ถึงวันที่ คุณพิชัย รัตตกุล อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง
เป็นการแสดงความห่วงใยระลอกใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า
สำหรับครั้งนี้เป็นการแสดงความ “ห่วง” เกี่ยวกับการทำศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ
กทม.และก็ไม่ผิดหวังเพราะเหตุและผลที่ท่านอรรถาธิบายประกอบการ
พิจารณานั้นเป็นเรื่องที่โต้แย้งยากหากยอมรับความจริง
ซึ่งความเป็นห่วงที่คุณพิชัยโฟกัสนั้น มันอาจกลายเป็นดาบสองคมทำให้
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคแพ้หรือชนะก็คือ
คำถามที่ถามถึงวิธีการหาเสียงของพรรคถูกต้องหรือไม่
“ความเป็นทีม” หายไปไหน
“ผมคิดว่าหากการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์แพ้ หัวหน้าพรรคต้อง
พิจารณาตัวเอง และต้องมีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ในพรรคครั้งใหญ่
เพราะผลของการเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งผลไปถึงการเลือกตั้งใหญ่...
...ถ้าหากครั้งนี้เขาชนะ ผมว่าเขาจะเป็นรัฐบาลไปอีก 20 ปีทีเดียว
เพราะฉะนั้น การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้มีความหมายที่มีนัยสำคัญ
สะท้อนไปถึงการเมืองระดับประเทศ โดยมีอนาคตของ
พรรคประชาธิปัตย์เป็นเดิมพัน”
คิดว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
คนปัจจุบันคงได้รับรู้คำพูดเหล่านี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ไม่แน่ใจว่าคุณอภิสิทธิ์และกลุ่มผลัดใบของท่านจะน้อม
รับแค่ไหน
หรือยังสะบัดอาการเด็กไม่ฟังผู้ใหญ่ไม่หลุดก็สุดจะคาดเดาเพราะระยะหลังมานี้
พรรคประชาธิปัตย์จากเคยเป็นพรรคที่ได้ชื่อว่ามีรูปแบบและมาตรฐานเฉพาะ
แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนไปค่อนข้างไร้รูปแบบคนละทางสองทาง
กลับมาที่ข้อห่วงใยของคุณพิชัย ทำให้นึกถึง “วิธีการ” ที่พรรคประชาธิปัตย์
เอามาเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ด้วยการนำ
เอาอดีตอันขมขื่นของคนทั้งประเทศไทยมาเป็นเกม ซึ่งนิยามของความขมขื่น
ไม่ใช่แค่พุ่งเป้าไปที่คนเสื้อแดงเพียงอย่างเดียวเพราะความขมขื่นนั้นมันเป็น
ปรากฏการณ์ที่เกิดจากการช่วงชิงอำนาจกันไปมาของสารพัดฝ่ายสารพัดสี
ขมขื่นกันทุกกลุ่ม
อารมณ์ขมขื่นนั้นก็คือการเอาบาดแผลเผาบ้านเผาเมืองขึ้นมากรีดซ้ำๆ
หรือในกรณี คุณวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
ที่เอาภาพถ่าย น.ส.อะมีนา กูล หรือน้องไอซ์ สาวลูกครึ่งไทย-ปากีสถาน
ไปแถลงข่าวกลางสภาฯ โดยอ้างคนในภาพเป็นลูกของ ร.ต.อ.เฉลิม
อยู่บำรุง รองนายกฯ มาตามหาพ่อ โดยคุณวัชระมีเป้าประสงค์เดียวก็
เพื่อดิสเครดิต ร.ต.อ.เฉลิม
เชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกันกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
เพราะการทำโพลลับๆของพรรคประชาธิปัตย์มีการชี้พิกัดว่า
ฝั่งธนฯจะเป็นพื้นที่ไฮไลต์ชี้เป็นชี้ตายว่าประชาธิปัตย์หรือ
เพื่อไทยจะได้เก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ไปนั่ง
จึงเป็นอะไรที่กระจ่างมากจาก “วิธีการ” ของคุณวัชระจะมาสอดคล้องต้องกัน
กับแผนจุดไฟลากเผาบ้านเผาเมืองมากระชากเรตติ้งในโค้งสุดท้าย
นานาวิธีการที่ใครปรามาสพรรคประชาธิปัตย์อยู่เสมอตั้งแต่ครั้งอดีตว่า
เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น มาถึงปัจจุบันเสียงปรามาสเหล่านั้นพรรค
ประชาธิปัตย์ก็ยังสลัดไม่พ้น
จากประโยค “จำลองพาคนไปตาย” พัฒนามาเป็น “เผาบ้านเผาเมือง”
และฉาก “ตามหาพ่อเหลิม” ทำให้มาตรฐานประชาธิปัตย์ถูกบั่นทอน
แทบไม่มีชิ้นดี
ที่ต้องมาทุลักทุเล ปุเลงๆให้รอดตายไปวันๆ ชนะก็ไม่ใช่
แพ้ก็ไม่เชิงอยู่ทุกวันนี้มีต้นเรื่องมาจาก “วิธีการ” อะไรทำนองนี้หรือไม่
คงไม่ต้องกลับไปกรอเทปคำพูดของคุณพิชัยฟังให้เสียเวล่ำเวลา
ความจริงประชาธิปัตย์ไม่ต้องไปก้าวข้ามให้พ้นใคร
แค่ก้าวข้ามให้พ้นตัวเองก็มีความสุขแล้ว.
