ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับคุณชายสุขุมพันธ์ที่ชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงถึง 1 ล้าน 2 แสนกว่าคะแนน ซึ่งถือว่าเป็นการชนะที่ขาวสะอาดจากเสียงของคนกรุงเทพฯที่ได้มากกว่าครั้งก่อนเสียอีก
และยังยินดีกับคนกรุงเทพฯที่ไปใช้สิทธิ์กันมากกว่าเดิม จนทำลายสถิติเก่าๆด้วยตัวเลขที่ไปใช้สิทธิ์กันถึง 63.98% ทั้งๆที่มีฝนตกอย่างหนักเป็นช่วงๆ
แต่ที่นางฟ้ารู้สึกผิดหวัง เพราะจากการที่ได้สอบถามหลายๆคนที่เลือกคุณชายหมูนั้น ล้วนมีเหตุผลในการเลือกที่แปลกๆ
บางคนเลือกเพราะความสงสาร (เพื่อน)
ทั้งๆที่ผู้ว่าฯ กทม มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องลำบาก ก็ไม่ควรมาลงสมัครรับใช้ประชาชน
บางคนเลือกเพราะเชื่อว่าคนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง (คนในบอร์ดนี้)
ทั้งๆที่ศาลแพ่งตัดสินแล้วว่าเพลิงไหม้ CTW นั้นไม่ได้เกิดจากการก่อการร้าย จนเป็นเหตุให้ทางบริษัทประกันภัยต้องจ่ายค่าเสียหาย
บางคนเลือกเพราะอยากจะได้ผู้ว่าฯที่มาจากคนละพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลเพื่อเป็นฝ่ายค้าน (กลุ่มเพื่อนๆของหลานสาว)
ทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยแม้แต่น้อย เพราะผู้ว่าฯกทม ไม่มีสิทธิ์มีเสียงในรัฐสภา
ที่แปลกที่สุด ทุกคนที่เลือกเบอร์ 16 กลับไม่มีใครบอกว่าเลือกเพราะผลงานที่ผ่านมาเลยแม้แต่คนเดียว แม้แต่สมาชิกในบอร์ดการเมืองเองก็ตาม ยังเชื่อว่าคุณชายหมูชนะเพราะคนกรุงเทพฯไม่ชอบคนเสื้อแดงและไม่เอาทักษิณ
จึงตัดสินใจเลือกโดยไม่เคยคิดถึงสนามกีฬาฟุตซอล ที่ทำให้ประเทศไทยขายหน้า ซึ่งจนวันนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ
จึงตัดสินใจเลือกโดยไม่เคยคิดถึงการต่อสัญญาบีทีเอสที่พิลึกพิลั่น ทั้งๆที่ยังเหลืออายุสัมปทานอีกสิบกว่าปี
จึงตัดสินใจเลือกโดยไม่เคยคิดถึงว่าการเอากระสอบทรายอุดท่อนั้น เป็นวิธีแก้ไขน้ำท่วมที่แปลกประหลาดที่สุดที่ไม่มีประเทศใดเขาทำกัน
จึงตัดสินใจเลือกโดยไม่เคยคิดว่า 4 ปีที่ผ่านมามีแต่ข่าวแปลกๆ เช่นติดกล้องดัมมี่เพื่อหลอกโจร ทำอุโมงค์ยักษ์เพื่อป้องกันน้ำฝนแต่ไม่สามารถป้องกันน้ำหลาก จนถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยพิธีไล่น้ำ ฯลฯ
ตราบใดที่คนกรุงเทพฯยังเลือกนักการเมืองเพราะเหตุผลพิลึกพิลั่น ไม่รู้ความแตกต่างระหว่างหน้าที่ของผู้ว่าฯกับ สส และไม่เอาผลงานเป็นเครื่องชี้วัดกัน การเมืองใน กทม ก็ต้องจมปลักกับการหาเสียงด้วยการโจมตีแทนการพูดถึงนโยบายต่อไปไม่จบสิ้น
