ใครที่เสิร์ท google มาเจอก็เตือนๆภัยกันไปนะค่ะ สังคมสมัยนี้ทำอะไรไม่ได้นอกจากช่วยเหลือตัวเอง
นี้ยังดีแค่โดนงัดรถ ดูข่าวทุกวันบางคนเอากันถึงตาย
แล้วอยากจะบอกถึงทาง premium outlet ปากช่อง เองด้วยว่า เล่าให้ใครฟัง เขาก็คิดว่าเป็นคนในทั้งนั่น
เพียงเพราะว่ากล้องวงจรปิดดูไม่ได้(เขาเหล่านั้นอ้างว่าอย่างนั้น) และยามที่ห่างไปเพียง 10 เมตร บอกไม่เจออะไรผิดปกติ อยู่มา 8 ปีไม่เคยเจออะไรแบบนี้ (ยามอยู่นานไปมั๊ย โรงเรียน ทีฉันเรียนอยู่เปลี่ยนยามทุก 2 ปีได้มั้ง )
แต่ถ้ากล้องวงจรปิดของทาง premium outlet ปากช่อง เองดูได้ คดีอาจจะพลิก เราก็จะขอบคุณมากกและไม่คิดติดใจคะ และมีผู้ที่อ้างว่าเป็นคนของทาง Outlet เองมาตอบแสดงความเห็นใจ เพียงแค่นั้น ไม่ได้คิดจะช่่วยอะไรอย่างอื่นอีกเลย ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเพียงแค่หน้าม้ามาตอบขั้นเวลาไเพื่อให้จบข่าว
เริ่มเรื่องดีกว่า ....
ต้องขอกล่าวไว้ก่อนนะ ว่าเป็นความประมาทของเราด้วย ที่วางของทิ้งไว้บนรถ อันนี้ขอยอมรับจ้าว่าเราผิดจริง (ไม่อยากจะโยน "ขี้" ให้เขาทั้งที่ยังไม่ทราบความจริง
เรื่องเกิดขึ้นวันที่ 22 กุมภา ซึ่งเราเดินทางจากขอนแก่น เพื่อจะเข้ากรุงเทพ สำหรับเตรียมซื้อของที่จะนำไปทริปยุโรปต้นเดือนเมษายนด้วย
ระหว่างทางได้แวะที่ premium outlet ปากช่อง ถ้าใครเคยแวะไปที่นั้นจะทราบว่า จะมีที่จอดรถด้านหน้าที่ติดกับถนน มันเป็นที่โล่งแจ้ง ไม่มีหลังคา พอเข้าทางเข้าแล้วจะเจอยามนั่งจดจำนวนรถอยู่ แล้วเลี้ยวขวา เราจอดรถฝั่งติดถนน ตรงข้ามร้านสตาร์บัค ห่างจากยามเพียง 10 เมตร และเป็นความประมาทมากที่ทิ้งทรัพย์สินมีค่าไว้บนรถทั้งหมด เพราะของเยอะมาก ขอให้เชื่อเถอะว่ามีบางคน บางคนที่คิดเหมือนเรา และอาจจะส่วนใหญ่ด้วย ที่เพียงแค่คิดจะแวะเดินระหว่างทางไม่นาน แล้วของมันเยอะมากคงไม่คิดที่จะแบกของทั้งหมดลงไปกระเตงด้วย รถที่เอาไปเป็น รถsuv ด้านหลังติดแก๊ส จึงไม่ได้เอาของไว้ด้านหลังทรัพย์สินที่หายไปอยู่ในกระเป๋า 4 ใบ หายไปพร้อมกระเป๋า
กล้อง Nikon D700 พร้อมกริ๊บเลนส์ ข้างกล่องเขียน serial No. 6057689
และ D300 พร้อมกริ๊บเลนส์ ข้างกล่องเขียน serial No. 2425215
Macbook pro 13" 2
serial No. W8105LYRATM
serial No. W81048RZATM
External HD buffalo 500gb สีแดงดำ เก็บงานไว้ในนั้นทั้งชีวิตเยอะมากมาย
