สองปีที่แล้วตั้งกระทูบำเพ็ญประโยชน์ ตอบทุกคำถามเกี่ยวกับเขาคิชฌกูฏ ในฐานะคนพื้นที่ เพื่อให้ข้อมูลคนที่ไม่เคยมา
แต่ปีนี้ขอขัดผลประโยชน์บ้างนะคะ เมื่อก่อนสถานที่แห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ขึ้นไปเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท รำลึกถึงพระพุทธเจ้า มีเงิน 20 บาทก็ขึ้นได้ มีแค่ธูป เทียน ทอง ดอกไม้มีก็ได้ไม่มีก็ได้
เมื่อคืน...เรากับแฟนไปขึ้นเขาพระบาท เวลาค่ำ ๆ เพราะคิดว่าปลอดคน คงได้ไหว้แบบสบาย ๆ
ถึงลานพระบาทเวลาสองทุ่ม ก็ไม่สามารถเข้าไปไหว้ได้ เนื่องจากคณะสงฆ์เข้าไปนำสวดมนต์
เรากับแฟนก็นั่งฟังไปเรื่อย ๆ สังเกตมีคณะผู้มาแสวงบุญใส่เสื้อสีเหลืองเหมือนกัน น่าจะเกือบร้อยคน ระหว่างนั่งฟังพระ เขาก็ถ่ายรูปกันไป
เราก็คิดว่าเป็นคณะทัวร์พาลูกทัวร์มาไหว้พระบาท ก็ไม่ได้สังเกตอะไรมาก
จนสามทุ่มกว่า คณะสงฆ์ออกจากลานพระบาท เราและคนอื่น ๆ ก็ทยอยเข้าสู่ลานพระบาท เพื่อไหว้สักการะ
แต่เหตุการณ์มันไม่เป็นแบบนั้น โฆษกประกาศให้ทุกคนอย่าเพิ่งขยับ และหลีกทางให้คณะหมอดูชื่อดัง (คณะที่ใส่เสื้อเหลืองนั่นแหล่ะ)
เข้าไปทำพิธีก่อน ระหว่างนั้นพนักงานก็กันคนอื่นไม่ให้เข้าไป
แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ก็ทุกคนในที่นี้ก็เป็นคนเหมือนกัน เขาก็พยายามเข้าไปไหว้ พนักงานก็เริ่มอารมณ์เสีย
มีพี่ผู้ชายคนนึงพูดออกมาว่า “ก็ให้พวกเขาเข้าไปได้ คนอื่นก็เข้าได้สิ”
หลังจากนั้นพนักงานก็ตะโกนว่า “ปิดเลยไม่ต้องให้เข้ามา”
เผอิญว่าเรากับแฟนเข้าไปถึงลานพระบาทแล้วไง ก็กำลังจะปิดทอง วางดอกไม้ธูปเทียน
คณะหมอดูก็โปรยดอกไม้เต็มเลยค่ะ คนที่เคยมานึกภาพออกใช่มั้ยคะ คือล้อมรอบรอยพระพุทธบาทอยู่ดีดี ก็มีดอกไม้โปรยลงบนหัว
ซึ่งจะอยู่ในพิธีของเขาส่วนไหนไม่รู้ แต่ถามเราซักคำมั้ยว่าเราอยากมีส่วนร่วมหรือเปล่า
แล้วเขาก็บอกให้คนอื่น ๆ ถอยไปให้คณะของท่านเข้ามารอบรอยพระบาท เพื่อถ่ายรูป
ขาดเลยค่ะ ฟิวส์ขาด ณ จุดนี้
เดินผ่านขบวนของคณะท่านออกมา เอาดอกไม้ ธูป เทียน มาคืนร้านวัด แล้วลงเขาเลย ไม่ได้ไหว้ค่ะ
คนอื่นอาจจะคิดว่า ก็ให้คณะท่านทำพิธีไปก่อน แล้วเราค่อยไหว้ก็ได้ สำหรับเรามันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ
เราทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ทำไมเราต้องรอให้เค้าแสดงอภิสิทธิ์อะไรก่อน
พนักงานคณะสงฆ์ก็ไม่น่าจะทำแบบนี้ ต่อไปคนที่จะขึ้นมาไหว้ได้ ต้องมีเงินและชื่อเสียงเท่านั้นหรือเปล่าคะ
เราไม่อยากกล่าวถึงเขาคิชฌกูฏเพราะว่าเป็นเรื่องเปราะบางเหลือเกิน มีแต่ผลประโยชน์ทับซ้อน
แต่อยากให้ทุกฝ่ายอย่าลืมว่า รอยพระพุทธบาทไม่ใช่ของ ๆ ใคร
อย่าลืมเจตนาเดิม ๆ ว่าที่นี่เป็นที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ที่ ๆ เอื้อให้ธุรกิจใดใดเข้ามา
เดินลงเขามา สงสารแฟนมาก ขาขึ้นอารมณ์ดีมาก เต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธา
แต่ขาลง ต่างคนต่างเงียบ แฟนได้แต่บอกว่า ถ้ายังเป็นแบบนี้อีก จะไม่ขึ้นอีกต่อไป
เรารู้สึกเจ็บปวดกับภาพที่เห็นมาก เราเกิดที่นี่ ผูกพันกับเขาพระบาทมาตั้งแต่จำความได้
ตอนเด็ก ๆ ได้ขึ้นไปไหว้ ไปสัมผัสรอยพระบาท แล้วก็นั่งมองวิวบนลานหิน บรรยากาศอวลไปด้วยความสุข
ไม่มีเทพเจ้าองค์นั้นองค์นี้ ไม่มีพระรูปนั้นรูปนี้ ไม่มีกระจกส่องหาหวย ไม่มีดาวเรืองบนทางเดิน ไม่มีธูปตามหิน
ไม่มีความเชื่อผิด ๆ ว่ามาไหว้แล้วจะรวย
ได้แต่เป็นห่วง หากยังเป็นแบบนี้ ที่นี่...แม้ซากศรัทธาของชาวพุทธก็อาจจะไม่เหลือ
เขาคิชฌกูฏเปลี่ยนไป
แต่ปีนี้ขอขัดผลประโยชน์บ้างนะคะ เมื่อก่อนสถานที่แห่งนี้ ได้ชื่อว่าเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์
ขึ้นไปเพื่อนมัสการรอยพระพุทธบาท รำลึกถึงพระพุทธเจ้า มีเงิน 20 บาทก็ขึ้นได้ มีแค่ธูป เทียน ทอง ดอกไม้มีก็ได้ไม่มีก็ได้
เมื่อคืน...เรากับแฟนไปขึ้นเขาพระบาท เวลาค่ำ ๆ เพราะคิดว่าปลอดคน คงได้ไหว้แบบสบาย ๆ
ถึงลานพระบาทเวลาสองทุ่ม ก็ไม่สามารถเข้าไปไหว้ได้ เนื่องจากคณะสงฆ์เข้าไปนำสวดมนต์
เรากับแฟนก็นั่งฟังไปเรื่อย ๆ สังเกตมีคณะผู้มาแสวงบุญใส่เสื้อสีเหลืองเหมือนกัน น่าจะเกือบร้อยคน ระหว่างนั่งฟังพระ เขาก็ถ่ายรูปกันไป
เราก็คิดว่าเป็นคณะทัวร์พาลูกทัวร์มาไหว้พระบาท ก็ไม่ได้สังเกตอะไรมาก
จนสามทุ่มกว่า คณะสงฆ์ออกจากลานพระบาท เราและคนอื่น ๆ ก็ทยอยเข้าสู่ลานพระบาท เพื่อไหว้สักการะ
แต่เหตุการณ์มันไม่เป็นแบบนั้น โฆษกประกาศให้ทุกคนอย่าเพิ่งขยับ และหลีกทางให้คณะหมอดูชื่อดัง (คณะที่ใส่เสื้อเหลืองนั่นแหล่ะ)
