หลังจากที่สองช้างขับรถเที่ยวยุโรปกันมาสองรอบ ชักจะติดใจศิลปะที่เห็นตามวังตามโบสถ์ เราก็เลยคุยกันว่าอย่ากระนั้นเลย เราไปต้นตอของเรเนอซองส์กันเลยดีกว่า ซึ่งเป็นที่ใหนไปไม่ได้นอกจากอิตาลี่ที่เป็นแหล่งกำเนิดของมหาศิลปินระดับโลกทั้งหลาย
เราเดินทางโดยสายการบินรักคุณเท่าฟ้า เพราะขี้เกียจไปต่อเครื่อง และไปถึงมิลานเช้าพอดี ทำให้ไม่เสียเวลาเที่ยว
เครื่องบินพาเรามาถึงมิลานหกโมงเช้าตรงเวลา แต่เป็นหกโมงเช้าหน้าหนาวจึงยังคงมืดมิดอยู่ สองช้างศึกษาวิธีเข้าเมืองที่ดีที่สุดของพวกเราคืออาศัยรถบัส Malpensa Shuttle เพราะไม่ต้องยกกระเป๋าขึ้นๆลงๆเหมือนไปรถไฟแต่ก็มาส่งที่สถานีรถไฟเหมือนกัน และออกทุก20นาที ถึงแม้จะเสียเวลามากกว่ากันนิดนึง
เมื่อถึงมิลาน ตอนจะออกจากสนามบินให้เลี้ยวซ้ายจะเจอรถบัสจอดรอผู้โดยสารอยู่หลายบริษัท มาซื้อตั๋วกับคนขับได้เลยครับ ไม่ต้องซื้อในสนามบินมาก่อน เพราะเราจะเลือกได้ว่าจะขึ้นรถบัสของบริษัทไหน แต่ช้างน้อยซื้อตั๋วมาจากข้างในเพราะเห็นเขียนโฆษณาไว้ว่าเป็นเส้นทางตรงไม่หยุดแวะที่ไหน พอออกมาเห็นรถแล้วใจเสีย เนื่องจากของอีกบริษัทนึงดูใหม่กว่าและคนขึ้นกันเยอะ แต่รถของสองช้างไม่มีคนเลย คนขับเห็นหมูเอ๊ยช้างเดินมาสองตัวก็ลงมาเปิดที่เก็บกระเป๋าให้พวกเรา เช็คตั๋วเสร็จแล้วก็ให้พวกเราขึ้นไปนั่งรอ เรานั่งกันอย่างเดียวดายอยู่สองคนอย่างลุ้นระทึก สักพักก็มีอาหมวยอาตี๋มาสมทบ แต่พอเป็นฝรั่งเห็นเดินไปขึ้นอีกคันกันหมด ข้อดีคือรถของเราออกก่อนแต่ไม่แน่ใจว่าถึงก่อนรึเปล่า เพราะเอาเข้าจริงรถก็จอดส่งผู้โดยสารลงกลางทางอยู่หนึ่งครั้ง เราใช้เวลานั่งรถประมาณชั่วโมงนึงก็มาถึงสถานีรถไฟ
[CR] นิราศสองช้าง << หลงเสน่ห์เรเนอซองส์ ท่องไปเที่ยวไปในอิตาลี่ >> ตอนที่ 2 : ตามรอย Da Vinci Code กันที่ "มิลาน"
เราเดินทางโดยสายการบินรักคุณเท่าฟ้า เพราะขี้เกียจไปต่อเครื่อง และไปถึงมิลานเช้าพอดี ทำให้ไม่เสียเวลาเที่ยว
เครื่องบินพาเรามาถึงมิลานหกโมงเช้าตรงเวลา แต่เป็นหกโมงเช้าหน้าหนาวจึงยังคงมืดมิดอยู่ สองช้างศึกษาวิธีเข้าเมืองที่ดีที่สุดของพวกเราคืออาศัยรถบัส Malpensa Shuttle เพราะไม่ต้องยกกระเป๋าขึ้นๆลงๆเหมือนไปรถไฟแต่ก็มาส่งที่สถานีรถไฟเหมือนกัน และออกทุก20นาที ถึงแม้จะเสียเวลามากกว่ากันนิดนึง
เมื่อถึงมิลาน ตอนจะออกจากสนามบินให้เลี้ยวซ้ายจะเจอรถบัสจอดรอผู้โดยสารอยู่หลายบริษัท มาซื้อตั๋วกับคนขับได้เลยครับ ไม่ต้องซื้อในสนามบินมาก่อน เพราะเราจะเลือกได้ว่าจะขึ้นรถบัสของบริษัทไหน แต่ช้างน้อยซื้อตั๋วมาจากข้างในเพราะเห็นเขียนโฆษณาไว้ว่าเป็นเส้นทางตรงไม่หยุดแวะที่ไหน พอออกมาเห็นรถแล้วใจเสีย เนื่องจากของอีกบริษัทนึงดูใหม่กว่าและคนขึ้นกันเยอะ แต่รถของสองช้างไม่มีคนเลย คนขับเห็นหมูเอ๊ยช้างเดินมาสองตัวก็ลงมาเปิดที่เก็บกระเป๋าให้พวกเรา เช็คตั๋วเสร็จแล้วก็ให้พวกเราขึ้นไปนั่งรอ เรานั่งกันอย่างเดียวดายอยู่สองคนอย่างลุ้นระทึก สักพักก็มีอาหมวยอาตี๋มาสมทบ แต่พอเป็นฝรั่งเห็นเดินไปขึ้นอีกคันกันหมด ข้อดีคือรถของเราออกก่อนแต่ไม่แน่ใจว่าถึงก่อนรึเปล่า เพราะเอาเข้าจริงรถก็จอดส่งผู้โดยสารลงกลางทางอยู่หนึ่งครั้ง เราใช้เวลานั่งรถประมาณชั่วโมงนึงก็มาถึงสถานีรถไฟ