เหตุเกิดจากความคิดที่ว่า ความรวยเป็นสิ่งสัมพัทธ์
เป้าหมายชีวิตการสร้างฐานะของคนบางกลุ่ม จึงไม่ใช่เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี
แต่เพื่อมีชีวิตความเป็นอยู่ที่
ดีกว่าคนอื่น
วิธีการแสดงออกของคนเหล่านี้ให้สังคมรู้ว่า ตัวเอง มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าคนอื่นจริงๆ
จะสะท้อนออกผ่านทางรสนิยม ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ มือถือ กระเป๋า การแต่งกาย ร้านอาหารฯลฯ
เมื่อคนจนเริ่มจะมีฐานะขึ้น และเลือกที่จะมีรสนิยมดังกล่าวเหมือนกับคนรวยมากขึ้น
คนรวยจะรู้สึกว่า ของที่ตัวเองใช้ รถที่ตัวเองขับ ร้านอาหารที่ตัวเองกิน ลดความเป็นพรีเมี่ยมลง
และเพื่อเป็นการรักษาความแตกต่างทางฐานะ คนกลุ่มนี้ จะพยายามหารสนิยมระดับใหม่ที่มีความเป็นพรีเมี่ยมมากขึ้น
เพื่อดีดตัวให้เหนือกว่าคนอื่นไปอีกชั้น
แน่นอนว่ารสนิยมระดับพรีเมี่ยมกว่าที่ว่านั้น ต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อแลกมันมาด้วย
คนที่รวยจริงๆก็ไม่มีปัญหา
แต่คนชนชั้นกลางในเมืองซึ่งส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน ที่ชอบมีรสนิยมแบบพรีเมียม แต่รวยไม่จริง
เริ่มมีปัญหา เพราะไม่มีเงินมากพอที่จะหาซื้อสินค้า ซื้อรสนิยมระดับพรีเมี่ยมกว่านั้นได้
พวกเขาจึงจำต้องใช้สินค้าในระดับเดิม ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ รสนิยมที่ดีกว่าแบบสัมพัทธ์หายไป
แย่ไปกว่านั้น บางคนแม้มีเงินไม่มากพอ แต่ก็ยังพยายามสรรหา
จำต้องเบียดเบียนเงินส่วนที่ใช้จ่ายเพื่อความจำเป็น หรือกระทั่งยอมเป็นหนี้บัตรเครดิต
เพื่อเอามาซื้อสินค้า ซื้อรสนิยมเหล่านี้ เพื่อรักษาความรู้สึกเหนือกว่าให้คงอยู่
ซึ่งนั่นทำให้คุณภาพชีวิตจริงๆของพวกเขาลดต่ำลงด้วยซ้ำ
ถึงแม้บางคนอาจจะมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ต่างไปจากเดิม
แต่คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าแบบสัมพัทธ์ในความรู้สึกของคนกลุ่มนี้ลดลงทุกคน
และพวกเขาก็ไม่สามารถยกระดับรสนิยมของตัวเองให้สูงไปอีกขั้นได้อย่างง่ายๆ เนื่องด้วยข้อจำกัดทางด้านการเงิน
เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนชนชั้นกลางบางคน ถึงไม่อยากเห็นคนจนรวยขึ้น
ว่างๆผมเลยลองคิดเล่นๆดู ท่านอื่นว่ายังไงบ้างครับ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยในประเด็นไหน อยากฟังเหตุผล
ปล.อยากได้มุมมองของปรัชญา และการเมืองด้วย ขออนุญาตแท็กนะครับ
คนชนชั้นกลางบางคน ไม่อยากเห็นคนจนรวยขึ้น จริงหรือไม่
เป้าหมายชีวิตการสร้างฐานะของคนบางกลุ่ม จึงไม่ใช่เพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี
แต่เพื่อมีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าคนอื่น
วิธีการแสดงออกของคนเหล่านี้ให้สังคมรู้ว่า ตัวเอง มีคุณภาพชีวิตที่ดีกว่าคนอื่นจริงๆ
จะสะท้อนออกผ่านทางรสนิยม ไม่ว่าจะเป็น รถยนต์ มือถือ กระเป๋า การแต่งกาย ร้านอาหารฯลฯ
เมื่อคนจนเริ่มจะมีฐานะขึ้น และเลือกที่จะมีรสนิยมดังกล่าวเหมือนกับคนรวยมากขึ้น
คนรวยจะรู้สึกว่า ของที่ตัวเองใช้ รถที่ตัวเองขับ ร้านอาหารที่ตัวเองกิน ลดความเป็นพรีเมี่ยมลง
และเพื่อเป็นการรักษาความแตกต่างทางฐานะ คนกลุ่มนี้ จะพยายามหารสนิยมระดับใหม่ที่มีความเป็นพรีเมี่ยมมากขึ้น
เพื่อดีดตัวให้เหนือกว่าคนอื่นไปอีกชั้น
แน่นอนว่ารสนิยมระดับพรีเมี่ยมกว่าที่ว่านั้น ต้องใช้เงินมากขึ้นเพื่อแลกมันมาด้วย
คนที่รวยจริงๆก็ไม่มีปัญหา
แต่คนชนชั้นกลางในเมืองซึ่งส่วนใหญ่เป็นมนุษย์เงินเดือน ที่ชอบมีรสนิยมแบบพรีเมียม แต่รวยไม่จริง
เริ่มมีปัญหา เพราะไม่มีเงินมากพอที่จะหาซื้อสินค้า ซื้อรสนิยมระดับพรีเมี่ยมกว่านั้นได้
พวกเขาจึงจำต้องใช้สินค้าในระดับเดิม ทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ รสนิยมที่ดีกว่าแบบสัมพัทธ์หายไป
แย่ไปกว่านั้น บางคนแม้มีเงินไม่มากพอ แต่ก็ยังพยายามสรรหา
จำต้องเบียดเบียนเงินส่วนที่ใช้จ่ายเพื่อความจำเป็น หรือกระทั่งยอมเป็นหนี้บัตรเครดิต
เพื่อเอามาซื้อสินค้า ซื้อรสนิยมเหล่านี้ เพื่อรักษาความรู้สึกเหนือกว่าให้คงอยู่
ซึ่งนั่นทำให้คุณภาพชีวิตจริงๆของพวกเขาลดต่ำลงด้วยซ้ำ
ถึงแม้บางคนอาจจะมีคุณภาพชีวิตที่ไม่ต่างไปจากเดิม
แต่คุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่าแบบสัมพัทธ์ในความรู้สึกของคนกลุ่มนี้ลดลงทุกคน
และพวกเขาก็ไม่สามารถยกระดับรสนิยมของตัวเองให้สูงไปอีกขั้นได้อย่างง่ายๆ เนื่องด้วยข้อจำกัดทางด้านการเงิน
เพราะฉะนั้น นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้คนชนชั้นกลางบางคน ถึงไม่อยากเห็นคนจนรวยขึ้น
ว่างๆผมเลยลองคิดเล่นๆดู ท่านอื่นว่ายังไงบ้างครับ เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยในประเด็นไหน อยากฟังเหตุผล
ปล.อยากได้มุมมองของปรัชญา และการเมืองด้วย ขออนุญาตแท็กนะครับ