ลูกสาวอายุ 7 ขวบ เป็นคนกลาง ๆ ไม่ได้พิเศษโด่ดเด่นอะไรในห้องเรียน น้องก็เป็นเด็กธรรมดาทั่วไป ร่าเริงปกติ ผลการเรียนจะอยู่ระดับกลาง ๆ เปรียบเทียบคะแนนทั้งห้อง น้องจะอยู่ในระดับ 10 ต้น ๆ ไม่มีปัญหาเรื่องการเข้ากลุ่มกับเพื่อน สามารถเล่นได้กับทุกคน (จากคำบอกเล่าของคุณครูประจำชั้น)
ตอนอยู่ระดับอนุบาลมีกิจกรรมปีใหม่ น้องได้แต่ชุดเต้นขึ้นเวที น้องดีใจมาก ใส่ชุดนั้นทั้งวันไม่ยอมถอด หลังจากจบงานนี้ครูประจำชั้นก็ไลน์มาในกลุ่ม ผปค.ว่าให้เก็บชุดนี้ไว้ก่อนเพราะจะมีกิจกรรมกีฬาสีอีก จะให้น้อง ๆ ใส่ชุดนี้เป็นเชียร์หลีดเดอร์ น้องก็ดีใจมากเก็บชุดไว้อย่างดี พอถึงวันคัดเลือกจริง ๆ ลูกเรากลับไม่ได้รับคัดเลือก ตอนนั้นน้องเศร้าไปเลย กับเด็กอีกคนที่ได้เป็นทั้งดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน พอเดินขบวนเสร็จต้องรีบเปลี่ยนชุดเพื่อลงมาเป็นเชียร์หลีดเดอร์ต่อ ซึ่งท่าเต้นต่าง ๆ ก็เป็นท่าเดียวกับที่ขึ้นเวทีตอนปีใหม่ ลูกเราได้แต่นั่งมองอยู่ข้าง ๆ กับเพื่อนอีก 2 คนที่ตัวเล็ก ๆ ไม่ได้เป็นเหมือนกัน จนแม่เพื่อนน้องมาถามว่าทำไมน้องไม่ได้เป็นทั้ง ๆ ที่ตัวสูง หน้าตาน่ารัก เราก็บอกไปว่าครูไม่เลือก
แม่อย่างเราอยากให้คุณครูสนับสนุนให้เด็กที่มีคุณลักษณะประมาณนี้ได้ทำกิจกรรมของโรงเรียนบ้าง กิจกรรมทางวิชาการหรือต้องใช้ความสามารถต่าง ๆ เราก็ยอมรับได้ว่าลูกเราความสามารถไม่ถึงแน่นอน เพราะว่าคุณครูต้องคัดเลือกเด็กที่พร้อมกว่า แต่บางกิจกรรม เช่น เต้น ร้องรำทำเพลง ถือป้าย เป็นตัวแทนห้องไปเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางโรงเรียนจัด ลูกของเราก็จะไม่ได้ถูกคัดเลือกให้ไปทำ แม้แต่การเล่นเกมส์นิด ๆ หน่อย ๆ เช่น เก้าอี้ดนตรี กินวิบาก วิ่งเปี้ยว น้องบอกว่ายกมือจนเมื่อยครูก็ไม่เลือก เพราะถ้าเค้าได้ทำกิจกรรมบ้างเค้าก็จะสะสมความมั่นใจไปเรื่อย ๆ แต่เราก็ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการทำงานของคุณครู ได้แต่บอกลูกว่าให้เค้ารอครั้งหน้า รอบหน้า ให้พูดเสียงดัง ๆ เวลาคุณครูเค้าหาตัวแทนห้องไปทำกิจกรรมให้ยกมึอสูง ๆ หรือลุกขึ้นพูดเสียงดัง ๆ ครูจะได้ได้ยิน
แม่ ๆ คนอื่นมีประสบการณ์เหมือนกันบ้างไหมคะ
จากใจแม่คนหนึ่งที่มีลูกสาวเป็นคนกลาง ๆ
ตอนอยู่ระดับอนุบาลมีกิจกรรมปีใหม่ น้องได้แต่ชุดเต้นขึ้นเวที น้องดีใจมาก ใส่ชุดนั้นทั้งวันไม่ยอมถอด หลังจากจบงานนี้ครูประจำชั้นก็ไลน์มาในกลุ่ม ผปค.ว่าให้เก็บชุดนี้ไว้ก่อนเพราะจะมีกิจกรรมกีฬาสีอีก จะให้น้อง ๆ ใส่ชุดนี้เป็นเชียร์หลีดเดอร์ น้องก็ดีใจมากเก็บชุดไว้อย่างดี พอถึงวันคัดเลือกจริง ๆ ลูกเรากลับไม่ได้รับคัดเลือก ตอนนั้นน้องเศร้าไปเลย กับเด็กอีกคนที่ได้เป็นทั้งดรัมเมเยอร์ของโรงเรียน พอเดินขบวนเสร็จต้องรีบเปลี่ยนชุดเพื่อลงมาเป็นเชียร์หลีดเดอร์ต่อ ซึ่งท่าเต้นต่าง ๆ ก็เป็นท่าเดียวกับที่ขึ้นเวทีตอนปีใหม่ ลูกเราได้แต่นั่งมองอยู่ข้าง ๆ กับเพื่อนอีก 2 คนที่ตัวเล็ก ๆ ไม่ได้เป็นเหมือนกัน จนแม่เพื่อนน้องมาถามว่าทำไมน้องไม่ได้เป็นทั้ง ๆ ที่ตัวสูง หน้าตาน่ารัก เราก็บอกไปว่าครูไม่เลือก
แม่อย่างเราอยากให้คุณครูสนับสนุนให้เด็กที่มีคุณลักษณะประมาณนี้ได้ทำกิจกรรมของโรงเรียนบ้าง กิจกรรมทางวิชาการหรือต้องใช้ความสามารถต่าง ๆ เราก็ยอมรับได้ว่าลูกเราความสามารถไม่ถึงแน่นอน เพราะว่าคุณครูต้องคัดเลือกเด็กที่พร้อมกว่า แต่บางกิจกรรม เช่น เต้น ร้องรำทำเพลง ถือป้าย เป็นตัวแทนห้องไปเข้าร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ที่ทางโรงเรียนจัด ลูกของเราก็จะไม่ได้ถูกคัดเลือกให้ไปทำ แม้แต่การเล่นเกมส์นิด ๆ หน่อย ๆ เช่น เก้าอี้ดนตรี กินวิบาก วิ่งเปี้ยว น้องบอกว่ายกมือจนเมื่อยครูก็ไม่เลือก เพราะถ้าเค้าได้ทำกิจกรรมบ้างเค้าก็จะสะสมความมั่นใจไปเรื่อย ๆ แต่เราก็ไม่ได้เข้าไปแทรกแซงการทำงานของคุณครู ได้แต่บอกลูกว่าให้เค้ารอครั้งหน้า รอบหน้า ให้พูดเสียงดัง ๆ เวลาคุณครูเค้าหาตัวแทนห้องไปทำกิจกรรมให้ยกมึอสูง ๆ หรือลุกขึ้นพูดเสียงดัง ๆ ครูจะได้ได้ยิน
แม่ ๆ คนอื่นมีประสบการณ์เหมือนกันบ้างไหมคะ