http://www.siamsport.co.th/Sport_Football/130218_285.html
แข้งสาวไทย พิสมัย สอนไสย์ และ กาญจนา สังข์เงิน สร้างประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกแห่งวงการฟุตบอลหญิงไทยกับการเดินทางไปค้าแข้งลีกอาชีพหญิงที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างเต็มตัว โดยไม่ต้องทดสอบฝีเท้าหลังโชว์ฟอร์มเข้าตาทีมงานสปิแรนซ่า เอฟซี ที่สนใจดึงตัวไปร่วมทัพอย่างเป็นทางการด้วยสัญญา 9 เดือนเต็ม สิ้นสุดเดือนธันวาคมนี้ ต้นสังกัดแจงชัดพร้อมปล่อยตัวกลับมารับใช้ทีมชาติไทยตามกฎฟีฟ่าในทุกรายการ
เมื่อเวลา 21.00 น. วันจันทร์ที่ 18 ก.พ. 56 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถือเป็นข่าวดีของวงการลูกหนังลีกอาชีพไทย เมื่อ 2 แข้งสาวทีมชาติไทยอย่าง "ปุ๋ย" พิสมัย สอนไสย์ หัวหอกเบอร์หนึ่งของทีมชาติไทย รวมถึง "เนตร" กาญจนา สังข์เงิน ปีกขวาตัวกลั่นได้เดินทางไปค้าแข้งกับสโมสรสปิแรนซ่า เอฟซี ซึ่งถือเป็นสโมสรฟุตบอลหญิงอาชีพของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า โดยต้นสังกัดแห่งนี้แสดงความประสงค์อย่างชัดเจนว่าอยากที่จะได้ 2 ผู้เล่นไทยรายดังกล่าวเข้าร่วมทัพ ซึ่งศึกเอลลีก ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นลีกที่สร้างผลิตผลชิ้นสำคัญกระจายไปทั่วยุโรปก่อนที่สุดท้ายจะส่งผลดีให้ทีมฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นคว้าแชมป์ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2011 ที่ประเทศเยอรมัน การเดินทางไปสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการฟุตบอลหญิงไทยในครั้งนี้มีทางด้าน ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศสมาคมฟุตบอลจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย "โค้ชก้อง" ก้องเกียรติ ก้องแดนไพร อดีตกุนซือใหญ่ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ซึ่งถือเป็นผู้ปลุกปั้นนักเตะทั้ง 2 รายอย่างแท้จริง รวมถึงญาติสนิทและครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจในการเดินทางครั้งนี้ พิสมัย สอนไสย์ กองหน้าวัย 24 ปีของทีมชลบุรี-ศรีปทุม เคยได้รับโอกาสเดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรแห่งนี้เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา พร้อมกับได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าบิดจนต้องกลับมารักษาที่เมืองไทย และครั้งนี้เจ้าตัวแสดงความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าอุปสรรคต่างๆ จะไม่เกิดขึ้นอีกแน่"จากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นถึงตอนนี้ก็ยังไม่เต็มร้อยเท่าที่ควร แต่ถึงอย่างไรหนูก็พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองอยู่แล้ว หนูต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่านักฟุตบอลหญิงไทยก็มีดีไม่แพ้ชาติใดในโลก ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลักดันและสนับสนุนในครั้งนี้"
