เฉพาะส่วนที่ผบห. ให้ข่าว ไม่นับพวกนักวิเคราะห์ เพราะ เชื่อถือไม่ได้อยู่แล้ว
สามารถถามในที่ประชุมประจำปีได้ไหมคะ
[InfoQuest] CWTลงนามซิวออเดอร์อินเดียมีลุ้นรายได้ปี56ทะลุ1.5พันล้าน
9 มกราคม 2556
ทันหุ้น - ผู้บริหาร CWT "วีระพล ไชยธีรัตน์" ปลื้มรับออเดอร์ จากประเทศอินเดีย 12 ล้านดอลลาร์ต่อปี มีอายุสัญญา 4 ปี พร้อมเดินหน้าตั้งโรงงาน ร่วมทุนในกัมพูชา ตั้งเป้ารายได้ปีนี้มีโอกาสทะลุ 1,500 ล้านบาท จากแรงหนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเตรียมเงินทุน 20 ล้านบาท ขยายไลน์การผลิตรองรับออเดอร์ใหม่
นายวีระพล ไชยธีรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ CWT กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2556 เติบโต 25% จากปี 2555 ที่มีรายได้ประมาณ 1.2 พันล้านบาท โดยในปีนี้มีโอกาสที่รายได้จะทะลุ 1.5 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับออเดอร์ล่วงหน้าในมือไว้แล้ว ทำให้สามารถประเมินรายได้ล่วงหน้าได้ และแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งทำให้บริษัทมีออเดอร์เข้ามามากขึ้น และจะทำให้อัตรากำไรสุทธิปีนี้อยู่ที่ 10%
"เรามองแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งมีรถยนต์หลายรุ่นที่เปลี่ยนมาใช้เบาะหนังของบริษัท เช่น Isuzu D-max, Mu-7, Misubishi Lancer, Cheveloret ทำให้มีออเดอร์เพิ่มเข้ามามากขึ้น นอกเหนือจากรถยนต์ที่ใช้เบาะหนังของบริษัทอยู่แล้ว เช่น Honda Civic และคาดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะมียอดผลิตรถยนต์ออกมาได้ 2 ล้านคันภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี ทำให้บริษัทมีออเดอร์รองรับยาวไปจนถึง 2-3 ปีข้างหน้า น่าทำให้รายได้ของบริษัททะลุ 2 พันล้านบาทภายใน 2-3 ปีข้างหน้าได้" นายวีระพลกล่าว
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้เบาะหนังรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 50% จากเดิมอยู่ที่ 70% เนื่องจากสัดส่วนรายได้เบาะหนังรถยนต์ที่ส่งออกต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาเป็น 50% เพราะว่าปริมาณรถยนต์ที่ผลิตในประเทศแล้วส่งออกไปต่างประเทศมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น บริษัทจึงได้รายได้ในส่วนของการส่งออกเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งบริษัทฯมีลูกค้าในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ที่บริษัทส่งออกเบาะไปจำหน่ายอยู่แล้ว
ล่าสุด บริษัทได้มีการเจรจากับลูกค้าในอินเดียเพื่อผลิตเบาะหนังรถแวนให้ ซึ่งเป็นรถแวนแบรนด์ท้องถิ่นของอินเดีย โดยมีมูลค่าตามสัญญาอยู่ที่ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และอายุสัญญาไม่ต่ำกว่า 4 ปี ซึ่งภายในสิ้นเดือนมกราคม 56 บริษัทจะมีการยื่น PO และเตรียมส่งสินค้าล็อตแรกไปได้ภายในไตรมาส 2/2556
สำหรับโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรจากสหรัฐในการสร้างโรงงานฟอกหนังในประเทศกัมพูชา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแบ่งเงินลงทุนคนละครึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นเอกสารขออนุญาตจัดตั้งโรงงาน โดยในไตรมาส 1/2556 จะมีได้รับเอกสารการอนุญาตจากนั้นก็จะเริ่มเข้าไปลงทุน
นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมเงินลงทุนไว้อีก 20 ล้านบาท แบ่งเป็นไว้ใช้สำหรับการขยายไลน์การผลิตของโรงงานภายในประเทศ เพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ที่จะเข้ามา ทางด้านนักวิเคราะห์กลุ่มยานยนต์ ระบุว่าเนื่องจาก CWT ได้รับอานิสงส์ยอดขายรถยนต์ทำสถิติใหม่ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาและคาดว่าจะต่อเนื่องมายังปีนี้ จึงคาดว่าฐานรายได้มีโอกาสเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมายที่ทางผู้บริหารคาดการณ์ไว้
โดยไตรมาส 4/2555 คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 60 ล้านบาท EPS 0.18 ต่อหุ้น เติบโตจากไตรมาส 3/2555 ประมาณ 10% จากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น
ส่วนทั้งปี 2555 คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 145 ล้านบาท EPS 0.44 บาทต่อหุ้น เติบโตจากปี 2554 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 27.68 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 423.84% ส่วนผลประกอบการปี 2556 จะยังเติบโตต่อเนื่องตามภาพรวมอุตสาหกรรม แนะนำ "ทยอยซื้อ"ราคาเป้าหมาย 6 บาท บรรยายใต้ภาพ วีระพล ไชยธีรัตน์
