รายการ "เจาะใจ" คืนวันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ไปนั่งพูดคุยกับอดีตนักร้องเพลงร็อคชื่อดัง "โต ซิลลี่ฟูลส์" กับเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้เจ้าตัวละทิ้งชื่อเสียงที่โด่งดัง เงินทองที่มากมาย ไปหาเส้นทางสายศาสนาในชื่อของ "ฟิรเดาซ์ ศรัทธายิ่ง" ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าแม้จะไม่เป็นที่รู้จักเหมือนแต่ก่อน แม้จะไม่มีเรื่องของชื่อเสียงเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตนกลับพบว่านี่แหละคือความสุขที่แท้จริง
"จุดเปลี่ยนเกิดจากช่วงชีวิตที่ยังเป็นนักร้อง ชีวิตประจำวันเริ่มซ้ำๆ ซากๆ เล่นคอนเสิร์ตกลับโรงแรม เวลาไปคอนเสิร์ตผมไม่ค่อยออกไปเที่ยวไปดื่มเลยทำให้มีเวลาคิดเกี่ยวกับตัวเอง คุณค่าของชีวิตเราคืออะไร เลยเริ่มอยากค้นหา ถามว่าการเป็นนักร้องตอบโจทย์ในชีวิตผมไหม ก็อาจจะได้บ้างแต่น้อยมาก อาชีพที่ผมเคยทำ นักร้อง นักแต่งเพลง มีอะไรดีบ้าง ผมได้เงิน มีชื่อเสียงแค่นี้ แต่ผลเสียมันมากกว่า คือ ส่วนหนึ่งทำให้คนตีกัน เมา เล่นยา ส่วนผมมีเงิน มีชื่อเสียง แต่ก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร และต้องคอยระวังตัวไม่ให้คนด่าเท่านั้นเอง"
"เหตุผลที่ต้องถอนตัวออกมาจากวงการคือความผิดหวังที่ไม่สามารถจะถ่ายทอดความรู้ความจริงผ่านดนตรีได้ พอเริ่มรู้ว่าดนตรีมันถ่ายทอดเรื่องชีวิตไม่ได้ ถ่ายทอดความถูกต้อง อะไรถูกผิดไม่ได้ ไม่สามารถทำให้คนคิดดีทำดีได้ ก็ผิดหวัง จากนั้นก็เริ่มหาวิธีว่าความจริงคืออะไร ผมก็ถอยออกมาคิดดูชีวิตตัวเองก่อนว่าจริงๆ แล้วเราคือใคร เกิดมาทำไม ใครสร้างเรา ศาสนาคืออะไร ศาสนาอื่นๆ เป็นอย่างไร และศาสนาของเราเป็นอย่างไร มันเริ่มจากความสงสัย ตอนหมดสัญญาค่ายเพลงจึงเบนเข็มออกมา เปลี่ยนสู่ศาสนา ชื่อเสียงเป็นเรื่องมายา ไม่ยั่งยืน เคยไปอยู่ที่จุดนั้นแล้วแต่ชีวิตก็ไม่ได้สุข จนมาวันนี้ได้เรียนรู้ว่าการทำบางอย่างที่ดีๆ แม้สังคมไม่รู้แต่ตัวเรากลับรู้สึกดี รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าสำหรับผมนี่คือความสุขที่แท้จริงครับ"
"ตอนนี้ผมได้ลงพื้นที่ไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อพูดคุยกับเยาวชนที่นั่น ผมรับผิดชอบในส่วนของปัญหายาเสพติดในเยาวชน ไปให้ข้อคิดให้คำแนะนำในการใช้ชีวิตจากสิ่งที่เราได้พบเจอมา ซึ่งมีเด็กๆ หลายคนเปลี่ยนความคิดได้จากคำพูดของผม รู้สึกเป็นเกียรติ ภูมิใจมากกว่าตอนทำเพลงอีก เหตุผลที่ให้ความสำคัญกับเยาวชนเพราะเราเคยอยู่ในทางโลกมาแบบโชกโชน รู้ว่าวัยรุ่นทำแบบนี้เพราะคิดอะไรอยู่" ตั้งแต่เวลา 22.25 น. เปิดไปชมกันได้ทางช่อง 5 รายการ "เจาะใจ" คืนวันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ไปนั่งพูดคุยกับอดีตนักร้องเพลงร็อคชื่อดัง "โต ซิลลี่ฟูลส์" กับเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้เจ้าตัวละทิ้งชื่อเสียงที่โด่งดัง เงินทองที่มากมาย ไปหาเส้นทางสายศาสนาในชื่อของ "ฟิรเดาซ์ ศรัทธายิ่ง" ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าแม้จะไม่เป็นที่รู้จักเหมือนแต่ก่อน แม้จะไม่มีเรื่องของชื่อเสียงเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตนกลับพบว่านี่แหละคือความสุขที่แท้จริง
"จุดเปลี่ยนเกิดจากช่วงชีวิตที่ยังเป็นนักร้อง ชีวิตประจำวันเริ่มซ้ำๆ ซากๆ เล่นคอนเสิร์ตกลับโรงแรม เวลาไปคอนเสิร์ตผมไม่ค่อยออกไปเที่ยวไปดื่มเลยทำให้มีเวลาคิดเกี่ยวกับตัวเอง คุณค่าของชีวิตเราคืออะไร เลยเริ่มอยากค้นหา ถามว่าการเป็นนักร้องตอบโจทย์ในชีวิตผมไหม ก็อาจจะได้บ้างแต่น้อยมาก อาชีพที่ผมเคยทำ นักร้อง นักแต่งเพลง มีอะไรดีบ้าง ผมได้เงิน มีชื่อเสียงแค่นี้ แต่ผลเสียมันมากกว่า คือ ส่วนหนึ่งทำให้คนตีกัน เมา เล่นยา ส่วนผมมีเงิน มีชื่อเสียง แต่ก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร และต้องคอยระวังตัวไม่ให้คนด่าเท่านั้นเอง"
"เหตุผลที่ต้องถอนตัวออกมาจากวงการคือความผิดหวังที่ไม่สามารถจะถ่ายทอดความรู้ความจริงผ่านดนตรีได้ พอเริ่มรู้ว่าดนตรีมันถ่ายทอดเรื่องชีวิตไม่ได้ ถ่ายทอดความถูกต้อง อะไรถูกผิดไม่ได้ ไม่สามารถทำให้คนคิดดีทำดีได้ ก็ผิดหวัง จากนั้นก็เริ่มหาวิธีว่าความจริงคืออะไร ผมก็ถอยออกมาคิดดูชีวิตตัวเองก่อนว่าจริงๆ แล้วเราคือใคร เกิดมาทำไม ใครสร้างเรา ศาสนาคืออะไร ศาสนาอื่นๆ เป็นอย่างไร และศาสนาของเราเป็นอย่างไร มันเริ่มจากความสงสัย ตอนหมดสัญญาค่ายเพลงจึงเบนเข็มออกมา เปลี่ยนสู่ศาสนา ชื่อเสียงเป็นเรื่องมายา ไม่ยั่งยืน เคยไปอยู่ที่จุดนั้นแล้วแต่ชีวิตก็ไม่ได้สุข จนมาวันนี้ได้เรียนรู้ว่าการทำบางอย่างที่ดีๆ แม้สังคมไม่รู้แต่ตัวเรากลับรู้สึกดี รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าสำหรับผมนี่คือความสุขที่แท้จริงครับ"
"ตอนนี้ผมได้ลงพื้นที่ไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อพูดคุยกับเยาวชนที่นั่น ผมรับผิดชอบในส่วนของปัญหายาเสพติดในเยาวชน ไปให้ข้อคิดให้คำแนะนำในการใช้ชีวิตจากสิ่งที่เราได้พบเจอมา ซึ่งมีเด็กๆ หลายคนเปลี่ยนความคิดได้จากคำพูดของผม รู้สึกเป็นเกียรติ ภูมิใจมากกว่าตอนทำเพลงอีก เหตุผลที่ให้ความสำคัญกับเยาวชนเพราะเราเคยอยู่ในทางโลกมาแบบโชกโชน รู้ว่าวัยรุ่นทำแบบนี้เพราะคิดอะไรอยู่" ตั้งแต่เวลา 22.25 น. เปิดไปชมกันได้ทางช่อง 5
เครดิต manager.online
ประวัติ
