อิสลามไม่ได้ปฏิเสธความรุนแรง และการทำเพื่อพระเจ้า

วันนี้คงคุยมาราธอนเนื่องจาก พึ่งกลับมาทางใต้
ระหว่างเคลียร์งาน ทานกาแฟไปสี่แก้วตั้งแต่บ่าย
ตาจึงค้างถึงตอนนี้

หลายคนอาจมองว่า มุสลิมที่หลงทางทำเพื่อพระเจ้า แข็งไม่ประประนอม?
หรือ ฆ่าคนบาปเอาบุญหรือเปล่า?
ผมจะขออธิบายตามสิ่งที่ผมเข้าใจนะครับ ถูกผิดเชิญผู้ใหญ่เสริมกันได้




ประเด็นการประนีประนอม ไม่โอนอ่อน และ การทำเพื่อพระเจ้า
ขออนุญาติอธิบายว่าอย่างนี้
อิสลามมีความชัดเจนว่า นี่คือ ผิด นี่คือ ถูก

เช่นฆ่าคนบริสุทธิ์ ผิด ฆ่าคนไม่มีอาวุธผิด ฆ่าเด็กและผู้หญิง ผิด
ต่อให้อ้างว่าทำเพื่อศาสนา ถ้าศึกษา อิสลาม  สุดท้ายแล้ว
คำว่าทำเพื่อพระเจ้า ก็คือ การทำความดีต่อ มนุษย์ และ ต่อโลก

ที่ใช้คำว่า ต่อโลก เพราะอิสลาม ห้ามการบ่อนทำลายในแผ่นดิน
เราไปทำให้เกิดความวุ่นวาย ให้เกิดความเสียหายต่อบ้านเมือง ก็ถือเป็นบาปทั้งสิ้น

สุดท้ายการทำเพื่อพระเจ้า ก็คือการทำความดี ต่อตัวเอง และต่อผู้คน
ฆ่าคนเพื่อพระเจ้าแล้วได้ขึ้นไปสวรรค์ นั้นไม่มี เพราะแม้แต่ในสงครามป้องกันตัว
คนที่วางอาวุธแล้วอิสลามยังไม่ให้ทำร้าย
แต่โลกมันมีหลายมุม ต้องดูว่ามุมไหนที่ทำให้อะไรๆเลยเถิดมาถึงขนาดนี้





ประเด็น ฆ่าคนบาป = ได้บุญ
อิสลามไม่ได้อนุญาติให้ใครชี้ว่า ใครเป็นคนบาปแล้วพิพากษาได้ครับ
ไม่มีการบังคับให้นับถือศาสนา กรณีมีความขัดแย้งในประเด็นทางศาสนา
ที่ต่างคนต่างตีความ อิสลามก็ระบุวิธีแก้ให้แล้วคือ ผิณหลังแล้วส่งเรื่องนี้กลับไปยังพระองค์
หรือถ้าแปลให้ง่ายคือ ปล่อยวาง ความขัดแย้งในประเด็นทางศาสนา ถ้านำหลักการอิสลามมาใช้
จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นจะไม่มีใครเป็นคนบาป เพราะ เรื่องหรือประเด็นทางศาสนาจะถูกตัดสินเมื่อตายไป
ส่วนในความขัดแย้ง ระดับบุคคล ก็จะใช้กฏหมายทางโลก จัดการซึ่งอิสลามระบุไว้แล้วว่า ให้เราตราสิ่งเหล่านี้กันขึ้นมาเอง

การฆ่าในอิสลามมีไม่กี่สาเหตุ แต่ประเด็นไม่ใช่การฆ่าแต่เป็นการต่อสู้
การต่อสู้ในอิสลามมีหัวใจหลักคือ   "การป้องกันตัว การรักษาเสรีภาพ การไม่ทำร้ายคนบริสุทธิ์  คนไม่มีทางสู้ และการให้อภัย"

การอนุญาติให้ต่อสู้จนถึงฆ่าฟันได้ มีหลักๆสามกรณี
1.สงครามปกป้องบ้านเมือง
2.การป้องกันตัวเองจากอาชญากรรม
3.นักโทษคดีอาญาร้ายแรงเช่นฆาตกรรม ซึ่งมีโทษประหารชีวิต นั่นเอง