ขณะที่ กาญจนา สังข์เงิน ปีกขวาวัย 27 ปีแห่งค่ายกรุงเทพมหานครได้เผยว่า "ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้โอกาสไปค้าแข้งยังต่างประเทศ ยิ่งเป็นประเทศญี่ปุ่นแล้วด้วยนั้นยิ่งถือเป็นโอกาสที่สุดพิเศษ เนื่องจากทีมชาติญี่ปุ่นเพิ่งได้แชมป์ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกในครั้งล่าสุด การได้เรียนรู้วิธีการเล่นของต้นตำรับน่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับการนำมาปรับใช้ในอาชีพได้อย่างแน่นอน"สำหรับการเดินทางไปค้าแข้งลีกอาชีพกับสโมสรสปิแรนซ่า เอฟซี ของ 2 แข้งสาวทีมชาติไทยในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้โอกาสค้าแข้งอย่างเป็นทางการโดยที่ไม่ต้องผ่านการทดสอบฝีเท้าด้วยสัญญายาวถึง 9 เดือนเต็ม เริ่มต้นตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงธันวาคม 2556 อีกทั้งทางต้นสังกัดได้ยืนยันอย่างชัดเจนผ่านทางฝ่ายประสานงานแล้วว่าพร้อมที่จะปล่อยตัวกลับมาเล่นทีมชาติไทยตามกฎฟีฟ่า
โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา พิสมัย สอนไสย์, ศิลาวรรณ อินต๊ะมี รวมถึง อลิษา รักพินิจ เคยเดินทางไปร่วมทีมสปิแรนซ่า เอฟซีแล้ว แต่ครั้งนั้นเป็นเพียงแค่การทดสอบฝีเท้าเท่านั้น ซึ่งหนนี้ พิสมัย สอนไสย์ และ กาญจนา สังข์เงิน สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการได้รับการเซ็นสัญญาร่วมทีมอย่างเป็นทางการโดยที่ไม่ต้องทดสอบฝีเท้าแต่อย่างใด
พิสมัยควงกาญจนาบินค้าแข้งแดนปลาดิบ
แข้งสาวไทย พิสมัย สอนไสย์ และ กาญจนา สังข์เงิน สร้างประวัติศาสตร์เป็นครั้งแรกแห่งวงการฟุตบอลหญิงไทยกับการเดินทางไปค้าแข้งลีกอาชีพหญิงที่ประเทศญี่ปุ่นอย่างเต็มตัว โดยไม่ต้องทดสอบฝีเท้าหลังโชว์ฟอร์มเข้าตาทีมงานสปิแรนซ่า เอฟซี ที่สนใจดึงตัวไปร่วมทัพอย่างเป็นทางการด้วยสัญญา 9 เดือนเต็ม สิ้นสุดเดือนธันวาคมนี้ ต้นสังกัดแจงชัดพร้อมปล่อยตัวกลับมารับใช้ทีมชาติไทยตามกฎฟีฟ่าในทุกรายการ
เมื่อเวลา 21.00 น. วันจันทร์ที่ 18 ก.พ. 56 ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ถือเป็นข่าวดีของวงการลูกหนังลีกอาชีพไทย เมื่อ 2 แข้งสาวทีมชาติไทยอย่าง "ปุ๋ย" พิสมัย สอนไสย์ หัวหอกเบอร์หนึ่งของทีมชาติไทย รวมถึง "เนตร" กาญจนา สังข์เงิน ปีกขวาตัวกลั่นได้เดินทางไปค้าแข้งกับสโมสรสปิแรนซ่า เอฟซี ซึ่งถือเป็นสโมสรฟุตบอลหญิงอาชีพของประเทศญี่ปุ่น ตั้งอยู่ในเมืองโอซาก้า โดยต้นสังกัดแห่งนี้แสดงความประสงค์อย่างชัดเจนว่าอยากที่จะได้ 2 ผู้เล่นไทยรายดังกล่าวเข้าร่วมทัพ ซึ่งศึกเอลลีก