เรื่องที่สำคัญคือ passport เราหายไปด้วย ซึ่งเรากังวลมาก ว่าเราต้องทำวีซ่า (เชงเก้นฝรั่งเศส) ใหม่ จ่ายเงินทุกอย่างทริปนี้ไว้หมดแล้ว ถ้ายกเลิกคงไม่ได้ กลัวว่าถ้ายื่นขอใหม่จะได้ไม่ทันเดินทางเพราะเห็นว่าช่วงนี้คนขอเยอะด้วย
ก่อนเราจะลงรถเราถือ ipad mini และคิดว่าไม่เอาไปดีกว่า เลยเอาวางแอบๆไว้ข้างๆกระเป๋าแมคบุคแต่ ipad ไม่หาย เพราะเราใส่เคสแบบปิดหน้าไว้ด้วย เห็นมันนอนแน่นิ่งอยู่เครื่องเดียวรวมกับหนังสือลูฟและแวซาร์ยที่พี่เรายืม อ ที่ มข ให้มาอ่านเป็นข้อมูล คิดว่าโจรน่าจะมองเป็นสมุดโนตธรรมดา
เราจำได้ว่าพอล็อครถแล้ว(ล็อคแน่ๆคะ รีโมทไฟฟ้ากดเสียงล็อคดัง ป๊อก!! )เราเดินตรงเข้าไปยังร้าน north face ก่อนเลยเพราะตั้งใจจะมาดูร้องเท้าสำหรับทริปนี้ แต่ไม่มีคนขายเลยคิดว่าสงสัยพนักงานไปทานข้าว ซึ่งเราหยิบiphone มาดูเวลา จำได้เลยว่าเวลา 12.27 น. ซึ่งเราต้องจอดรถตรงที่จอดรถด้านหน้าประมาณ เที่ยงกว่าๆ เพราะไม่ได้เดินอ้อยอิ่ง เดินตรงมาดูรองเท้าที่นี้เลย และพอไม่เห็นพนักงานก็ได้เดินวนออกไปด้านหน้าเพื่อซื้อเสื้อร้าน Depper แค่นั้น ไม่ได้แวะที่ไหนอีก ออกมารถกดรีโมทเปิดล็อครถ เปิดรถมา ของหายเกลี้ยงคะ ตอนนั้นเวลาประมาณ บ่ายกว่าๆ(ที่มาถึงรถ) จำเวลาแน่นอนไม่ได้คะว่าบ่ายกี่โมง เพราะสั่นมากแล้วตอนนั้น ไม่มีร่องรอยทุบกระจก คิดว่าน่าจะงัดตรงช่องเสียบกุญแจ รถก็ล๊อคไว้เหมือนเดิมเพราะจำได้เลยว่าตอนเดินกำลังเปิดจะขึ้นรถยังได้กดรีโมทปลดล็อคดัง ป๊อก!! (อุตส่าล็อคไว้ให้เหมือนเดิม สงสัยกลัวจะมีคนมาขโมยสมบัติชิ้นสุดท้าย ipad mini ของเรา
คิดว่าคนร้ายดูลาดเลาไว้ก่อนแน่ๆค่ะ เพราะเราเข้าไปในนั้นไม่ถึง 1 ชม. ไวมากๆไม่มีรอยทุบกระจก มีแต่รอยงัดที่รูกุญแจ (ซึ่งตอนหลังได้คุยกับผู้ที่มีความรู้เขาบอกว่า รูกุญแจเราเป็นแบบเก่า แบบเบ้า ซึ้งทำการโจรกรรมได้ง่าย)
แอบเห็นฝากรอยมือไว้ที่กระจกหลังด้วย คิดอยู่เชียวหรือรอยมือเราเองฟร่ะ
สิ่งแรกที่คิดได้คือ ตรงไปถามยาม ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณสัก 10 เมตรขอดูกล้องวงจรปิด กล้องเขาก็หันหน้ามาไม่ถึงรถเรา เพราะว่ากล้องจะหันไปทางร้านสตาร์บัค แล้วจะเห็นทางเข้ามา อีกนิดเดียวก็จะเห็นรถเราเราเลยขอร้องให้เขาช่วยดูย้อนหลังได้ไหม เพื่อว่าโจรจะมาจอดรถ ด่อมๆมองๆ หรือเห็นคนหอบของผ่านไปบ้าง เพราะของไม่น้อยเลยคะ กระเป๋า 4ใบ และน้ำหนักหนักมากกเขาบอกว่า ดูได้แต่ภาพปัจจุบันคะ ย้อนกลับไปดูไม่ได้ อึ๊กกกกกและเขาบอกกันตัวเองไว้ก่อนด้วยว่า 8ปีที่นี้ไม่เคยมีเหตการณ์แบบนี้ (ซึ่งเราไม่ได้จะโทษเขานะค่ะ แต่อยากขอร้องให้ช่วยดูกล้องวงจรปิดเผื่อเจอเบาะแสอะไรบ้าง)
