าของร้านอาหาร ผู้นำประสบการณ์กับอาหารหรูชั้นสูงที่เน้นหนักทางอาหารซูชิและซาชิมิมาใช้ เสริมด้วยความรู้ด้านต่างๆจากการประกอบอาหารญี่ปุ่นที่เป็นที่รู้จักกันดี
ร้าน Don’s บริการอาหารทั้งประเภทคลาสสิคและนานาชาติแนวแปลกใหม่ ด้วยเมนูที่ครอบคลุมศิลปะการปรุงอาหารทุกประเภทตั้งแต่อาหารพาสต้า ริซ็อตโต้ สเต๊ก เนื้อหั่นหรือ chop ซุปและสลัด ไปจนถึงอาหารจานโปรดของเวียดนามและเอเชีย
คริส ซาลานส์หรือ Chris Salans เป็นเชฟที่ ร้าน Mozaic มีเชื้อสายครึ่งฝรั่งเศสครึ่งอเมริกัน ร่วมกันกับภรรยาชาวชวาทำการผสมผสานกรรมวิธีการทำอาหารฝรั่งเศสให้เข้ากับเครื่องปรุงและรสชาติพร้อมสรรพนานาชนิดของอินโดนีเซีย
โยชิฮิโร นาริซาวะหรือ Yoshihiro Narisawa เจ้าของและหัวหน้าเชฟของร้านนาริซาวะ ร้านอาหารจากกรุงโตเกียวที่ได้รับรางวัล เคยได้รับประกาศเกียรติคุณติดอันดับใน 50 อันดับ ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก ซึ่งอุปถัมภ์โดยซาน เพลเลกริโนกับอาคัว พานนา ติดๆกันเป็นเวลาถึงสี่ปีและยังได้รับรางวัลของอาคัว พานนา ในฐานะร้านอาหารที่ดีที่สุดในเอเชียเป็นเวลาสามปีติดต่อกัน