ญี่ปุ่น ซึ่งเป็นลีกที่สร้างผลิตผลชิ้นสำคัญกระจายไปทั่วยุโรปก่อนที่สุดท้ายจะส่งผลดีให้ทีมฟุตบอลทีมชาติญี่ปุ่นคว้าแชมป์ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลก 2011 ที่ประเทศเยอรมัน การเดินทางไปสร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการฟุตบอลหญิงไทยในครั้งนี้มีทางด้าน ธนศักดิ์ สุระประเสริฐ ผู้อำนวยการฝ่ายต่างประเทศสมาคมฟุตบอลจังหวัดชลบุรี พร้อมด้วย "โค้ชก้อง" ก้องเกียรติ ก้องแดนไพร อดีตกุนซือใหญ่ทีมฟุตบอลหญิงทีมชาติไทย ซึ่งถือเป็นผู้ปลุกปั้นนักเตะทั้ง 2 รายอย่างแท้จริง รวมถึงญาติสนิทและครอบครัวเดินทางมาให้กำลังใจในการเดินทางครั้งนี้ พิสมัย สอนไสย์ กองหน้าวัย 24 ปีของทีมชลบุรี-ศรีปทุม เคยได้รับโอกาสเดินทางไปทดสอบฝีเท้ากับสโมสรแห่งนี้เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา พร้อมกับได้รับบาดเจ็บเอ็นหัวเข่าบิดจนต้องกลับมารักษาที่เมืองไทย และครั้งนี้เจ้าตัวแสดงความมั่นใจเป็นอย่างยิ่งว่าอุปสรรคต่างๆ จะไม่เกิดขึ้นอีกแน่"จากอาการบาดเจ็บที่เกิดขึ้นถึงตอนนี้ก็ยังไม่เต็มร้อยเท่าที่ควร แต่ถึงอย่างไรหนูก็พร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองอยู่แล้ว หนูต้องการพิสูจน์ให้เห็นว่านักฟุตบอลหญิงไทยก็มีดีไม่แพ้ชาติใดในโลก ต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการผลักดันและสนับสนุนในครั้งนี้"
ขณะที่ กาญจนา สังข์เงิน ปีกขวาวัย 27 ปีแห่งค่ายกรุงเทพมหานครได้เผยว่า "ครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในชีวิตที่ได้โอกาสไปค้าแข้งยังต่างประเทศ ยิ่งเป็นประเทศญี่ปุ่นแล้วด้วยนั้นยิ่งถือเป็นโอกาสที่สุดพิเศษ เนื่องจากทีมชาติญี่ปุ่นเพิ่งได้แชมป์ฟุตบอลหญิงชิงแชมป์โลกในครั้งล่าสุด การได้เรียนรู้วิธีการเล่นของต้นตำรับน่าจะเป็นสิ่งที่เป็นประโยชน์กับการนำมาปรับใช้ในอาชีพได้อย่างแน่นอน"สำหรับการเดินทางไปค้าแข้งลีกอาชีพกับสโมสรสปิแรนซ่า เอฟซี ของ 2 แข้งสาวทีมชาติไทยในครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ที่ได้โอกาสค้าแข้งอย่างเป็นทางการโดยที่ไม่ต้องผ่านการทดสอบฝีเท้าด้วยสัญญายาวถึง 9 เดือนเต็ม เริ่มต้นตั้งแต่เดือนมีนาคมถึงธันวาคม 2556 อีกทั้งทางต้นสังกัดได้ยืนยันอย่างชัดเจนผ่านทางฝ่ายประสานงานแล้วว่าพร้อมที่จะปล่อยตัวกลับมาเล่นทีมชาติไทยตามกฎฟีฟ่า
โดยก่อนหน้านี้เมื่อช่วงกลางปีที่ผ่านมา พิสมัย สอนไสย์, ศิลาวรรณ อินต๊ะมี รวมถึง อลิษา รักพินิจ เคยเดินทางไปร่วมทีมสปิแรนซ่า เอฟซีแล้ว แต่ครั้งนั้นเป็นเพียงแค่การทดสอบฝีเท้าเท่านั้น ซึ่งหนนี้ พิสมัย สอนไสย์ และ กาญจนา สังข์เงิน สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการได้รับการเซ็นสัญญาร่วมทีมอย่างเป็นทางการโดยที่ไม่ต้องทดสอบฝีเท้าแต่อย่างใด