๐ เป็นเพียงชายผู้หนึ่งซึ่งพลัดถิ่น
เพื่อแผ่นดินเพื่อชาติมิหันหลัง
มีตะวันสัญลักษณ์ดุจกำลัง
จึงเดินทางลำพังจากบ้านไกล
๐ เป็นเพียงชายหลงใหลศิลปะ
คารวะงานฝีมือไม่สงสัย
ดนตรีกรรมทุกชาติพันธุ์แผกกันไป
ก็เสพซ่านถึงฤทัยไม่ต่างกัน
๐ เป็นเพียงชายคนหนึ่งซึ่งมีรัก
มิอาจหักห้ามใจอันใฝ่ฝัน
จิตพะวงหลงเพ้อมิเว้นวัน
รตินั้นล้นใจจึงยินยอม
๐ เป็นเพียงชายผู้หนึ่งซึ่งอ้างว้าง
มีเพียงรักนำทางค่อยถนอม
อยู่ท่ามกลางความเกลียดชังจึงต้องออม
ด้วยเตรียมพร้อมมิใฝ่รักเกินพักตรา
๐ เป็นเพียงชายคนหนึ่งซึ่งยอมแล้ว
ถึงน้องแก้วเจ้าไร้เสน่หา
ดวงจิตยอมพร้อมทอดกายกายา
ดินกลบหน้า ณ ฝั่งเจ้าพระยาเอย
๐ เป็นเพียงหญิงคนหนึ่งซึ่งวัยอ่อน
ใจซับซ้อนเก่งกล้าว่าเกินหญิง
เพราะรักชาติศาสกษัตริย์ด้วยใจจริง
ไม่ประวิงปกป้องสุดดวงใจ
๐ เป็นเพียงหญิงผู้ซึ้งในดนตรี
เสียงขิมแว่วเร้าฤดีฤาไฉน
ซามิเซ็งหวานเสนาะจากที่ใด
เหงาจับใจแล้วใครเล่าเฝ้าประโลม
๐ เป็นเพียงหญิงคนหนึ่งซึ่งมีรัก
มิอาจหักตรวนสัญญาที่ถาโถม
ใจจึงลอยลับฟ้าขอบโพยม
สุดแสนโทมนัสาพาคร่ำครวญ
๐ เป็นเพียงหญิงคนหนึ่งซึ่งแพ้พ่าย
ต่อหัวใจใครคนหนึ่งจึงคิดหวน
ชั่งน้ำหนักรักน้อยกว่าที่ควร
จึงต้องด่วนว้าเหว่เร่ลำพัง
๐ เป็นเพียงหญิงผู้หนึ่งซึ่งเศร้าโศก
เพราะว่าโลกแห่งนี้ได้หันหลัง
หิ่งห้อยน้อยทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง
เกินปัญญาฉุดรั้งให้กลับคืน
ป.ล. เศร้าไปไหมนี่ ใครอ่านแล้วน้ำตาซึมยกมือด้วย (ตอนแต่งก็แอบน้ำตาซึม ... แลเว่อร์ไปเนาะ)
{คู่กรรม} : โกโบริ และ อังศุมาลิน
๐ เป็นเพียงชายผู้หนึ่งซึ่งพลัดถิ่น
เพื่อแผ่นดินเพื่อชาติมิหันหลัง
มีตะวันสัญลักษณ์ดุจกำลัง
จึงเดินทางลำพังจากบ้านไกล
๐ เป็นเพียงชายหลงใหลศิลปะ
คารวะงานฝีมือไม่สงสัย
ดนตรีกรรมทุกชาติพันธุ์แผกกันไป
ก็เสพซ่านถึงฤทัยไม่ต่างกัน
๐ เป็นเพียงชายคนหนึ่งซึ่งมีรัก
มิอาจหักห้ามใจอันใฝ่ฝัน
จิตพะวงหลงเพ้อมิเว้นวัน
รตินั้นล้นใจจึงยินยอม
๐ เป็นเพียงชายผู้หนึ่งซึ่งอ้างว้าง
มีเพียงรักนำทางค่อยถนอม
อยู่ท่ามกลางความเกลียดชังจึงต้องออม
ด้วยเตรียมพร้อมมิใฝ่รักเกินพักตรา
๐ เป็นเพียงชายคนหนึ่งซึ่งยอมแล้ว
ถึงน้องแก้วเจ้าไร้เสน่หา
ดวงจิตยอมพร้อมทอดกายกายา
ดินกลบหน้า ณ ฝั่งเจ้าพระยาเอย
๐ เป็นเพียงหญิงคนหนึ่งซึ่งวัยอ่อน
ใจซับซ้อนเก่งกล้าว่าเกินหญิง
เพราะรักชาติศาสกษัตริย์ด้วยใจจริง
ไม่ประวิงปกป้องสุดดวงใจ
๐ เป็นเพียงหญิงผู้ซึ้งในดนตรี
เสียงขิมแว่วเร้าฤดีฤาไฉน
ซามิเซ็งหวานเสนาะจากที่ใด
เหงาจับใจแล้วใครเล่าเฝ้าประโลม
๐ เป็นเพียงหญิงคนหนึ่งซึ่งมีรัก
มิอาจหักตรวนสัญญาที่ถาโถม
ใจจึงลอยลับฟ้าขอบโพยม
สุดแสนโทมนัสาพาคร่ำครวญ
๐ เป็นเพียงหญิงคนหนึ่งซึ่งแพ้พ่าย
ต่อหัวใจใครคนหนึ่งจึงคิดหวน
ชั่งน้ำหนักรักน้อยกว่าที่ควร
จึงต้องด่วนว้าเหว่เร่ลำพัง
๐ เป็นเพียงหญิงผู้หนึ่งซึ่งเศร้าโศก
เพราะว่าโลกแห่งนี้ได้หันหลัง
หิ่งห้อยน้อยทิ้งเธอไว้เพียงลำพัง
เกินปัญญาฉุดรั้งให้กลับคืน
ป.ล. เศร้าไปไหมนี่ ใครอ่านแล้วน้ำตาซึมยกมือด้วย (ตอนแต่งก็แอบน้ำตาซึม ... แลเว่อร์ไปเนาะ)