แชร์ประสบการณ์ เมื่อลูก ป.1 ฉี่หยดตลอดเวลา

กระทู้สนทนา
เรื่องที่มาแชร์นี้อาจยาวไปหน่อย  แต่เพื่อให้คุณพ่อ คุณแม่ ที่กำลังเจอปัญหาแบบเดียวกันหรือกำลังจะเจอได้ไว้เป็นข้อมูลค่ะ เพราะตอนที่ลูกชาย มีอาการฉี่หยด เราหาข้อมูลในเน็ตได้น้อยมาก หวังว่ากระทู้นี้จะมีประโยชน์บ้างนะคะ

และก็ต้องขอขอบคุณ คุณหมอสาลิกาโบยบิน ที่กรุณาให้คำแนะนำเรื่องแพทย์เฉพาะทาง ไว้ ณ ที่นี้ด้วยนะคะ

เรามีลูกชาย 1 คน พฤติกรรมของลูกเรา คือ เป็นเด็กที่เขิลมาก (ขอใช้คำนี้นะคะ) เวลาที่พบใคร ทั้งคนแปลกหน้า และคนที่คุ้นเคย แต่ในความเขิล เค้ากลับเป็นเด็กกล้าแสดงออกค่ะ งง กันมั๊ยค่ะ (เราก็งง เหมือนกัน และนี่คือเหตุผลที่ไม่ใช้คำว่าขี้อาย) คือ ถึงเค้าจะเขิล แต่เวลามีงานแสดงหน้าเวที หรืองานกีฬาสีที่โรงเรียนฮีจะเต็มที่ตลอด ๆ

ทีนี้มาว่าเรื่องการเข้าโรงเรียน เราก็เตรียมพร้อมลูกก่อน ทั้งขวดนม ทั้งผ้าอ้อมสำเร็จรูป ลูกเราบอกลาก่อนเข้าโรงเรียนค่ะ ตึกอนุบาลที่ลูกเราเรียนอยู่ ห้องน้ำสะดวกสำหรับเด็กเล็ก ดังนั้นตลอดเวลา ตั้งแต่ อนุบาล 1 - 3 ลูกเราไม่เคยเปียก หรือเหม็นฉี่กลับบ้านเลยซักครั้ง แม้แต่เวลาอยู่บ้านก็ไม่เคยฉี่รดที่นอนเลยซักครั้ง เข้าห้องน้ำโดยเฉลี่ยหลังกลับจากโรงเรียนก็ประมาณ 3 ครั้ง ออกไปข้างนอกเวลาปวดฉี่ก็จะบอกว่าขอเข้าห้องน้ำ เราไม่เคยให้ลูกอั้นฉี่เลย ถึงขนาดว่าในรถต้องมีขวดเปล่าติดรถไว้เสมอ

มาต่อเรื่องที่โรงเรียน ชั้นอนุบาลที่ลูกเราเรียนจะมีอยู่ 2 ห้อง ค่ะ ดังนั้นเวลาเลื่อนชั้น ขึ้นไปอนุบาล 2 -3 เด็ก ๆ แต่ละห้องก็จะคละกันทุกปี ทำให้เด็กๆ ทั้งสองห้องคุ้นเคย สนิทสนมกันดี คุณครูก็ดูแลเด็กๆ ได้อย่างทั่วถึง คุณครูที่อยู่ในตึกอนุบาลก็จะคุ้นหน้าคุ้นตากันกับเด็กๆ

ถึงเวลา ที่ลูกเราต้องขึ้นประถม 1 (โรงเรียนเดิม) ต้องเปลี่ยนตึกเรียน เปลี่ยนครู มีเพื่อนใหม่บ้างแต่ไม่ทั้งหมด และนั่งหน้าสุด เปิดเทอมสัปดาห์แรกทุกอย่างปกติ จนกระทั่งวันเสาร์แรกหลังจากเปิดเทอมมา เราก็พาลูกไปทานข้าวนอกบ้าน เมื่อกลับขึ้นรถ กางเกงลูกเราเปียกค่ะ เราตกใจ ก็เลยถามลูกว่า ฉี่เหรอ ลูกเราก็เหวอๆ แล้วก็บอกหนูยังไม่ปวดเลยนะ ก็ไม่ได้ใส่ใจเพราะคิดว่าสงสัยเปียกตอนไปล้างมือหรือเปล่า (เราอุ้มให้นั่งตรงซิงค์น้ำ)
ก็กลับมาบ้าน เล่นขี่ม้าส่งเมืองกันอยู่ดีเรารู้สึกได้เลยว่ามีน้ำอุ่นๆ ราดหลัง ใช่เลย มันคือฉี่นี่แหละ เราก็บอกลูกเลย เฮ้ยลูกฉี่รดหลังแม่ทำไมอ่ะ ทำไมไม่เข้าห้องน้ำ เค้าก็บอกว่ามันออกมาเองนะ

