พงศพัศ แพ้เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. คาดกลับไปนั่งเก้าอี้ รองผบ.ตร. ตามเดิม ควบตำแหน่งเลขาธิการปปส.อีกด้วย เชื่อ ถูกผลักดันให้ก้าวเป็น ผบ.ตร.ในอนาคตด้วย
วันนี้ ( 3 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ภายหลังการนับคะแนนผู้ว่าฯกทม.อย่างไม่เป็นทางการออกมานั้น พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ มีคะแนนตามหลัง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร นั้น ในส่วนของ พล.ต.อ.พงสพัศ หลังจากลาออกไปแล้ว ตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดช่องให้กลับเข้าดำรงตำแหน่งเทียบเท่า หรือ ตำแหน่งเดิมได้ โดยต้องยื่นความจำนง กลับเข้ารับราชการภายในเวลาที่กำหนด มิเช่นนั้นจะถือว่าการลาออกนั้นมีผลสมบูรณ์ และจะส่งผลให้ตำแหน่ง รองผบ.ตร. ว่างโดยสมบูรณ์นั้น
รายงานข่าวระบุว่า นับแต่พล.ต.อ.พงศพัศ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ก็ยังคงเว้นตำแหน่งรองผบ.ตร.ของพล.ต.อ.พงศพัศ ไว้ตามข้อยกเว้นดังกล่าว แม้แต่ในห้องประชุมก.ตร.ก็เว้นตำแหน่งว่างไว้ แต่ทั้งนี้ หากพล.ต.อ.พงศพัศไม่ประสงค์ กลับรับราบการตำรวจ ตามเวลาที่กำหนด สตช.ก็สามารถดำเนินการแต่งตั้งทดแทนตำแหน่งรองผบ.ตร. ที่ว่างลงได้ ซึ่งตามกฎก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งฯ กำหนดการพิจารณาแต่งตั้งระดับผู้ช่วยผบ.ตร.ขึ้นไปต้องเป็นไปตามอาวุโส โดยต้องขยับ ที่ปรึกษา(สบ10) ที่อาวุโสสูงสุด นั่นคือ พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา(สบ10) มาเป็นรอง ผบ.ตร.ตำแหน่งหลัก และแต่งตั้งผู้ช่วยผบ.ตร.ที่อาวุโสสูงสุด คือ พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ เป็นที่ปรึกษา(สบ10)
อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการเลือกตั้ง พล.ต.อ.พงศพัศ มีแนวโน้มสูงที่จะกลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ ในตำแหน่งรองผบ.ตร. และเลขาธิการป.ป.ส. โดย พล.ต.อ.พงศพัศนั้น จะเกษียณอายุราชการในปี 2559 ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า เมื่อพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เกษียณอายุราชการในปี 2557 พล.ต.อ.พงศพัศ อาจถูกวางตัวเป็น ผบ.ตร.คนต่อไป
http://www.dailynews.co.th/bkkelection/188119
พงศพัศ หวนคืนถิ่นเป็นรองผบ.ตร. - เลขาธิการปปส. แน่
พงศพัศ แพ้เลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. คาดกลับไปนั่งเก้าอี้ รองผบ.ตร. ตามเดิม ควบตำแหน่งเลขาธิการปปส.อีกด้วย เชื่อ ถูกผลักดันให้ก้าวเป็น ผบ.ตร.ในอนาคตด้วย
วันนี้ ( 3 มี.ค.) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ภายหลังการนับคะแนนผู้ว่าฯกทม.อย่างไม่เป็นทางการออกมานั้น พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ มีคะแนนตามหลัง ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร นั้น ในส่วนของ พล.ต.อ.พงสพัศ หลังจากลาออกไปแล้ว ตามระเบียบของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดช่องให้กลับเข้าดำรงตำแหน่งเทียบเท่า หรือ ตำแหน่งเดิมได้ โดยต้องยื่นความจำนง กลับเข้ารับราชการภายในเวลาที่กำหนด มิเช่นนั้นจะถือว่าการลาออกนั้นมีผลสมบูรณ์ และจะส่งผลให้ตำแหน่ง รองผบ.ตร. ว่างโดยสมบูรณ์นั้น
รายงานข่าวระบุว่า นับแต่พล.ต.อ.พงศพัศ ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง ก็ยังคงเว้นตำแหน่งรองผบ.ตร.ของพล.ต.อ.พงศพัศ ไว้ตามข้อยกเว้นดังกล่าว แม้แต่ในห้องประชุมก.ตร.ก็เว้นตำแหน่งว่างไว้ แต่ทั้งนี้ หากพล.ต.อ.พงศพัศไม่ประสงค์ กลับรับราบการตำรวจ ตามเวลาที่กำหนด สตช.ก็สามารถดำเนินการแต่งตั้งทดแทนตำแหน่งรองผบ.ตร. ที่ว่างลงได้ ซึ่งตามกฎก.ตร. ว่าด้วยการแต่งตั้งฯ กำหนดการพิจารณาแต่งตั้งระดับผู้ช่วยผบ.ตร.ขึ้นไปต้องเป็นไปตามอาวุโส โดยต้องขยับ ที่ปรึกษา(สบ10) ที่อาวุโสสูงสุด นั่นคือ พล.ต.อ.รชต เย็นทรวง ที่ปรึกษา(สบ10) มาเป็นรอง ผบ.ตร.ตำแหน่งหลัก และแต่งตั้งผู้ช่วยผบ.ตร.ที่อาวุโสสูงสุด คือ พล.ต.ท.พีระ พุ่มพิเชฏฐ์ เป็นที่ปรึกษา(สบ10)
อย่างไรก็ตาม หากไม่ได้รับการเลือกตั้ง พล.ต.อ.พงศพัศ มีแนวโน้มสูงที่จะกลับมาเป็นข้าราชการตำรวจ ในตำแหน่งรองผบ.ตร. และเลขาธิการป.ป.ส. โดย พล.ต.อ.พงศพัศนั้น จะเกษียณอายุราชการในปี 2559 ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า เมื่อพล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร.เกษียณอายุราชการในปี 2557 พล.ต.อ.พงศพัศ อาจถูกวางตัวเป็น ผบ.ตร.คนต่อไป
http://www.dailynews.co.th/bkkelection/188119