จบกันคะ ไม่มีคำแนะนำอื่นอีกเลย จากนั้นสิ่งที่ทำได้คือ แจ้งความที่ สน. ปากช่องและทำใจกับของที่เสียไปคะ
ที่เอามาแชร์นี้ไม่ได้อยากร้องเรียนอะไรนะค่ะแค่อยากเตือนว่าอย่าประมาทเหมือนเรา ของเยอะมาก เลยไม่คิดจะหอบพะรุงพะรังไปเดินคะ เพราะมันหนักเอาการทีเดียว รถเราติดฟีล์มดำ แถมจอดอยู่ในที่โล่ง ติดฝั่งถนนใหญ่ ไม่ได้จอดด้านหลังหรือใต้อาคารที่เป็นที่มืด ที่เปลี่ยวเลย เลยไม่คิดคะว่าจะโดนจนหมดขนาดนี้
ไม่ได้คิดอยากได้ของคืนเลยตอนนี้ อยากได้แค่ passport และ Visa อืออออออ
กล้อง Nikon D700 และ D300 พร้อมเลนส์ พร้อมกริ๊บ ตอนนี้เหลือแต่กล่องคะ
Macbook pro 13" 2เครื่อง เหลือแต่กล่องเช่นเดียวกันคะ เลยถ่ายรูป Serial No. มาลง เพื่อโชคจะดี แฮ่....
อันนี้คือลักษณะกระเป๋าที่ใส่ macbook คะ
และอันนี้คือลักษณะกระเป๋าที่ใส่กล้องคะ (รูปที่ 2 ไม่ได้ถ่ายกระเป๋าใบจริงไว้เลย แต่รูปทรงและสีคล้ายกันคะ แต่จะไม่มีกระเป๋าเล็กด้านข้าง)
และยังมี External HD buffalo 500gb เก็บงานไว้ในนั้นทั้งชีวิตเยอะมากมาย
[img]http://f.ptcdn.info/495/002/000/136
เตือนภัย ด้วยความประมาทของเรา โดนงัดรถที่ premium outlet ปากช่อง
ใครที่เสิร์ท google มาเจอก็เตือนๆภัยกันไปนะค่ะ สังคมสมัยนี้ทำอะไรไม่ได้นอกจากช่วยเหลือตัวเอง
นี้ยังดีแค่โดนงัดรถ ดูข่าวทุกวันบางคนเอากันถึงตาย
แล้วอยากจะบอกถึงทาง premium outlet ปากช่อง เองด้วยว่า เล่าให้ใครฟัง เขาก็คิดว่าเป็นคนในทั้งนั่น
เพียงเพราะว่ากล้องวงจรปิดดูไม่ได้(เขาเหล่านั้นอ้างว่าอย่างนั้น) และยามที่ห่างไปเพียง 10 เมตร บอกไม่เจออะไรผิดปกติ อยู่มา 8 ปีไม่เคยเจออะไรแบบนี้ (ยามอยู่นานไปมั๊ย โรงเรียน ทีฉันเรียนอยู่เปลี่ยนยามทุก 2 ปีได้มั้ง )
แต่ถ้ากล้องวงจรปิดของทาง premium outlet ปากช่อง เองดูได้ คดีอาจจะพลิก เราก็จะขอบคุณมากกและไม่คิดติดใจคะ และมีผู้ที่อ้างว่าเป็นคนของทาง Outlet เองมาตอบแสดงความเห็นใจ เพียงแค่นั้น ไม่ได้คิดจะช่่วยอะไรอย่างอื่นอีกเลย ซึ่งนั่นก็อาจจะเป็นเพียงแค่หน้าม้ามาตอบขั้นเวลาไเพื่อให้จบข่าว
เริ่มเรื่องดีกว่า ....