ณัฐพล พุทธภาวนา เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2518 เขามีบิดาเป็นแพทย์ และมารดาเป็นนักกวีชาวอินเดีย มีพี่น้อง 3 คน โตเป็นบุตรคนแรก มีน้องสาว 1 คน และมีน้องชายชื่อนที พุทธภาวนา (ที หรือเทญ่า)[2] ชีวิตของโตจึงผูกพันมากับเรื่องงานศิลปะทางด้านขีดเขียน เน้นศิลปะ โครง กลอน ปรัชญา ความคิด ศาสนา จึงส่งผลให้เขาคิดเป็นและถ่ายทอดความรู้สึกเป็นตัวอักษรได้ดี และมีความสนใจทางด้านดนตรีมาตั้งแต่ประมาณอายุ 5-6 ขวบ โตเคยติดตามบิดาไปที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย และจากนั้นก็ไปอยู่ประเทศอินเดียอีก 2 ปี ส่วนตัวโตนับถือศาสนาอิสลาม และมีชื่อทางศาสนาคือ ฟิรเดาซ์ ที่มีความหมายว่า ที่พักบนสวรรค์[1]
ต่อมาโตได้ค้นพบตนเองว่าชอบดนตรี รู้ถึงเสียงอันทรงพลังของเขา โตได้เดินทางมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) โดยเรียนในคณะบริหารธุรกิจ
วันหนึ่งโตได้พบวงซิลลี่ ฟูลส์ในผับแห่งหนึ่ง นักร้องในวงเชิญโตไปร้องเพลง ด้วยเพลง Metallica ของเขา ถึงกับทำให้ จักรินทร์ จูประเสริฐ (ต้น) มือกีตาร์ทาบทามให้เป็นนักร้อง เนื่องจากช่วงนั้นนักร้องนำของวงไปบวช และต่อมาโตจึงได้ร่วมงานกับวงซิลลี่ ฟูลส์ตั้งแต่นั้นมา โดยโตเป็นนักร้องนำ และแต่งเนื้อเพลง จนวงซิลลี่ ฟูลส์ มีชื่อเสียงมากขึ้น โดยเพลงดังของวงได้แก่ จิ๊จ๊ะ, บ้าบอ, น้ำลาย ฯลฯ
โตได้ประกาศแยกออกจากวงซิลลี่ ฟูลส์ ในวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2549 โดยโตยืนยันไม่เกี่ยวกับแนวความคิดและไม่ได้ทะเลาะกัน หากแต่เพราะอึดอัดการทำงานที่ค่อนข้างจะขัดกับหลักศาสนาที่นับถือ และอุดมการณ์[3][4]
ณัฐพล พุทธภาวนา ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2549 โดยขับรถจักรยานยนต์ชนรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคลที่ถนนเทียมร่วมมิตร หน้าศูนย์วัฒนธรรม โดยต่อมาทางโรงพยาบาลได้อนุญาตให้โตกลับบ้านพักได้ แล้วตามคำอนุญาตของแพทย์เจ้าของไข้แล้ว เนื่องจากบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย โดยแข้งขวา และส้นเท้าขวาร้าว โดยแพทย์ได้ใส่เฝือกอ่อนให้[5][6]
หลังออกจากวงซิลลี่ ฟูลส์ โตจึงได้ทำดนตรีก่อน และต่อมาจึงหานักดนตรีมาออดิชั่น หลังจากออดิชั่นกันอยู่ประมาณ 4-5 เดือน ก็ได้เกี๊ย-มือเบส /เก๋-มือกีต้าร์ และก็แสบ-มือกลอง กับแจ๊ค-มือกีต้าร์อีกคนตามลำดับ และได้ตั้งวงแฮงแมนขึ้น และโตได้แต่งเนื้อเพลงมา 10 เพลง จนได้เป็นอัลบั้มแรกของแฮงแมน โดยเปิดอัมบั้มวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2550[7]
