ทวี สุรฤทธิกุล เขียน...
โพลล์หลายสำนัก “ชี้” (บ้างก็ว่า “ชี้นำ”)ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะแพ้ให้แก่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ นั่นก็คือพรรคประชาธิปัตย์จะแพ้พรรคเพื่อไทย แหล่งข่าววงในที่บ้านสุขุมวิทของคุณชายสุขุมพันธุ์แจ้งแก่ผู้เขียน(ที่เคยไปช่วยหาเสียงให้ในฐานะที่เคยเป็นลูกศิษย์ของท่านที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ)ว่าคุณชายยังเชื่อมั่นว่าท่านจะชนะ ทว่าแหล่งข่าววงนอกที่พรรคประชาธิปัตย์(ที่ผู้เขียนเคยไปคลุกคลีจัดทำหลักสูตรโรงเรียนการเมืองให้)กลับไม่มั่นใจ
ความไม่มั่นใจหลักๆ ที่ชาวประชาธิปัตย์เป็นกังวลนั้นมีอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรก การลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่า กทม.ของคุณชายสุขุมพันธุ์ใน พ.ศ. 2552 ต้องถือว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุเนื่องจาก นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่เพิ่งชนะเลือกตั้งมาในปี 2551 ต้องลาออกเนื่องจากถูกกล่าวโทษเรื่องการทุจริตซื้อรถดับเพลิง เพื่อรักษาฐานเสียงไว้พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องเข็นคุณชายที่มีภาพลักษณ์ค่อนข้างดีมาลง คะแนนที่ได้ในตอนนั้นจึงไม่แน่ใจว่าจะเป็นคะแนนที่เลือกคุณชายจริงๆ เท่าใด หรือว่าเป็นฐานเสียงเก่าที่คุณอภิรักษ์ ส.ส. ส.ก และส.ข.ของพรรคทำไว้ให้
เรื่องต่อมา แม้พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่าฐานเสียงและคะแนนจัดตั้งที่ตนเองมีอยู่แล้วน่าจะมีมากกว่าพรรคเพื่อไทย แต่ด้วยเวลาที่เปลี่ยนไปในสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่ๆ หลายอย่าง โดยเฉพาะความล้มเหลวของการเป็นฝ่ายค้านในช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล รวมกับที่คุณชายไปเหยียบอ่างกะปิ(เป็นคำอุปมาของคนโบราณหมายถึงทำความผิดพลาดต่างๆ ด้วยความซุ่มซ่าม)ให้คนโห่ฮาเอาในหลายๆ เรื่อง จึงน่าเป็นห่วงว่าคะแนนที่เคยมีมากนั้นอาจจะพร่องหายไปมิใช่น้อย แต่ที่สำคัญก็คือ “ลูกเล่น” ของตัวผู้สมัครแพ้พรรคเพื่อไทยหลุดลุ่ย
เซียนการเมืองบางฉบับตั้งข้อสังเกตว่าพรรคประชาธิปัตย์มีปัญหาภายในพรรคมากกว่าพรรคเพื่อไทยเสียอีก เพราะพรรคเพื่อไทยอย่างน้อยก็สามารถกลบเกลื่อนความขัดแย้งในกลุ่มของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ได้ค่อนข้างดี รวมทั้งยุทธศาสตร์ในการหาเสียงก็สุขุมลุ่มลึก มีจังหวะจะโคน และโดนใจผู้คนได้หลากหลายมากกว่า ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ดูจะยักแย่ยักยันในการส่งตัวผู้สมัครจนกองเชียร์ใจแป้ว แม้จะได้ตัวคุณชายสุขุมพันธุ์มาก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมาอย่างถลอกปอกเปิก ที่สำคัญการวางเกมและการ “ปล่อยของ” สู้พรรคเพื่อไทยไม่ได้
เซียนการเมืองอีกฉบับหนึ่งตั้งข้อตำหนิว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ค่อย “พัฒนา” ทั้งรูปแบบ เทคนิค และสาระในการหาเสียง ในรูปแบบก็คือการระดมสรรพกำลังนักการเมืองในพรรคทั้งหลายให้ออกมาช่วยกัน แต่บางคนเช่นเลขาธิการพรรคและ “กลุ่มเกลียดสุขุมพันธุ์” กลับเอาเท้าราน้ำ ส่วนเทคนิคก็เอาแต่พูดๆๆ โดยที่สาระก็เป็นทำนอง “ด่าลูกเดียว” ทั้งที่ออกในสื่อทีวีและโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่หลายคนหวังว่าน่าจะมีหัวทันสมัยมากกว่านี้ แต่ก็ไม่มีอะไร “เปี๊ยนแปง”
ที่มา
http://www.siamrath.co.th/web/?q=%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89
ถ้า "ประชาธิปัตย์"แพ้???? สยามรัฐออนไลน์ /??
โพลล์หลายสำนัก “ชี้” (บ้างก็ว่า “ชี้นำ”)ว่า ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร จะแพ้ให้แก่ พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ นั่นก็คือพรรคประชาธิปัตย์จะแพ้พรรคเพื่อไทย แหล่งข่าววงในที่บ้านสุขุมวิทของคุณชายสุขุมพันธุ์แจ้งแก่ผู้เขียน(ที่เคยไปช่วยหาเสียงให้ในฐานะที่เคยเป็นลูกศิษย์ของท่านที่คณะรัฐศาสตร์ จุฬาฯ)ว่าคุณชายยังเชื่อมั่นว่าท่านจะชนะ ทว่าแหล่งข่าววงนอกที่พรรคประชาธิปัตย์(ที่ผู้เขียนเคยไปคลุกคลีจัดทำหลักสูตรโรงเรียนการเมืองให้)กลับไม่มั่นใจ
ความไม่มั่นใจหลักๆ ที่ชาวประชาธิปัตย์เป็นกังวลนั้นมีอยู่ 2 เรื่อง เรื่องแรก การลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นผู้ว่า กทม.ของคุณชายสุขุมพันธุ์ใน พ.ศ. 2552 ต้องถือว่าเป็นเรื่องของอุบัติเหตุเนื่องจาก นายอภิรักษ์ โกษะโยธิน ที่เพิ่งชนะเลือกตั้งมาในปี 2551 ต้องลาออกเนื่องจากถูกกล่าวโทษเรื่องการทุจริตซื้อรถดับเพลิง เพื่อรักษาฐานเสียงไว้พรรคประชาธิปัตย์ก็ต้องเข็นคุณชายที่มีภาพลักษณ์ค่อนข้างดีมาลง คะแนนที่ได้ในตอนนั้นจึงไม่แน่ใจว่าจะเป็นคะแนนที่เลือกคุณชายจริงๆ เท่าใด หรือว่าเป็นฐานเสียงเก่าที่คุณอภิรักษ์ ส.ส. ส.ก และส.ข.ของพรรคทำไว้ให้
เรื่องต่อมา แม้พรรคประชาธิปัตย์เชื่อมั่นว่าฐานเสียงและคะแนนจัดตั้งที่ตนเองมีอยู่แล้วน่าจะมีมากกว่าพรรคเพื่อไทย แต่ด้วยเวลาที่เปลี่ยนไปในสถานการณ์ทางการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่ๆ หลายอย่าง โดยเฉพาะความล้มเหลวของการเป็นฝ่ายค้านในช่วงที่พรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล รวมกับที่คุณชายไปเหยียบอ่างกะปิ(เป็นคำอุปมาของคนโบราณหมายถึงทำความผิดพลาดต่างๆ ด้วยความซุ่มซ่าม)ให้คนโห่ฮาเอาในหลายๆ เรื่อง จึงน่าเป็นห่วงว่าคะแนนที่เคยมีมากนั้นอาจจะพร่องหายไปมิใช่น้อย แต่ที่สำคัญก็คือ “ลูกเล่น” ของตัวผู้สมัครแพ้พรรคเพื่อไทยหลุดลุ่ย
เซียนการเมืองบางฉบับตั้งข้อสังเกตว่าพรรคประชาธิปัตย์มีปัญหาภายในพรรคมากกว่าพรรคเพื่อไทยเสียอีก เพราะพรรคเพื่อไทยอย่างน้อยก็สามารถกลบเกลื่อนความขัดแย้งในกลุ่มของคุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ได้ค่อนข้างดี รวมทั้งยุทธศาสตร์ในการหาเสียงก็สุขุมลุ่มลึก มีจังหวะจะโคน และโดนใจผู้คนได้หลากหลายมากกว่า ในขณะที่พรรคประชาธิปัตย์ดูจะยักแย่ยักยันในการส่งตัวผู้สมัครจนกองเชียร์ใจแป้ว แม้จะได้ตัวคุณชายสุขุมพันธุ์มาก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคมาอย่างถลอกปอกเปิก ที่สำคัญการวางเกมและการ “ปล่อยของ” สู้พรรคเพื่อไทยไม่ได้
เซียนการเมืองอีกฉบับหนึ่งตั้งข้อตำหนิว่าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ค่อย “พัฒนา” ทั้งรูปแบบ เทคนิค และสาระในการหาเสียง ในรูปแบบก็คือการระดมสรรพกำลังนักการเมืองในพรรคทั้งหลายให้ออกมาช่วยกัน แต่บางคนเช่นเลขาธิการพรรคและ “กลุ่มเกลียดสุขุมพันธุ์” กลับเอาเท้าราน้ำ ส่วนเทคนิคก็เอาแต่พูดๆๆ โดยที่สาระก็เป็นทำนอง “ด่าลูกเดียว” ทั้งที่ออกในสื่อทีวีและโซเชียลมีเดียต่างๆ ที่หลายคนหวังว่าน่าจะมีหัวทันสมัยมากกว่านี้ แต่ก็ไม่มีอะไร “เปี๊ยนแปง”
ที่มา http://www.siamrath.co.th/web/?q=%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B8%9B%E0%B8%B1%E0%B8%95%E0%B8%A2%E0%B9%8C%E0%B9%81%E0%B8%9E%E0%B9%89