“เจ้าพายุ”ไทยรัฐออนไลน์
โดย สายล่อฟ้า
http://www.thairath.co.th/column/pol/gladai/328835
สายล่อฟ้า ...ปกติ ไม่ค่อยชอบรัฐบาล แต่วันนี้ออกมาเตือนสติปชป.
คงไม่คิดนะคะ ว่า ทักษิณ ซื้ออีกแล้ว
น่าจะเป็นสื่อ อีก 1 ฉบับที่ พูดถึงการเตือนของคุณ พิชัย .....
ต้องถามเพื่อนๆ nonแดง ที่เป็นแฟนปชป. คิดยังไง กับเรื่องนี้
ถามดีๆ ไม่ได้กวน ..... จะมีคนมาตอบไหมเอ่ย ???????
อนาคตเป็นเดิมพัน ...สายล่อฟ้า ...ไทยรัฐออนไลน์
ได้ออกมาแสดงความเป็นห่วงเป็นใยพรรคประชาธิปัตย์อีกครั้ง
เป็นการแสดงความห่วงใยระลอกใหม่ครั้งแล้วครั้งเล่า
สำหรับครั้งนี้เป็นการแสดงความ “ห่วง” เกี่ยวกับการทำศึกเลือกตั้งผู้ว่าฯ
กทม.และก็ไม่ผิดหวังเพราะเหตุและผลที่ท่านอรรถาธิบายประกอบการ
พิจารณานั้นเป็นเรื่องที่โต้แย้งยากหากยอมรับความจริง
ซึ่งความเป็นห่วงที่คุณพิชัยโฟกัสนั้น มันอาจกลายเป็นดาบสองคมทำให้
ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม.ของพรรคแพ้หรือชนะก็คือ
คำถามที่ถามถึงวิธีการหาเสียงของพรรคถูกต้องหรือไม่
“ความเป็นทีม” หายไปไหน
“ผมคิดว่าหากการเลือกตั้งครั้งนี้พรรคประชาธิปัตย์แพ้ หัวหน้าพรรคต้อง
พิจารณาตัวเอง และต้องมีการปรับเปลี่ยนยุทธศาสตร์ในพรรคครั้งใหญ่
เพราะผลของการเลือกตั้งครั้งนี้จะส่งผลไปถึงการเลือกตั้งใหญ่...