เข้าไปทำพิธีก่อน ระหว่างนั้นพนักงานก็กันคนอื่นไม่ให้เข้าไป
แต่มันจะเป็นไปได้ยังไง ก็ทุกคนในที่นี้ก็เป็นคนเหมือนกัน เขาก็พยายามเข้าไปไหว้ พนักงานก็เริ่มอารมณ์เสีย
มีพี่ผู้ชายคนนึงพูดออกมาว่า “ก็ให้พวกเขาเข้าไปได้ คนอื่นก็เข้าได้สิ”
หลังจากนั้นพนักงานก็ตะโกนว่า “ปิดเลยไม่ต้องให้เข้ามา”
เผอิญว่าเรากับแฟนเข้าไปถึงลานพระบาทแล้วไง ก็กำลังจะปิดทอง วางดอกไม้ธูปเทียน
คณะหมอดูก็โปรยดอกไม้เต็มเลยค่ะ คนที่เคยมานึกภาพออกใช่มั้ยคะ คือล้อมรอบรอยพระพุทธบาทอยู่ดีดี ก็มีดอกไม้โปรยลงบนหัว
ซึ่งจะอยู่ในพิธีของเขาส่วนไหนไม่รู้ แต่ถามเราซักคำมั้ยว่าเราอยากมีส่วนร่วมหรือเปล่า
แล้วเขาก็บอกให้คนอื่น ๆ ถอยไปให้คณะของท่านเข้ามารอบรอยพระบาท เพื่อถ่ายรูป
ขาดเลยค่ะ ฟิวส์ขาด ณ จุดนี้
เดินผ่านขบวนของคณะท่านออกมา เอาดอกไม้ ธูป เทียน มาคืนร้านวัด แล้วลงเขาเลย ไม่ได้ไหว้ค่ะ
คนอื่นอาจจะคิดว่า ก็ให้คณะท่านทำพิธีไปก่อน แล้วเราค่อยไหว้ก็ได้ สำหรับเรามันไม่ใช่แบบนั้นค่ะ
เราทุกคนมีสิทธิเท่าเทียมกัน ทำไมเราต้องรอให้เค้าแสดงอภิสิทธิ์อะไรก่อน
พนักงานคณะสงฆ์ก็ไม่น่าจะทำแบบนี้ ต่อไปคนที่จะขึ้นมาไหว้ได้ ต้องมีเงินและชื่อเสียงเท่านั้นหรือเปล่าคะ
เราไม่อยากกล่าวถึงเขาคิชฌกูฏเพราะว่าเป็นเรื่องเปราะบางเหลือเกิน มีแต่ผลประโยชน์ทับซ้อน
แต่อยากให้ทุกฝ่ายอย่าลืมว่า รอยพระพุทธบาทไม่ใช่ของ ๆ ใคร
อย่าลืมเจตนาเดิม ๆ ว่าที่นี่เป็นที่ระลึกถึงพระพุทธเจ้า ไม่ใช่ที่ ๆ เอื้อให้ธุรกิจใดใดเข้ามา
เดินลงเขามา สงสารแฟนมาก ขาขึ้นอารมณ์ดีมาก เต็มเปี่ยมไปด้วยศรัทธา
แต่ขาลง ต่างคนต่างเงียบ แฟนได้แต่บอกว่า ถ้ายังเป็นแบบนี้อีก จะไม่ขึ้นอีกต่อไป
เรารู้สึกเจ็บปวดกับภาพที่เห็นมาก เราเกิดที่นี่ ผูกพันกับเขาพระบาทมาตั้งแต่จำความได้
ตอนเด็ก ๆ ได้ขึ้นไปไหว้ ไปสัมผัสรอยพระบาท แล้วก็นั่งมองวิวบนลานหิน บรรยากาศอวลไปด้วยความสุข
ไม่มีเทพเจ้าองค์นั้นองค์นี้ ไม่มีพระรูปนั้นรูปนี้ ไม่มีกระจกส่องหาหวย ไม่มีดาวเรืองบนทางเดิน ไม่มีธูปตามหิน
ไม่มีความเชื่อผิด ๆ ว่ามาไหว้แล้วจะรวย
ได้แต่เป็นห่วง หากยังเป็นแบบนี้ ที่นี่...แม้ซากศรัทธาของชาวพุทธก็อาจจะไม่เหลือ