ต้องขอกล่าวไว้ก่อนนะ ว่าเป็นความประมาทของเราด้วย ที่วางของทิ้งไว้บนรถ อันนี้ขอยอมรับจ้าว่าเราผิดจริง (ไม่อยากจะโยน "ขี้" ให้เขาทั้งที่ยังไม่ทราบความจริง
เรื่องเกิดขึ้นวันที่ 22 กุมภา ซึ่งเราเดินทางจากขอนแก่น เพื่อจะเข้ากรุงเทพ สำหรับเตรียมซื้อของที่จะนำไปทริปยุโรปต้นเดือนเมษายนด้วย
ระหว่างทางได้แวะที่ premium outlet ปากช่อง ถ้าใครเคยแวะไปที่นั้นจะทราบว่า จะมีที่จอดรถด้านหน้าที่ติดกับถนน มันเป็นที่โล่งแจ้ง ไม่มีหลังคา พอเข้าทางเข้าแล้วจะเจอยามนั่งจดจำนวนรถอยู่ แล้วเลี้ยวขวา เราจอดรถฝั่งติดถนน ตรงข้ามร้านสตาร์บัค ห่างจากยามเพียง 10 เมตร และเป็นความประมาทมากที่ทิ้งทรัพย์สินมีค่าไว้บนรถทั้งหมด เพราะของเยอะมาก ขอให้เชื่อเถอะว่ามีบางคน บางคนที่คิดเหมือนเรา และอาจจะส่วนใหญ่ด้วย ที่เพียงแค่คิดจะแวะเดินระหว่างทางไม่นาน แล้วของมันเยอะมากคงไม่คิดที่จะแบกของทั้งหมดลงไปกระเตงด้วย รถที่เอาไปเป็น รถsuv ด้านหลังติดแก๊ส จึงไม่ได้เอาของไว้ด้านหลังทรัพย์สินที่หายไปอยู่ในกระเป๋า 4 ใบ หายไปพร้อมกระเป๋า
กล้อง Nikon D700 พร้อมกริ๊บเลนส์ ข้างกล่องเขียน serial No. 6057689
และ D300 พร้อมกริ๊บเลนส์ ข้างกล่องเขียน serial No. 2425215
Macbook pro 13" 2
serial No. W8105LYRATM
serial No. W81048RZATM
External HD buffalo 500gb สีแดงดำ เก็บงานไว้ในนั้นทั้งชีวิตเยอะมากมาย
เรื่องที่สำคัญคือ passport เราหายไปด้วย ซึ่งเรากังวลมาก ว่าเราต้องทำวีซ่า (เชงเก้นฝรั่งเศส) ใหม่ จ่ายเงินทุกอย่างทริปนี้ไว้หมดแล้ว ถ้ายกเลิกคงไม่ได้ กลัวว่าถ้ายื่นขอใหม่จะได้ไม่ทันเดินทางเพราะเห็นว่าช่วงนี้คนขอเยอะด้วย
ก่อนเราจะลงรถเราถือ ipad mini และคิดว่าไม่เอาไปดีกว่า เลยเอาวางแอบๆไว้ข้างๆกระเป๋าแมคบุคแต่ ipad ไม่หาย เพราะเราใส่เคสแบบปิดหน้าไว้ด้วย เห็นมันนอนแน่นิ่งอยู่เครื่องเดียวรวมกับหนังสือลูฟและแวซาร์ยที่พี่เรายืม อ ที่ มข ให้มาอ่านเป็นข้อมูล คิดว่าโจรน่าจะมองเป็นสมุดโนตธรรมดา
เราจำได้ว่าพอล็อครถแล้ว(ล็อคแน่ๆคะ รีโมทไฟฟ้ากดเสียงล็อคดัง ป๊อก!! )เราเดินตรงเข้าไปยังร้าน north face ก่อนเลยเพราะตั้งใจจะมาดูร้องเท้าสำหรับทริปนี้ แต่ไม่มีคนขายเลยคิดว่าสงสัยพนักงานไปทานข้าว ซึ่งเราหยิบiphone มาดูเวลา จำได้เลยว่าเวลา 12.27 น. ซึ่งเราต้องจอดรถตรงที่จอดรถด้านหน้าประมาณ เที่ยงกว่าๆ เพราะไม่ได้เดินอ้อยอิ่ง เดินตรงมาดูรองเท้าที่นี้เลย และพอไม่เห็นพนักงานก็ได้เดินวนออกไปด้านหน้าเพื่อซื้อเสื้อร้าน Depper แค่นั้น ไม่ได้แวะที่ไหนอีก ออกมารถกดรีโมทเปิดล็อครถ เปิดรถมา ของหายเกลี้ยงคะ ตอนนั้นเวลาประมาณ บ่ายกว่าๆ(ที่มาถึงรถ) จำเวลาแน่นอนไม่ได้คะว่าบ่ายกี่โมง เพราะสั่นมากแล้วตอนนั้น ไม่มีร่องรอยทุบกระจก คิดว่าน่าจะงัดตรงช่องเสียบกุญแจ รถก็ล๊อคไว้เหมือนเดิมเพราะจำได้เลยว่าตอนเดินกำลังเปิดจะขึ้นรถยังได้กดรีโมทปลดล็อคดัง ป๊อก!! (อุตส่าล็อคไว้ให้เหมือนเดิม สงสัยกลัวจะมีคนมาขโมยสมบัติชิ้นสุดท้าย ipad mini ของเรา
คิดว่าคนร้ายดูลาดเลาไว้ก่อนแน่ๆค่ะ เพราะเราเข้าไปในนั้นไม่ถึง 1 ชม. ไวมากๆไม่มีรอยทุบกระจก มีแต่รอยงัดที่รูกุญแจ (ซึ่งตอนหลังได้คุยกับผู้ที่มีความรู้เขาบอกว่า รูกุญแจเราเป็นแบบเก่า แบบเบ้า ซึ้งทำการโจรกรรมได้ง่าย)
แอบเห็นฝากรอยมือไว้ที่กระจกหลังด้วย คิดอยู่เชียวหรือรอยมือเราเองฟร่ะ
สิ่งแรกที่คิดได้คือ ตรงไปถามยาม ซึ่งอยู่ห่างไปประมาณสัก 10 เมตรขอดูกล้องวงจรปิด กล้องเขาก็หันหน้ามาไม่ถึงรถเรา เพราะว่ากล้องจะหันไปทางร้านสตาร์บัค แล้วจะเห็นทางเข้ามา อีกนิดเดียวก็จะเห็นรถเราเราเลยขอร้องให้เขาช่วยดูย้อนหลังได้ไหม เพื่อว่าโจรจะมาจอดรถ ด่อมๆมองๆ หรือเห็นคนหอบของผ่านไปบ้าง เพราะของไม่น้อยเลยคะ กระเป๋า 4ใบ และน้ำหนักหนักมากกเขาบอกว่า ดูได้แต่ภาพปัจจุบันคะ ย้อนกลับไปดูไม่ได้ อึ๊กกกกกและเขาบอกกันตัวเองไว้ก่อนด้วยว่า 8ปีที่นี้ไม่เคยมีเหตการณ์แบบนี้ (ซึ่งเราไม่ได้จะโทษเขานะค่ะ แต่อยากขอร้องให้ช่วยดูกล้องวงจรปิดเผื่อเจอเบาะแสอะไรบ้าง)
จบกันคะ ไม่มีคำแนะนำอื่นอีกเลย จากนั้นสิ่งที่ทำได้คือ แจ้งความที่ สน. ปากช่องและทำใจกับของที่เสียไปคะ
ที่เอามาแชร์นี้ไม่ได้อยากร้องเรียนอะไรนะค่ะแค่อยากเตือนว่าอย่าประมาทเหมือนเรา ของเยอะมาก เลยไม่คิดจะหอบพะรุงพะรังไปเดินคะ เพราะมันหนักเอาการทีเดียว รถเราติดฟีล์มดำ แถมจอดอยู่ในที่โล่ง ติดฝั่งถนนใหญ่ ไม่ได้จอดด้านหลังหรือใต้อาคารที่เป็นที่มืด ที่เปลี่ยวเลย เลยไม่คิดคะว่าจะโดนจนหมดขนาดนี้
ไม่ได้คิดอยากได้ของคืนเลยตอนนี้ อยากได้แค่ passport และ Visa อืออออออ
กล้อง Nikon D700 และ D300 พร้อมเลนส์ พร้อมกริ๊บ ตอนนี้เหลือแต่กล่องคะ
Macbook pro 13" 2เครื่อง เหลือแต่กล่องเช่นเดียวกันคะ เลยถ่ายรูป Serial No. มาลง เพื่อโชคจะดี แฮ่....
อันนี้คือลักษณะกระเป๋าที่ใส่ macbook คะ
และอันนี้คือลักษณะกระเป๋าที่ใส่กล้องคะ (รูปที่ 2 ไม่ได้ถ่ายกระเป๋าใบจริงไว้เลย แต่รูปทรงและสีคล้ายกันคะ แต่จะไม่มีกระเป๋าเล็กด้านข้าง)
และยังมี External HD buffalo 500gb เก็บงานไว้ในนั้นทั้งชีวิตเยอะมากมาย
[img]http://f.ptcdn.info/495/002/000/136