คนเมืองหลวงที่เคยได้ชื่อว่าการศึกษาและเข้าถึงข่าวสารมากกว่าแท้ๆ กลับมีความคิดเกี่ยวกับประชาธิปไตยล้าหลังอย่างที่เห็นในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถึงแม้จะยินดีที่ได้ผู้ว่าฯมาจากการเลือกตั้ง แต่กลับไม่รู้สึกดีใจเอาเสียเลยนะฮ้า
ยินดีแต่ไม่ดีใจ
และยังยินดีกับคนกรุงเทพฯที่ไปใช้สิทธิ์กันมากกว่าเดิม จนทำลายสถิติเก่าๆด้วยตัวเลขที่ไปใช้สิทธิ์กันถึง 63.98% ทั้งๆที่มีฝนตกอย่างหนักเป็นช่วงๆ
แต่ที่นางฟ้ารู้สึกผิดหวัง เพราะจากการที่ได้สอบถามหลายๆคนที่เลือกคุณชายหมูนั้น ล้วนมีเหตุผลในการเลือกที่แปลกๆ
บางคนเลือกเพราะความสงสาร (เพื่อน)
ทั้งๆที่ผู้ว่าฯ กทม มีหน้าที่ดูแลทุกข์สุขของประชาชน ถ้าคิดว่าเป็นเรื่องลำบาก ก็ไม่ควรมาลงสมัครรับใช้ประชาชน
บางคนเลือกเพราะเชื่อว่าคนเสื้อแดงเผาบ้านเผาเมือง (คนในบอร์ดนี้)
ทั้งๆที่ศาลแพ่งตัดสินแล้วว่าเพลิงไหม้ CTW นั้นไม่ได้เกิดจากการก่อการร้าย จนเป็นเหตุให้ทางบริษัทประกันภัยต้องจ่ายค่าเสียหาย
บางคนเลือกเพราะอยากจะได้ผู้ว่าฯที่มาจากคนละพรรคการเมืองที่เป็นรัฐบาลเพื่อเป็นฝ่ายค้าน (กลุ่มเพื่อนๆของหลานสาว)
ทั้งๆที่ไม่ได้เกี่ยวอะไรเลยแม้แต่น้อย เพราะผู้ว่าฯกทม ไม่มีสิทธิ์มีเสียงในรัฐสภา
ที่แปลกที่สุด ทุกคนที่เลือกเบอร์ 16 กลับไม่มีใครบอกว่าเลือกเพราะผลงานที่ผ่านมาเลยแม้แต่คนเดียว แม้แต่สมาชิกในบอร์ดการเมืองเองก็ตาม ยังเชื่อว่าคุณชายหมูชนะเพราะคนกรุงเทพฯไม่ชอบคนเสื้อแดงและไม่เอาทักษิณ
จึงตัดสินใจเลือกโดยไม่เคยคิดถึงสนามกีฬาฟุตซอล ที่ทำให้ประเทศไทยขายหน้า ซึ่งจนวันนี้ก็ยังสร้างไม่เสร็จ
จึงตัดสินใจเลือกโดยไม่เคยคิดถึงการต่อสัญญาบีทีเอสที่พิลึกพิลั่น ทั้งๆที่ยังเหลืออายุสัมปทานอีกสิบกว่าปี
จึงตัดสินใจเลือกโดยไม่เคยคิดถึงว่าการเอากระสอบทรายอุดท่อนั้น เป็นวิธีแก้ไขน้ำท่วมที่แปลกประหลาดที่สุดที่ไม่มีประเทศใดเขาทำกัน
จึงตัดสินใจเลือกโดยไม่เคยคิดว่า 4 ปีที่ผ่านมามีแต่ข่าวแปลกๆ เช่นติดกล้องดัมมี่เพื่อหลอกโจร ทำอุโมงค์ยักษ์เพื่อป้องกันน้ำฝนแต่ไม่สามารถป้องกันน้ำหลาก จนถึงการแก้ปัญหาน้ำท่วมด้วยพิธีไล่น้ำ ฯลฯ
ตราบใดที่คนกรุงเทพฯยังเลือกนักการเมืองเพราะเหตุผลพิลึกพิลั่น ไม่รู้ความแตกต่างระหว่างหน้าที่ของผู้ว่าฯกับ สส และไม่เอาผลงานเป็นเครื่องชี้วัดกัน การเมืองใน กทม ก็ต้องจมปลักกับการหาเสียงด้วยการโจมตีแทนการพูดถึงนโยบายต่อไปไม่จบสิ้น
คนเมืองหลวงที่เคยได้ชื่อว่าการศึกษาและเข้าถึงข่าวสารมากกว่าแท้ๆ กลับมีความคิดเกี่ยวกับประชาธิปไตยล้าหลังอย่างที่เห็นในการเลือกตั้งครั้งนี้ ถึงแม้จะยินดีที่ได้ผู้ว่าฯมาจากการเลือกตั้ง แต่กลับไม่รู้สึกดีใจเอาเสียเลยนะฮ้า