พึ่งปั่นจักรยานมาได้ 2-3 เดือนครับ
พบปัญหาเวลาปั่นไปบนถนนที่ไม่มีไหล่ทาง หรือไหล่ทางมีรถจอดเต็มแล้ว
ผมจะปั่นอยู่เลนซ้ายสุด พยายามให้ชิดซ้ายมากที่สุด ปั่นเร็วประมาณ 16 กม./ชม.
รถส่วนใหญ่จะวิ่งอยู่เลนขวา ก็ไม่มีปัญหาอะไร
แต่ปั่นไปพักๆ บางช่วงเลนซ้ายที่เราปั่นอยู่ข้างหน้าโล่ง แต่เลนขวามีรถแล่นอยู่ 2-3 คัน
จากนั้นจะมีรถยนต์ที่ชอบขับซิ่ง ขับมาบี้จักรยานของผม เพื่อจะวิ่งในเลนซ้ายที่ยังโล่ง
โดยเขาจะขับมาขนานกับจักรยานผม จากนั้นยื่นหัวรถเอียงซ้ายเข้ามาบี้เลนผม
จนผมต้องรีบเบรคหัวทิ่ม ไม่งั้นได้ชนข้างกับรถใหญ่
พอรถผมหยุดแล้ว เขาก็จะหักซ้ายเข้ามาวิ่งเต็มเลนไป แล้วค่อยไปแซงซ้ายรถเลนขวาเอาข้างหน้า
ทำให้เสียวๆอยู่เหมือนกัน เกิดกดเบรคไม่ทันนี่ผมคงได้นอนหยอดน้ำข้าวแน่ๆ

ที่น่ากลัวที่สุด มีอยู่ครั้งนึงผมโดนรถใหญ่ขับบี้เอาเลนแบบเดียวกันนี้  แต่คราวนี้มันเป็นรถทัวร์ o_O"
พี่แกก็ยื่นหัวเข้ามาบี้ตามสูตร ผมก็รีบเบรคหัวทิ่มเหมือนทุกที
แต่ที่ต่างกันคือ หลังจากหัวรถทัวร์เข้าเลนซ้ายแล้ว ท้ายรถมันปัดเข้ามาหาผม
วินาทีนั้นผมนึกถึงภาพตัวเองเป็นลูกขนไก่ มีไม้แบตกำลังหวดเข้ามายังงั้นเลย
ผมตกใจมาก รีบปั่นจักรยานโจนลงข้างทางซึ่งเป็นพงหญ้า และพุ่มไม้เตี้ยๆ
ล้อรถผมเกี่ยวพุ่มไม้ ผมเลยล้มลงบนกอหญ้า ไม่ค่อยเจ็บเท่าไหร่
แต่แขนขาโดยกิ่งไม้เกี่ยวถลอกเป็นทาง อยู่ 2-3 รอย

เลยอยากถามเพื่อนๆที่มีประสบการณ์ปั่นจักรยานบนถนนดังนี้ครับ

1. มีวิธีปั่นจักรยานไม่ให้รถใหญ่อย่าง เก๋ง กระบะ รถเมล์ **TAXI** ขับบี้เอาเลนไหมครับ

2. ถ้ารถใหญ่มากอย่าง รถทัวร์/เมล์ มาขับบี้เอาเลน จะมีวิธีแก้ไขที่นุมนวลกว่าที่ผมทำไปไหมครับ

3. ถ้าฟุตบาทข้างทางมีแผงกั้น แล้วรถทัวร์ขับบี้มา จะทำยังไงดีครับ ถึงกับต้องสละจักรยาน แล้วปีนแผงกั้นฟุตบาทหรือเปล่า

4. หรือว่าผมระแวงรถทัวร์มากไปหน่อย ความจริงแค่ผมหยุดรถเฉยๆ
รถทัวร์ก็จะแย่งเลนผมไปวิ่งต่อตามปกติ โดยท้ายรถทัวร์ไม่ได้ปัดมาโดนผมแต่อย่างใด
ไม่จำเป็นต้องรีบหนีจากถนน     แต่ผมสังเกตุว่าหลังจากผมล้มลงข้างทางแล้ว
รถทัวร์ก็วิ่งเลนซ้ายแบบเต็มเลนพอดีไม่มีช่องว่าง เลยคิดว่าถ้าผมยังจอดอยู่บนถนนก็ไม่น่าจะรอดนะครับ