ปัจจุบันเขาได้ออกจากวงการดนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากค่ายมอร์มิวสิคได้ทำการปิดตัวลง ทั้งสมาชิกวงแฮงแมนก็ได้ทำการแยกวงออกไป ส่วนเขาก็ได้เปลี่ยนชื่อ เป็น นายวีรชน ศรัทธายิ่ง และหันมาใช้ชีวิตตามหลักศาสนาที่เขานับถือต่อไป โดยการเป็นพิธีกรรายการ Motor Vaccine และ โต-ตาล ออกอากาศทางช่องสถานีดาวเทียม WhiteChannel (www.whitechannel.tv)
เครดิต วิกิพีเดีย
คืนนี้กับ เจาะใจ พี่โต silly fools
"จุดเปลี่ยนเกิดจากช่วงชีวิตที่ยังเป็นนักร้อง ชีวิตประจำวันเริ่มซ้ำๆ ซากๆ เล่นคอนเสิร์ตกลับโรงแรม เวลาไปคอนเสิร์ตผมไม่ค่อยออกไปเที่ยวไปดื่มเลยทำให้มีเวลาคิดเกี่ยวกับตัวเอง คุณค่าของชีวิตเราคืออะไร เลยเริ่มอยากค้นหา ถามว่าการเป็นนักร้องตอบโจทย์ในชีวิตผมไหม ก็อาจจะได้บ้างแต่น้อยมาก อาชีพที่ผมเคยทำ นักร้อง นักแต่งเพลง มีอะไรดีบ้าง ผมได้เงิน มีชื่อเสียงแค่นี้ แต่ผลเสียมันมากกว่า คือ ส่วนหนึ่งทำให้คนตีกัน เมา เล่นยา ส่วนผมมีเงิน มีชื่อเสียง แต่ก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร และต้องคอยระวังตัวไม่ให้คนด่าเท่านั้นเอง"
"เหตุผลที่ต้องถอนตัวออกมาจากวงการคือความผิดหวังที่ไม่สามารถจะถ่ายทอดความรู้ความจริงผ่านดนตรีได้ พอเริ่มรู้ว่าดนตรีมันถ่ายทอดเรื่องชีวิตไม่ได้ ถ่ายทอดความถูกต้อง อะไรถูกผิดไม่ได้ ไม่สามารถทำให้คนคิดดีทำดีได้ ก็ผิดหวัง จากนั้นก็เริ่มหาวิธีว่าความจริงคืออะไร ผมก็ถอยออกมาคิดดูชีวิตตัวเองก่อนว่าจริงๆ แล้วเราคือใคร เกิดมาทำไม ใครสร้างเรา ศาสนาคืออะไร ศาสนาอื่นๆ เป็นอย่างไร และศาสนาของเราเป็นอย่างไร มันเริ่มจากความสงสัย ตอนหมดสัญญาค่ายเพลงจึงเบนเข็มออกมา เปลี่ยนสู่ศาสนา ชื่อเสียงเป็นเรื่องมายา ไม่ยั่งยืน เคยไปอยู่ที่จุดนั้นแล้วแต่ชีวิตก็ไม่ได้สุข จนมาวันนี้ได้เรียนรู้ว่าการทำบางอย่างที่ดีๆ แม้สังคมไม่รู้แต่ตัวเรากลับรู้สึกดี รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าสำหรับผมนี่คือความสุขที่แท้จริงครับ"
"ตอนนี้ผมได้ลงพื้นที่ไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อพูดคุยกับเยาวชนที่นั่น ผมรับผิดชอบในส่วนของปัญหายาเสพติดในเยาวชน ไปให้ข้อคิดให้คำแนะนำในการใช้ชีวิตจากสิ่งที่เราได้พบเจอมา ซึ่งมีเด็กๆ หลายคนเปลี่ยนความคิดได้จากคำพูดของผม รู้สึกเป็นเกียรติ ภูมิใจมากกว่าตอนทำเพลงอีก เหตุผลที่ให้ความสำคัญกับเยาวชนเพราะเราเคยอยู่ในทางโลกมาแบบโชกโชน รู้ว่าวัยรุ่นทำแบบนี้เพราะคิดอะไรอยู่" ตั้งแต่เวลา 22.25 น. เปิดไปชมกันได้ทางช่อง 5 รายการ "เจาะใจ" คืนวันพฤหัสบดีที่ 21 กุมภาพันธ์นี้ไปนั่งพูดคุยกับอดีตนักร้องเพลงร็อคชื่อดัง "โต ซิลลี่ฟูลส์" กับเหตุผลต่างๆ ที่ทำให้เจ้าตัวละทิ้งชื่อเสียงที่โด่งดัง เงินทองที่มากมาย ไปหาเส้นทางสายศาสนาในชื่อของ "ฟิรเดาซ์ ศรัทธายิ่ง" ซึ่งเจ้าตัวบอกว่าแม้จะไม่เป็นที่รู้จักเหมือนแต่ก่อน แม้จะไม่มีเรื่องของชื่อเสียงเงินทองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ตนกลับพบว่านี่แหละคือความสุขที่แท้จริง