จะรู้ได้ยังไงว่า ข่าวนี้ของ cwt จะเป็นความจริง
สามารถถามในที่ประชุมประจำปีได้ไหมคะ
[InfoQuest] CWTลงนามซิวออเดอร์อินเดียมีลุ้นรายได้ปี56ทะลุ1.5พันล้าน
9 มกราคม 2556
ทันหุ้น - ผู้บริหาร CWT "วีระพล ไชยธีรัตน์" ปลื้มรับออเดอร์ จากประเทศอินเดีย 12 ล้านดอลลาร์ต่อปี มีอายุสัญญา 4 ปี พร้อมเดินหน้าตั้งโรงงาน ร่วมทุนในกัมพูชา ตั้งเป้ารายได้ปีนี้มีโอกาสทะลุ 1,500 ล้านบาท จากแรงหนุนอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเตรียมเงินทุน 20 ล้านบาท ขยายไลน์การผลิตรองรับออเดอร์ใหม่
นายวีระพล ไชยธีรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชัยวัฒนา แทนเนอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ CWT กล่าวว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2556 เติบโต 25% จากปี 2555 ที่มีรายได้ประมาณ 1.2 พันล้านบาท โดยในปีนี้มีโอกาสที่รายได้จะทะลุ 1.5 พันล้านบาท เนื่องจากบริษัทได้รับออเดอร์ล่วงหน้าในมือไว้แล้ว ทำให้สามารถประเมินรายได้ล่วงหน้าได้ และแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งทำให้บริษัทมีออเดอร์เข้ามามากขึ้น และจะทำให้อัตรากำไรสุทธิปีนี้อยู่ที่ 10%
"เรามองแนวโน้มอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศยังเติบโตต่อเนื่อง ซึ่งมีรถยนต์หลายรุ่นที่เปลี่ยนมาใช้เบาะหนังของบริษัท เช่น Isuzu D-max, Mu-7, Misubishi Lancer, Cheveloret ทำให้มีออเดอร์เพิ่มเข้ามามากขึ้น นอกเหนือจากรถยนต์ที่ใช้เบาะหนังของบริษัทอยู่แล้ว เช่น Honda Civic และคาดว่าอุตสาหกรรมรถยนต์จะมียอดผลิตรถยนต์ออกมาได้ 2 ล้านคันภายในระยะเวลาไม่เกิน 3 ปี ทำให้บริษัทมีออเดอร์รองรับยาวไปจนถึง 2-3 ปีข้างหน้า น่าทำให้รายได้ของบริษัททะลุ 2 พันล้านบาทภายใน 2-3 ปีข้างหน้าได้" นายวีระพลกล่าว
ปัจจุบันสัดส่วนรายได้เบาะหนังรถยนต์ในประเทศอยู่ที่ 50% จากเดิมอยู่ที่ 70% เนื่องจากสัดส่วนรายได้เบาะหนังรถยนต์ที่ส่งออกต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาเป็น 50% เพราะว่าปริมาณรถยนต์ที่ผลิตในประเทศแล้วส่งออกไปต่างประเทศมีปริมาณเพิ่มมากขึ้น บริษัทจึงได้รายได้ในส่วนของการส่งออกเพิ่มขึ้นตามไปด้วย ซึ่งบริษัทฯมีลูกค้าในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ที่บริษัทส่งออกเบาะไปจำหน่ายอยู่แล้ว
ล่าสุด บริษัทได้มีการเจรจากับลูกค้าในอินเดียเพื่อผลิตเบาะหนังรถแวนให้ ซึ่งเป็นรถแวนแบรนด์ท้องถิ่นของอินเดีย โดยมีมูลค่าตามสัญญาอยู่ที่ 12 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี และอายุสัญญาไม่ต่ำกว่า 4 ปี ซึ่งภายในสิ้นเดือนมกราคม 56 บริษัทจะมีการยื่น PO และเตรียมส่งสินค้าล็อตแรกไปได้ภายในไตรมาส 2/2556
สำหรับโครงการร่วมทุนกับพันธมิตรจากสหรัฐในการสร้างโรงงานฟอกหนังในประเทศกัมพูชา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้น 4 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยแบ่งเงินลงทุนคนละครึ่ง ขณะนี้อยู่ระหว่างการยื่นเอกสารขออนุญาตจัดตั้งโรงงาน โดยในไตรมาส 1/2556 จะมีได้รับเอกสารการอนุญาตจากนั้นก็จะเริ่มเข้าไปลงทุน
นอกจากนั้น บริษัทยังเตรียมเงินลงทุนไว้อีก 20 ล้านบาท แบ่งเป็นไว้ใช้สำหรับการขยายไลน์การผลิตของโรงงานภายในประเทศ เพื่อรองรับออเดอร์ใหม่ที่จะเข้ามา ทางด้านนักวิเคราะห์กลุ่มยานยนต์ ระบุว่าเนื่องจาก CWT ได้รับอานิสงส์ยอดขายรถยนต์ทำสถิติใหม่ตลอดทั้งปีที่ผ่านมาและคาดว่าจะต่อเนื่องมายังปีนี้ จึงคาดว่าฐานรายได้มีโอกาสเพิ่มขึ้นสูงกว่าเป้าหมายที่ทางผู้บริหารคาดการณ์ไว้
โดยไตรมาส 4/2555 คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 60 ล้านบาท EPS 0.18 ต่อหุ้น เติบโตจากไตรมาส 3/2555 ประมาณ 10% จากรายได้รวมที่เพิ่มขึ้น ส่วนทั้งปี 2555 คาดกำไรสุทธิอยู่ที่ 145 ล้านบาท EPS 0.44 บาทต่อหุ้น เติบโตจากปี 2554 ที่มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 27.68 ล้านบาท หรือเติบโตถึง 423.84% ส่วนผลประกอบการปี 2556 จะยังเติบโตต่อเนื่องตามภาพรวมอุตสาหกรรม แนะนำ "ทยอยซื้อ"ราคาเป้าหมาย 6 บาท บรรยายใต้ภาพ วีระพล ไชยธีรัตน์