โลกแตก ฉบับนักวิทยาศาสตร์ สืบเนื่องจากอุกกาบาตตก

กระทู้คำถาม



สืบเนื่องจากเหตุการณ์อุกกาบาตตกที่รัสเซีย ทำให้นึกถึงเรื่องเกี่ยวกับภัยพิบัติ

เหมือนจะมีการคุยกันเรื่อง ภัยพิบัติในวงการวิทยาศาสตร์ รวมทั้งนาซ่าเอง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องวันสิ้นโลก กรณีอุกกาบาต ตก

วัตถุจากนอกโลก ภายในโลก มานานแล้ว รวมทั้ง กรณีภัยพิบัติภายในโลก

    เข้าประเด็นคือ เรามองว่า คนส่วนใหญ่ จะเห็นเรื่องพวกนี้ เป็นพวกคำทำนาย ลวงโลก แล้วก็จะหาเหตุผลความเชื่อมาอ้าง

เช่นคนนั้นทำนาย คนนี้ทำนาย แต่กลับไม่มองให้มันเป็นเรื่องของโอกาสและความเสี่ยง


อย่างเช่น กรณีอุกกาบาต โอกาสและความเสี่ยง ถ้าฟังจากในข่าว อาจารย์ในข่าว

กรณี อุกกาบาต ที่เคยทำให้ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ เกิดเมื่อหลายล้านปีที่แล้ว และ อาจจะเกิดขึ้นได้ในตอนไหนก็ได้ อาจจะพรุ่งนี้หรือวันนี้

ถ้ามองกรณีเป็นคาบเวลา มันไม่แน่นอน อาจจะเกิดในอีก 10 ล้านปีข้างหน้า

แต่ทำไม ไม่มีใครคิดว่า อุกกาบาต จะตกลงมาพรุ่งนี้ ทั้งที่ความเป็นไปได้ มันมี 100% คือ ตก 100% ไม่ตก 100%

แต่หากมันตกลงมาแล้ว มนุษย์อาจจะสูยพันธุ์ไปเลยก็ได้

บางคนมองมันเป็นเรื่องไกลตัว  ที่พูด ไม่ได้ให้ทุกคน "ตื่นตระหนก" แต่อยากให้ "ตระหนัก" ให้มากกว่านี้

คือ อยากให้มอง เรื่องภัยพิบัติ เป็นเรื่องที่ใกล้ตัว มากกว่านี้ ไม่ใช่เรื่องงมงาย มันคือวิทยาศาสตร์
แก้ไขข้อความเมื่อ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
แล้วไง สร้างเรือโนอา หรือ จะสร้างบ้านบนภูเขาดีล่ะ
ภัยแบบนี้ ไม่ใช่ว่า ตระหนัก แล้วจะแก้ได้
เราอยู่บนความเสี่ยงตลอดเวลานั่นแหละ
ไม่ว่าจะจากภัยธรรมชาติ หรือ จากน้ำมือมนุษย์ด้วยกัน
ประเทศที่เพิ่งทดลองระเบิดนิวเคลียร์ไป เค้าก็เพิ่งประกาศจะทดลองใหม่
มีความเสี่ยงไหมล่ะ เกิดยิงหัวรบใส่กัน โอกาศสูงกว่าอุกาบาตตกซะอีก
พระพุทธเจ้าท่านสอนให้ดำรงอยู่ในความไม่ประมาท พึงระลึกไว้เสมอนะ
ความแน่นอนคือความไม่แน่นอน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่