"จุดเปลี่ยนเกิดจากช่วงชีวิตที่ยังเป็นนักร้อง ชีวิตประจำวันเริ่มซ้ำๆ ซากๆ เล่นคอนเสิร์ตกลับโรงแรม เวลาไปคอนเสิร์ตผมไม่ค่อยออกไปเที่ยวไปดื่มเลยทำให้มีเวลาคิดเกี่ยวกับตัวเอง คุณค่าของชีวิตเราคืออะไร เลยเริ่มอยากค้นหา ถามว่าการเป็นนักร้องตอบโจทย์ในชีวิตผมไหม ก็อาจจะได้บ้างแต่น้อยมาก อาชีพที่ผมเคยทำ นักร้อง นักแต่งเพลง มีอะไรดีบ้าง ผมได้เงิน มีชื่อเสียงแค่นี้ แต่ผลเสียมันมากกว่า คือ ส่วนหนึ่งทำให้คนตีกัน เมา เล่นยา ส่วนผมมีเงิน มีชื่อเสียง แต่ก็ไม่รู้จะเอาไปทำอะไร และต้องคอยระวังตัวไม่ให้คนด่าเท่านั้นเอง"
"เหตุผลที่ต้องถอนตัวออกมาจากวงการคือความผิดหวังที่ไม่สามารถจะถ่ายทอดความรู้ความจริงผ่านดนตรีได้ พอเริ่มรู้ว่าดนตรีมันถ่ายทอดเรื่องชีวิตไม่ได้ ถ่ายทอดความถูกต้อง อะไรถูกผิดไม่ได้ ไม่สามารถทำให้คนคิดดีทำดีได้ ก็ผิดหวัง จากนั้นก็เริ่มหาวิธีว่าความจริงคืออะไร ผมก็ถอยออกมาคิดดูชีวิตตัวเองก่อนว่าจริงๆ แล้วเราคือใคร เกิดมาทำไม ใครสร้างเรา ศาสนาคืออะไร ศาสนาอื่นๆ เป็นอย่างไร และศาสนาของเราเป็นอย่างไร มันเริ่มจากความสงสัย ตอนหมดสัญญาค่ายเพลงจึงเบนเข็มออกมา เปลี่ยนสู่ศาสนา ชื่อเสียงเป็นเรื่องมายา ไม่ยั่งยืน เคยไปอยู่ที่จุดนั้นแล้วแต่ชีวิตก็ไม่ได้สุข จนมาวันนี้ได้เรียนรู้ว่าการทำบางอย่างที่ดีๆ แม้สังคมไม่รู้แต่ตัวเรากลับรู้สึกดี รู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่าสำหรับผมนี่คือความสุขที่แท้จริงครับ"
"ตอนนี้ผมได้ลงพื้นที่ไปยัง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เพื่อพูดคุยกับเยาวชนที่นั่น ผมรับผิดชอบในส่วนของปัญหายาเสพติดในเยาวชน ไปให้ข้อคิดให้คำแนะนำในการใช้ชีวิตจากสิ่งที่เราได้พบเจอมา ซึ่งมีเด็กๆ หลายคนเปลี่ยนความคิดได้จากคำพูดของผม รู้สึกเป็นเกียรติ ภูมิใจมากกว่าตอนทำเพลงอีก เหตุผลที่ให้ความสำคัญกับเยาวชนเพราะเราเคยอยู่ในทางโลกมาแบบโชกโชน รู้ว่าวัยรุ่นทำแบบนี้เพราะคิดอะไรอยู่" ตั้งแต่เวลา 22.25 น. เปิดไปชมกันได้ทางช่อง 5
เครดิต manager.online
ประวัติ