ก็ต้องพิจรณาว่าอยู่ในเงื่อนไขข้อไหน

แต่ทุกข้อจะมีกำกับไว้หมด  อย่างการทำสงคราม ห้า,ทำร้ายเด็ก ผู้หญิง และคนบริสุทธ์ คนวางอาวุธ
เงื่อนไขการทำสงคราม ก็มีกำกับไว้ คือ การต่อสู้ เพื่อปกป้องสิทธิเสรีความเป็นมนุษย์ และ สิทธิในการนับถือศาสนาเท่านั้น
วิธีปฏิบัติต่อคู่ต่อสู้  หรือ วิธีการต่อสู้ ก็มีเงื่อนไข ที่ ไม่อนุุญาติให้ทำร้ายหรือ ทรมานเหยื่อ อย่างโหดเหี้ยมแบบที่เห็นอยู่
จึงเป็นการย้ำว่า ความรุนแรงทีเกิดขึ้นในพื้นที่ภาคใต้ ไม่สามารถอ้างความชอบธรรมในประเด็นศาสนาได้เลย

การป้องกันตัว ก็อนุญาติให้ต่อสู้ป้องกันตัวจนกว่า คู่กรณีจะยุติการรุกรานแล้วหนีไป
ไม่ใช่ใหฆ่าคู่กรณี ต่อสุ้จนกว่า จะยุติได้เท่านั้น

หรือ คดีอาญาเช่น ผู้ร้ายฆ่าคนตายโดนโทษประหาร  


ที่สำคัญที่สุดคือ แม้แต่คดีอาญา คู่กรณีสามารถไม่เอาความฆาตกรได้
อิสลามระบุว่า เราสามารถเลือกที่จะใช้ชีวิตแลกชีวิตกับฆาตกร
หรือการให้อภัยก็ได้ แต่ พระเจ้าทรงรักอย่างหลังมากกว่า

อิสลามไม่ได้ปฏิเสธความรุนแรง เพียงแต่เรายอมรับความจิรงของความรุนแรง
เรากินอาหาร เรารุนแรงต่อสัตว์ที่เรากิน แต่เราสำนึกในความรุนแรงที่เราได้กระทำนั้น
ดังนั้นการเชือดสัตว์ จึงมีขั้นตอน มากกว่า ศาสนิกอื่นๆ  การเชื่อดสัตว์มีขั้นตอนที่เพื่อให้สัตว์ทรมานน้อยที่สุด
ซึ่งทำให้มุสลิม ไม่สามารถทานสัตว์เชื่อดจากต่างศาสนิก ที่ไม่เข้าใจขั้นตอนนี้ได้

การกินที่ฟุ่มเฟือยจึงนับเป็นบาปในอิสลาม

พระเจ้าให้มีดมา
มนุษย์มีทางเลือกว่าจะใช้ มีดทำอาหาร หรือ ทำร้ายคน
การใช้มีด อย่างไรคือิสลาม  
คำตอบคือ  แนวทางใดที่นำสู่ความ สงบ และสันติ นั่นคืออิสลามครับ





สรุป
สิ่งที่ศาสนาสอน กับสิ่งที่โลกกำลังเป็นไป อาจจะดูสวนทางกัน
ผมคงตอบได้เพียงสั้นๆว่า บางทครั้งโลกมันไม่ได้เป็นอย่างที่เราอยากให้เป็น
ความจริงของโลกมันไม่ได้มีมิติเดียว ศาสนาอิสลาม?
แยกดินแดน? ยาเสพติด? อำนาจมืดจากรัฐ?
ผลประโยชน์? และอื่นๆอีกมาก  ถ้าใครสนใจเรื่องนี้ ก็ค่อยๆ เปิดมันดูทีละหน้า
แล้วเอาทั้งหมด มาเชื่อมกัน

เราจะเข้าใจปัญหา ถ้าเราลองเปลี่ยนวิธีคิด
วางวิธีคิดแบบคนภาคกลางแล้ว เอาตัวเองมาวางเป็นประชาชนในพื้นที่

ทั้งแบบที่หลงผิด ทั้งแบบที่พยายามสร้างสันติ ทั้งแบบที่อยากให้แยกดินแดน
ทั้งแบบที่โดนรัฐทำร้าย หรือ ไม่ก็ลองเล่นบทขี้ยา หรืออาจจะเล่นบทนายทุนโลภ
หรือ เจ้าหน้าที่รัฐลุแก่อำนาจ นักการเมืองด้วยก็น่าสนใจ

ลองสวมหมวกหลายๆใบ ก็จะเข้าใจปัญหามากขึ้น
ยินดีต้อนรับสู่โลกครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่