หลังจากวันนั้นพฤติกรรม เปลี่ยนเลย กลางคืนฉี่รดที่นอน ไปโรงเรียนกลับมาต้องใส่กางเกงตัวใหม่ตลอด ถามครูประจำชั้นก็บอกว่าฉี่เปียกไปหมดเลยต้องเปลี่ยนกางเกง กลับมาถึงบ้านเข้าห้องน้ำไม่ต่ำกว่ายี่สิบรอบ อาบน้ำเสร็จเดินออกมาฉี่ก็หยดๆ ตามพื้น แต่ลูกเราไม่รู้ตัวเลยด้วยซ้ำว่าฉี่หยด อยู่บ้านต้องเปลี่ยนกางเกงวันนึงเป็นสิบตัว นั่งๆ อยู่บนโซฟา ซักแป่บก็เปียกทั้งเบาะ

จนแฟนเราต้องให้หยุดเรียนหนึ่งวันเต็มๆ เพื่อดูพฤติกรรมการเข้าห้องน้ำ ผลคือ ถ้าไม่นับฉี่รดที่นอนและที่หยดลงพื้น ตั้งแต่ตื่นมาฉี่ไป 67 รอบ เราพาไปหาหมอเลยค่ะ คุณหมอก็สั่ง test ปัสสาวะ ตรวจหาสาเหตุ ระหว่างที่เรารอผล ก็หาข้อมูลทุกอย่าง ทั้งงดน้ำก่อนนอน หรือปลุกให้รู้ตัวเวลาฉี่ ก็ยังเหมือนเดิม จนมาเจอโรคทางเดินปัสสวะอักเสบ ก็เริ่มวิตกกังวล ต่างๆ นาคิดไปเรื่อยเปื่อย เตลิดเปิดเปิง ลูกชั้นต้องผ่าตัดมั๊ย ชั้นจะมีหลานมั๊ย ไปนู้นน จนกระทั่งผลตรวจฉี่ออกมา คือ ปกติ ตรวจกี่ครั้งก็ปกติ แต่อาการลูกเรายังไม่ปกติ จนคุณหมอที่โรงพยาบาลที่รักษาอยู่บอกว่าจะเขียนใบส่งตัวให้ไปที่ศิริราชแล้วกัน ก็มาหาข้อมูลในนี้ จนได้เจอกระทู้ http://topicstock.ppantip.com/family/topicstock/2012/04/N11981924/N11981924.html ที่คุณหมอสาลิกาโบยบินได้กรุณาให้ข้อมูลไว้ เราก็จัดการนัดคุณหมอบรรณสิทธิ์ ทันที

คุณหมอท่านตรวจละเอียดมาก สั่ง x-ray ฉีดสี และให้คำแนะนำที่ดี ท่านนั่งซักประวัติ แล้วท่านพูดมาประโยคนึง "หาให้เจอ" (นึกถึงดาราราย เลย ^^") คุณหมอบอกว่าเท่าที่ฟังดู คือ มีการย้ายห้องเรียน เปลี่ยนครู ขี้อาย มีโอกาสสูงที่จะเกิดจากภาวะเครียด ฟังมาถึงตรงนี่เราก็เริ่มคลายกังวล จึงได้กลับมาเล่าให้ครูประจำชั้นฟัง ก็มีการปรับเปลี่ยนที่นั่งไปนั่งหลังสุด แล้วก็ขอคุณครูว่าให้เค้าวิ่งไปเข้าห้องน้ำได้โดยไม่ต้องบอก ขอพบคุณครูที่ลูกเราต้องเรียนด้วย เพื่อเข้าไปชี้แจงข้อมูล ซึ่งคุณครูก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี เพื่อนลูกเราก็น่ารักมากๆ ไม่มีใครล้อเลยซักคน เพราะช่วงนั้นก็ให้ลูกใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปไปโรงเรียนตลอด

เราเฝ้าดูพฤติกรรมลูกมาตลอดระยะเวลา 9 เดือน ส่วนคุณหมอก็นัด 2 อาทิตย์ครั้ง ทุกครั้งก็จะ test ปัสสาวะ ผลก็จะปกติทุกครั้ง จนคุณหมอเริ่มนัดห่าง และเมื่ออาการดีขึ้น ความถี่ในการฉี่ลดลง ไม่ฉี่รดที่นอนแล้ว ไม่มีฉี่หยดแล้ว คุณหมอก็เลิกนัด เพราะเราหาสาเหตุเจอนั่นเองค่ะ

ทุกวันนี้ลูกเรากลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ไม่ต้องใส่ผ้าอ้อมสำเร็จรูปไปเรียนอีกต่อไป ดีใจมากมาย

สิ่งที่อยากจะฝาก คือ คุณพ่อ คุณแม่ คุณลูก ต้องอดทน ค่ะ อย่าโมโหลูก ให้เวลากับลูกมาก ๆ เพื่อช่วยกันหาสาเหตุ นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่