ณัฐพล พุทธภาวนา เกิดเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2518 เขามีบิดาเป็นแพทย์ และมารดาเป็นนักกวีชาวอินเดีย มีพี่น้อง 3 คน โตเป็นบุตรคนแรก มีน้องสาว 1 คน และมีน้องชายชื่อนที พุทธภาวนา (ที หรือเทญ่า)[2] ชีวิตของโตจึงผูกพันมากับเรื่องงานศิลปะทางด้านขีดเขียน เน้นศิลปะ โครง กลอน ปรัชญา ความคิด ศาสนา จึงส่งผลให้เขาคิดเป็นและถ่ายทอดความรู้สึกเป็นตัวอักษรได้ดี และมีความสนใจทางด้านดนตรีมาตั้งแต่ประมาณอายุ 5-6 ขวบ โตเคยติดตามบิดาไปที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย และจากนั้นก็ไปอยู่ประเทศอินเดียอีก 2 ปี ส่วนตัวโตนับถือศาสนาอิสลาม และมีชื่อทางศาสนาคือ ฟิรเดาซ์ ที่มีความหมายว่า ที่พักบนสวรรค์[1]
ต่อมาโตได้ค้นพบตนเองว่าชอบดนตรี รู้ถึงเสียงอันทรงพลังของเขา โตได้เดินทางมาศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ (เอแบค) โดยเรียนในคณะบริหารธุรกิจ
วันหนึ่งโตได้พบวงซิลลี่ ฟูลส์ในผับแห่งหนึ่ง นักร้องในวงเชิญโตไปร้องเพลง ด้วยเพลง Metallica ของเขา ถึงกับทำให้ จักรินทร์ จูประเสริฐ (ต้น) มือกีตาร์ทาบทามให้เป็นนักร้อง เนื่องจากช่วงนั้นนักร้องนำของวงไปบวช และต่อมาโตจึงได้ร่วมงานกับวงซิลลี่ ฟูลส์ตั้งแต่นั้นมา โดยโตเป็นนักร้องนำ และแต่งเนื้อเพลง จนวงซิลลี่ ฟูลส์ มีชื่อเสียงมากขึ้น โดยเพลงดังของวงได้แก่ จิ๊จ๊ะ, บ้าบอ, น้ำลาย ฯลฯ
โตได้ประกาศแยกออกจากวงซิลลี่ ฟูลส์ ในวันที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2549 โดยโตยืนยันไม่เกี่ยวกับแนวความคิดและไม่ได้ทะเลาะกัน หากแต่เพราะอึดอัดการทำงานที่ค่อนข้างจะขัดกับหลักศาสนาที่นับถือ และอุดมการณ์[3][4]
ณัฐพล พุทธภาวนา ได้ประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2549 โดยขับรถจักรยานยนต์ชนรถยนต์ที่นั่งส่วนบุคคลที่ถนนเทียมร่วมมิตร หน้าศูนย์วัฒนธรรม โดยต่อมาทางโรงพยาบาลได้อนุญาตให้โตกลับบ้านพักได้ แล้วตามคำอนุญาตของแพทย์เจ้าของไข้แล้ว เนื่องจากบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย โดยแข้งขวา และส้นเท้าขวาร้าว โดยแพทย์ได้ใส่เฝือกอ่อนให้[5][6]
หลังออกจากวงซิลลี่ ฟูลส์ โตจึงได้ทำดนตรีก่อน และต่อมาจึงหานักดนตรีมาออดิชั่น หลังจากออดิชั่นกันอยู่ประมาณ 4-5 เดือน ก็ได้เกี๊ย-มือเบส /เก๋-มือกีต้าร์ และก็แสบ-มือกลอง กับแจ๊ค-มือกีต้าร์อีกคนตามลำดับ และได้ตั้งวงแฮงแมนขึ้น และโตได้แต่งเนื้อเพลงมา 10 เพลง จนได้เป็นอัลบั้มแรกของแฮงแมน โดยเปิดอัมบั้มวันที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2550[7]
ปัจจุบันเขาได้ออกจากวงการดนตรีเป็นที่เรียบร้อยแล้วหลังจากค่ายมอร์มิวสิคได้ทำการปิดตัวลง ทั้งสมาชิกวงแฮงแมนก็ได้ทำการแยกวงออกไป ส่วนเขาก็ได้เปลี่ยนชื่อ เป็น นายวีรชน ศรัทธายิ่ง และหันมาใช้ชีวิตตามหลักศาสนาที่เขานับถือต่อไป โดยการเป็นพิธีกรรายการ Motor Vaccine และ โต-ตาล ออกอากาศทางช่องสถานีดาวเทียม WhiteChannel (www.whitechannel.tv)
เครดิต วิกิพีเดีย