...ถ้าหากครั้งนี้เขาชนะ ผมว่าเขาจะเป็นรัฐบาลไปอีก 20 ปีทีเดียว
เพราะฉะนั้น การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้มีความหมายที่มีนัยสำคัญ
สะท้อนไปถึงการเมืองระดับประเทศ โดยมีอนาคตของ
พรรคประชาธิปัตย์เป็นเดิมพัน”
คิดว่า คุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์
คนปัจจุบันคงได้รับรู้คำพูดเหล่านี้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
แต่ไม่แน่ใจว่าคุณอภิสิทธิ์และกลุ่มผลัดใบของท่านจะน้อม
รับแค่ไหน
หรือยังสะบัดอาการเด็กไม่ฟังผู้ใหญ่ไม่หลุดก็สุดจะคาดเดาเพราะระยะหลังมานี้
พรรคประชาธิปัตย์จากเคยเป็นพรรคที่ได้ชื่อว่ามีรูปแบบและมาตรฐานเฉพาะ
แต่ปัจจุบันถูกเปลี่ยนไปค่อนข้างไร้รูปแบบคนละทางสองทาง
กลับมาที่ข้อห่วงใยของคุณพิชัย ทำให้นึกถึง “วิธีการ” ที่พรรคประชาธิปัตย์
เอามาเป็นยุทธศาสตร์สำคัญในการหาเสียงเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม.ด้วยการนำ
เอาอดีตอันขมขื่นของคนทั้งประเทศไทยมาเป็นเกม ซึ่งนิยามของความขมขื่น
ไม่ใช่แค่พุ่งเป้าไปที่คนเสื้อแดงเพียงอย่างเดียวเพราะความขมขื่นนั้นมันเป็น
ปรากฏการณ์ที่เกิดจากการช่วงชิงอำนาจกันไปมาของสารพัดฝ่ายสารพัดสี
ขมขื่นกันทุกกลุ่ม
อารมณ์ขมขื่นนั้นก็คือการเอาบาดแผลเผาบ้านเผาเมืองขึ้นมากรีดซ้ำๆ
หรือในกรณี คุณวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
ที่เอาภาพถ่าย น.ส.อะมีนา กูล หรือน้องไอซ์ สาวลูกครึ่งไทย-ปากีสถาน
ไปแถลงข่าวกลางสภาฯ โดยอ้างคนในภาพเป็นลูกของ ร.ต.อ.เฉลิม
อยู่บำรุง รองนายกฯ มาตามหาพ่อ โดยคุณวัชระมีเป้าประสงค์เดียวก็
เพื่อดิสเครดิต ร.ต.อ.เฉลิม
เชื่อมโยงเป็นเรื่องเดียวกันกับการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.
เพราะการทำโพลลับๆของพรรคประชาธิปัตย์มีการชี้พิกัดว่า
ฝั่งธนฯจะเป็นพื้นที่ไฮไลต์ชี้เป็นชี้ตายว่าประชาธิปัตย์หรือ
เพื่อไทยจะได้เก้าอี้ผู้ว่าฯกทม.ไปนั่ง
จึงเป็นอะไรที่กระจ่างมากจาก “วิธีการ” ของคุณวัชระจะมาสอดคล้องต้องกัน
กับแผนจุดไฟลากเผาบ้านเผาเมืองมากระชากเรตติ้งในโค้งสุดท้าย
นานาวิธีการที่ใครปรามาสพรรคประชาธิปัตย์อยู่เสมอตั้งแต่ครั้งอดีตว่า
เอาดีใส่ตัว เอาชั่วใส่คนอื่น มาถึงปัจจุบันเสียงปรามาสเหล่านั้นพรรค
ประชาธิปัตย์ก็ยังสลัดไม่พ้น
จากประโยค “จำลองพาคนไปตาย” พัฒนามาเป็น “เผาบ้านเผาเมือง”
และฉาก “ตามหาพ่อเหลิม” ทำให้มาตรฐานประชาธิปัตย์ถูกบั่นทอน
แทบไม่มีชิ้นดี
ที่ต้องมาทุลักทุเล ปุเลงๆให้รอดตายไปวันๆ ชนะก็ไม่ใช่
แพ้ก็ไม่เชิงอยู่ทุกวันนี้มีต้นเรื่องมาจาก “วิธีการ” อะไรทำนองนี้หรือไม่
คงไม่ต้องกลับไปกรอเทปคำพูดของคุณพิชัยฟังให้เสียเวล่ำเวลา
ความจริงประชาธิปัตย์ไม่ต้องไปก้าวข้ามให้พ้นใคร
แค่ก้าวข้ามให้พ้นตัวเองก็มีความสุขแล้ว.
“เจ้าพายุ”ไทยรัฐออนไลน์
โดย สายล่อฟ้า
http://www.thairath.co.th/column/pol/gladai/328835
สายล่อฟ้า ...ปกติ ไม่ค่อยชอบรัฐบาล แต่วันนี้ออกมาเตือนสติปชป.
คงไม่คิดนะคะ ว่า ทักษิณ ซื้ออีกแล้ว
น่าจะเป็นสื่อ อีก 1 ฉบับที่ พูดถึงการเตือนของคุณ พิชัย .....
ต้องถามเพื่อนๆ nonแดง ที่เป็นแฟนปชป. คิดยังไง กับเรื่องนี้
ถามดีๆ ไม่ได้กวน ..... จะมีคนมาตอบไหมเอ่ย ???????